โครงการวิถีแห่งความดี รุ่นที่ ๓

วันนี้คณะผู้บริหารและบุคลากรจากการท่าเรือแห่งประเทศจะได้เดินทางกลับบ้าน กลับไปที่ทำงาน จากการที่เราได้พากันมาถือศีลมาปฏิบัติธรรม ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมารามแห่งนี้

เรากลับไปบ้านกลับไปที่ทำงาน ก็ให้เราตั้งอยู่ในคุณธรรม ได้แก่ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ เราจะทำอย่างไรถึงจะได้คุณธรรมอย่างนั้น...?

คุณธรรมของความเป็นมนุษย์ พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าเราต้องมีศีล ๕ “ถ้าศีล ๕ ไม่ครบ ยังไม่ถือว่าเป็นมนุษย์”

ศีล ๕ นี้ดีมากนะ...

ศีลข้อที่ ๑ พระพุทธเจ้าท่านให้เราเจริญเมตตา

คนเรามันต้องมีเมตตา ถ้าไม่มีเมตตาตัวเราก็ไม่มีความสุข คนอื่นก็ไม่มีความสุข เพราะความเมตตาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด “ศีลข้อแรกนี้พระพุทธเจ้าท่านเน้นเข้าหาความเมตตาเลยนะ”

เราทุกคนถือว่าเป็นผู้ที่มีเมตตาน้อย มีเมตตาอยู่แต่ว่ามันน้อยเหลือเกิน

เราต้องเจริญเมตตาทุก ๆ วัน ถ้าเราไม่มีเมตตามันจะเครียด มองเห็นอะไรมันก็ขวางหูขวางตาไปหมด คนไม่มีเมตตามันไม่มีความสุข มันเป็นสาเหตุให้เกิดโรคต่าง ๆ เกิดโรคกระเพาะ เกิดโรคประสาท เกิดโรคหัวใจ เพราะจิตใจมันขัดเคืองขุ่นเคืองวิตกกังวล มันไปรับเอาแต่สิ่งที่ไม่ดีมาใส่ใจของตัวเอง ไม่รู้จักปล่อยไม่รู้จักวาง คนที่เขาทำไม่ดีก็ไปรับเอามา คนเค้าเป็นโรคประสาท เราก็ไปรับเอามา คนเค้าเป็นบ้าเราก็ไปรับมา เราเลยกลายเป็นคนบ้าไปนะ

พระพุทธเจ้าท่านถึงตรัสว่า “อย่าไปถือคนบ้า อย่าไปว่าคนเมา” ต้องเจริญเมตตาไว้ ถ้าเรามีเมตตาปัญหาทุกอย่างมันจะหมดไป เพราะใจของเรามันไม่มีปัญหา

ศีลข้อที่ ๒ ท่านเน้นเรื่องการเสียสละ เน้นเรื่องเป็นผู้ให้

คนเรานี้ต้องมีความสุขในการเสียสละมีความสุขในการให้ ที่เรามันไม่รวยไม่มีคุณธรรมเพราะเราเป็นคนไม่เสียสละ ติดสุขติดสบายติดขี้เกียจขี้คร้าน ไม่ทำงานก็อยากได้

คนเราต้องเสียสละมาก ๆ ถ้าเราเป็นคนขี้เกียจขี้คร้านมันจะรวยได้อย่างไร  ทำอะไรมันก็ไม่สำเร็จ ที่ท่านตรัสว่าไม่ให้ลักไม่ให้ขโมยของคนอื่นนี้ ความหมายก็คือเป็นคนที่เสียสละนี้แหละ

ถ้าเราไม่ทำเราอยากได้ ก็แสดงว่ามันก็เครือข่ายที่ขโมยทางใจ คือมันมีความอยาก         

ถ้าเรามีความอยาก จิตใจของเรามันก็เป็นเปรตนะ มันต้องเสียสละมันต้องละ ความขี้เกียจขี้คร้านนะ สร้างเหตุสร้างปัจจัยให้มันดี ๆ อนาคตของเรามันจะได้เจริญจะได้สดใส “ความหมายของศีลนี้คือต้องเป็นคนเสียสละต้องเป็นผู้ให้ ต้องเป็นผู้ที่มีความสุขในการทำงาน มีความสุขในการทำความดี”

คนเราถ้าใจกับกายมันอยู่ด้วยกันมีความสุข มันมีความสงบ เพราะความสุขที่แท้จริงมันอยู่ที่จิตใจที่สงบจิตใจที่อิ่มที่พอ ถ้าเราเป็นคนเสียสละผู้หลักผู้ใหญ่ก็รักเรานับถือเราเพื่อนฝูงก็รักนับถือเรา ลูกน้องพ้องบริวารก็รักนับถือเรา เพราะเราเป็นคนเสียสละ เป็นคนใจดีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

การเสียเสียสละนี้ถึงเป็นการเอาของเสีย ๆ ออกจากใจของเรา เราก็จะได้รับแต่สิ่งที่ดี ๆ มาสู่จิตสู่ใจ

พระพุทธเจ้าท่านให้ทุกท่านทุกคนเป็นผู้เสียสละนะ ศีลข้อที่ ๒ นี้ถึงเป็นสิ่งที่ดีมาก เป็นสิ่งที่เกื้อกูลช่วยเหลือเราถ้าเรานำศีลข้อนี้ไปประพฤติปฏิบัติ ส่วนใหญ่เราจะเป็นแต่ผู้เอา ถ้าพูดเรื่องเสียสละมันจะคิดไม่ออก ถือว่าของเสียนี้ไม่ดีนะ ต้องทิ้งมันไปต้องสละไป

 

ศีลข้อที่ ๓ พระพุทธเจ้าท่านให้เราเป็นคนที่ซื่อสัตย์จริงใจต่อครอบครัว บุตรภรรยา สามี พ่อแม่ วงศ์ตระกูล

คนที่อยู่ใกล้เราเราต้องเป็นคนซื่อสัตย์ มีเมตตาต่อเขา เราอย่าไปมองข้ามสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ อย่าเป็นคนมักง่าย ตั้งอยู่ในความประมาท ต้องเป็นคนละเอียด ให้เอาใจใส่ในครอบครัวของตน

คนเรามันก็เหมือนนกครอบครัวหนึ่งที่มันทำรัง มันมีพ่อมีแม่มีลูก วันนึงก็ออกไปทำมาหากิน เพื่อมาเลี้ยงดูกัน มันมีความทุกข์ทั้งกายความทุกข์ทั้งใจความทุกข์ทั้งการดำรงชีพ ทุก ๆ คนที่อยู่ในครอบครัวเรา มันจำเป็นต้องได้รับความเมตตานะ เราจะไปทำดี กับคนไกล ๆ โน้น ๆ เขาเรียกว่ามันผิดปกติ มันไม่ถูก

เวลาพูดกับลูกกับภรรยานี้ก็ฟังไม่ค่อยจะได้ เวลาพูดกับคนไกล ๆ พูดเพราะ พูดหวาน พูดสุภาพ อย่างนี้มันไม่ถูกนะ เราร่ำเรารวยเรามียศมีตำแหน่ง ถ้าครอบครัวเราไม่มีความสุขไม่มีความอบอุ่นมันก็ใช้ไม่ได้ เรารวยก็จริงเรามียศก็จริง ก็ได้แต่ความล้มเหลวในชีวิต เพราะครอบครัวเราไม่มีความอบอุ่น พ่อก็ไปทางหนึ่ง แม่ก็ไปทางหนึ่ง ลูกก็ไปทางหนึ่ง มันแตกความสามัคคีกัน มันเผากันเองในครอบครัว มันไม่ถูกนะ

บ้านเราทำอย่างดี มันร้อนก็ติดพัดลม ติดพัดลมมันเย็นไม่พอก็ติดแอร์ แต่เราเองไปสร้างปัญหา พากันเผาบ้านเผาครอบครัวมันไม่ถูกนะ

ศีลข้อสามนี้เน้นความสุขความอบอุ่นในครอบครัวนะ

บางคนไม่รู้จักนะปฏิบัติธรรมะ จะไปเอามรรคผลสวรรค์นิพพานไกล ๆ โน้น เวลาทำงานก็ไม่มีความสุขในการทำงาน

พระพุทธเจ้าท่านสอนเราให้มีความสุขในการทำงานกับเจ้านาย มีความสุขในการทำงานกับเพื่อน กับลูกน้อง กลับมาบ้านก็มีความสุขในการอยู่กับภรรยาสามีกับลูก ๆ อันไหนมันดีก็ทำ อันไหนมันดีก็พูด อันไหนมันดีก็คิด ทำอย่างนี้มันถึงถูก ปฏิบัติอย่างนี้มันถึงถูก นี่มันข้อวัตรปฏิบัติที่จะนำเราเข้าสู่ความสุขความดับทุกข์นะ

ครอบครัวครอบครัวหนึ่งถ้ามีพ่อมีแม่ดีถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะถ้าคุณพ่อคุณแม่ดีลูก ๆ ก็จะดีเพราะว่ามีคุณพ่อคุณแม่เป็นแบบอย่าง

การที่เราจะพัฒนากุลบุตรลูกหลาน เราจะต้องมาพัฒนาที่พ่อ ที่แม่

อย่างการที่เราพัฒนาสายพันธุ์ของพืช เขาก็ต้องดูว่าสายพันธุ์ของพ่อของแม่มันมาจากไหน เพื่อให้มีพ่อมีแม่เป็นสายพันธุ์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อที่จะให้ได้พันธุ์ที่แข็งแรง ทนต่อแดด ทนอากาศหนาว 

        คำว่าแม่คำว่าพ่อก็คือพระอรหันต์ของลูก คือพระประจำบ้าน

คำว่าแม่คำว่าพ่อคือพระพรหมประจำบ้าน

คำว่าแม่คำว่าพ่อก็คือเทวดาที่คอยปกปักษ์รักษาอำนวยความสะดวกให้

คำว่าแม่คำว่าพ่อนี้คือผู้ให้ผู้เสียสละ คำว่าแม่ว่าพ่อนี้มีความรักความเมตตา ความสงสาร ความเอ็นดู

คำว่าแม่คำว่าพ่อนี้ที่เป็นพระอรหันต์ก็คือการอยู่นอกเหตุเหนือผล อย่างวิทยาศาสตร์มันมีเหตุมีผลมันทะเลาะกัน อย่างที่แม่มีลูกเขาไปอัลตร้าซาวด์หมอบอกว่าเด็กคนนี้ขาลีบนะ สมองฝ่อนะ วิทยาศาสตร์เขาก็บอกว่าให้เอาออก แต่ถ้าเป็นพุทธศาสตร์ เป็นพระอรหันต์อย่างแม่อย่างพ่อเขาก็ไม่เอาออก เพราะว่าความรักเป็นสายเลือด ลูกจะดีจะชั่วให้อภัยตลอด นั่นคือใจของพ่อของแม่นะ ดังนั้นความรักของพ่อของแม่จึงยิ่งใหญ่ จึงเป็นที่ประเสริฐ คือให้ความรักกับลูกเสมอเหมือนกันทุกคน

คนเราถ้าได้ยินคำว่าพ่อว่าแม่มันมีความสุข บัณฑิตนักปราชญ์ทั้งหลายท่านจึงเปรียบไว้ว่า อย่างน้ำท่านก็เรียกว่าแม่น้ำ แผ่นดินท่านก็เรียกว่าแม่พระธรณี คือใจของพ่อของแม่เย็นเหมือนสายน้ำ หนักแน่นเหมือนแผ่นดิน ที่ใครเขาจะด่า ใครเขาจะสรรเสริญ ใครเขาจะเหยียบย่ำ ก็พร้อมที่จะรับไว้แบกไว้ อดทนเข้มแข็ง เป็นแม่ทัพเป็นผู้นำ เพราะฉะนั้นความสุขทุกอย่างมารวมกันอยู่ที่คำว่าพ่อว่าแม่

เราได้ยินคำว่าพ่อว่าแม่แล้วใจมีความสุข ใจมันอบอุ่น เวลาเราเจอความยากลำบาก เจอความเจ็บป่วยไข้ไม่สบาย หรือบางคนที่ใกล้จะตายสิ่งที่ร้องเรียกหาในคำสุดท้ายอันเป็นที่พึ่งก็คือ คำว่าแม่คำว่าพ่อ เพราะคิดถึงแม่ถึงพ่อแล้วมีความสุข แม่และพ่อนี้จึงเป็นปูชนียบุคคลที่พิเศษ อยู่เหนือเศียรเหนือเกล้าของเราทุกคนที่เกิดมา

ตำแหน่งของพ่อของแม่เป็นตำแหน่งที่ทุกคนพร้อมใจกันยินยอมที่จะยกให้ว่าเป็นพระอรหันต์ประจำบ้านประจำตระกูล จึงเป็นตำแหน่งที่สำคัญมาก เป็นตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ ขนาดที่จะสร้างโลกได้

ลูกทุกคนเกิดมาถ้ามีคุณพ่อคุณแม่เป็นคนดีเป็นผู้นำ ลูกก็เป็นคนดี เป็นทรัพยากรของโลกที่ดี โลกก็ร่มเย็น สิ่งนี้ก็เกิดจากใจของพ่อของแม่ที่เป็นผู้ให้

พระพุทธเจ้าท่านจึงเมตตาให้เราทุก ๆ คนปฏิบัติหน้าที่ทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์ ให้สมบูรณ์แบบ ให้สมกับคำที่ว่าเป็นพ่อ เป็นแม่ ถ้าเราจะไปโทษลูกอย่างโน้น โทษเด็กอย่างนี้มันคงไม่ถูกต้อง มันคงไม่ยุติธรรมแก่ลูก ๆ แก่เด็ก ๆ ของพวกเรา

พระพุทธเจ้าท่านให้เราทุกคนกลับมาแก้ไขตัวเอง กลับมาแก้ไขการกระทำของพวกเรา อันไหนไม่ดีเราก็อย่าไปทำ ต้องเพิ่มความดีให้กับตัวเอง อย่าเป็นคนขี้เกียจ เราเป็นผู้นำต้องเป็นคนขยัน เราอย่าไปติดอบายมุขต่าง ๆ ต้องทำแต่ในสิ่งที่ดี ต้องพูดในสิ่งที่ดี ต้องคิดแต่ในเรื่องที่เป็นประโยชน์ คิดที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ไม่มีอะไรที่จะนำเราไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองนำเราไปสู่ความดับทุกข์ได้นอกจากคุณธรรมความดี

เราต้องมีระเบียบมีวินัยเป็นตัวอย่าง ทั้งในความคิดต้องคิดดี ให้มันคิดก็ได้ให้มันหยุดคิดก็ได้ การกระทำคำพูดของพวกเราก็ต้องดี เพื่อเราจะได้พัฒนาความดีหรือว่าสายพันธุ์ของพวกเราให้มันดียิ่ง ๆ ขึ้นไป

เราต้องมีระเบียบวินัยทั้งความคิด การกระทำและคำพูด ท่านก็เปรียบเสมือนว่า รถยนต์คันหนึ่งมันก็ต้องมีระบบการกระบวนการทุกอย่าง มีพวงมาลัย มีเบรก มีคลัช มีคันเร่ง มีเครื่องยนต์ ที่จะเป็นกระบวนการให้เราถึงจุดหมายปลายทางได้ทั้งรถยนต์และคนขับ

ที่เรามีปัญหาทุกวันนี้ ในเรื่องการเงินก็ดี เรื่องที่อยู่ที่อาศัยก็ดี เรื่องครอบครัวก็ดี ที่ปัญหามันเกิดขึ้นมาเพราะว่าเราขาดความดี มีความดียังไม่เพียงพอ มันเป็นชีวิตที่สะเปะสะปะ เป็นชีวิตที่ไม่มีหลักการ ไม่มีจุดยืน

ในภาคของการประพฤติปฏิบัติ อย่างการใช้จ่ายเราก็ต้องมีระเบียบมีวินัยในการใช้จ่าย ถ้าเราไม่มีระเบียบ ไม่บังคับตัวเอง เราก็ต้องเป็นหนี้เป็นสินมีปัญหามาก มีทุกข์มาก ชีวิตก็แย่ลง ๆ 

เราเป็นพ่อเป็นแม่ ต้องมาพัฒนาตัวเองเพื่อที่จะเป็นแบบเป็นตัวอย่างของลูก ๆ ของเด็ก ๆ ถ้าไม่อย่างนั้นลูก ๆ และเด็ก ๆ เขาจะเอาตัวอย่างที่ดี ๆ จากใคร จะเอาตัวอย่างที่ดี ๆ มาจากที่ไหน อย่างการแต่งกายเสื้อผ้าอาภรณ์มันก็เป็นสิ่งที่ดีนะ แต่งสวยแต่งงามเพื่อที่จะทำให้คนอื่นเขารู้สึกดี เห็นแล้วสบายตา เห็นแล้วสบายใจมีความสุข แต่ยังไม่ดียิ่งไปกว่าการที่เราต้องมาแต่งปฏิปทา แต่งการประพฤติแต่งการปฏิบัติของพวกเราให้เป็นคนมีศีล ให้เป็นคนมีการประพฤติปฏิบัติที่งดงาม แต่งคำพูดของพวกเรา คนเคยพูดไม่เพราะ มาแต่งคำพูดให้มันเพราะ คนเคยวุ่นวายให้เป็นคนสงบ คนเคยใจร้ายขี้โกรธก็ทำให้เป็นคนที่มีเมตตาได้

การพูดร้อยครั้งพันครั้งก็ยังไม่สู้การทำให้ดูเพียงครั้งเดียว ทุกวันนี้เด็กเขาไม่ค่อยเชื่อฟังพ่อ เชื่อฟังแม่ มันเกิดจากพ่อแม่ที่ไม่ได้มาตรฐานชอบทำความผิดการกระทำก็ผิด คำพูดก็ผิด ด่างพร้อย เศร้าหมอง การพูดก็พูดไม่ค่อยดี วัน ๆ หนึ่งก็เอาแต่หน้าบึ้ง ทำหน้าตึง พูดกันไม่เพราะ ไม่สุภาพ เถียงกันทะเลาะกันให้เด็กเห็น มันเผาตัวเอง มันก็จะเป็นการเผาลูกเผาสามีภรรยาไปพร้อม ๆ กัน ถ้าอย่างนั้นต้องมาปรับปรุงที่พ่อที่แม่ ลูกเขาจะไม่มีจุดยืน

พระพุทธเจ้าท่านให้เราเลี้ยงลูกสอนลูกตั้งแต่เขาอยู่ในท้องจนถึงเจ็ดขวบให้เราเลี้ยงดูเขาอย่าง “ไข่ในหิน” เลี้ยงอย่าง “พระราชา” เพราะเขายังเล็ก ยังอ่อนแอ ต้องให้ข้าวให้อาหารให้ดี

จากเจ็ดขวบถึงสิบห้าปี เวลานี้เราก็พลิกบทใหม่จากพระราชาก็มาเลี้ยงเขาเหมือน “คนรับใช้” ต้องฝึกต้องสอนกวาดบ้าน ถูบ้าน รับผิดชอบซักเสื้อผ้า ต้องสอนเขาในเวลานี้ เพราะเป็นเวลาที่ควรสอน ควรฝึก “รักวัวให้ผูกรักลูกก็ต้องสอน”

ถ้าเราจะไปสอนตอนที่เขาโตแล้วมันไม่ได้ บางคนปล่อยลูกจนเคยชิน ปล่อยเขาจนเคยตัว พอโตขึ้นมาแล้วก็กลัวว่าจะไม่ได้ดี คราวนี้ก็ไปบ่นไปว่า เด็กมันเลยไม่ชอบ เด็กมันเลยไม่อยากเข้าใกล้ เด็กมันเลยไม่อยากเข้าบ้าน เด็กมันเลยมีปัญหาเพราะว่าพ่อแม่เวลาที่ควรสอนไม่ได้สอนไปสอนผิดเวลา ผิดที่ ชอบว่าลูกหน้าต่อหน้าคนอื่น ชอบเอาสิ่งไม่ดีของลูกไปประจาน บ่นแต่เรื่องเก่า ๆ ทั้งวัน ลูกก็เลยอาย ลูกก็เลยมีปัญหาต้องรู้จักพูดให้กำลังใจกัน บาปที่เกิดจากคำพูดนั้นมากกว่าที่เกิดขึ้นจากกระทำ

เวลาลูกอายุเจ็ดถึงสิบห้าปีต้องฝึกให้ลูกเป็นคนรักประหยัด เพราะความประหยัดเป็นคุณสมบัติของเศรษฐี

      จากสิบห้าปีจนถึงมหาวิทยาลัยเราก็ต้องเปลี่ยนบทใหม่ ตอนนี้เขารักเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ เพราะเขาอยู่กับสังคมไปเรียนหนังสือ ถ้าพ่อแม่บ่นเขาก็หนีไปหาเพื่อน ดังนั้นเราจึงทำตัวเหมือนเพื่อน เวลาเขามีปัญหาเขาจะได้วิ่งมาหาเพื่อนคือพ่อแม่ แต่ถ้าเราใช้มาตรการแบบพ่อแม่ที่จะต้องดุต้องขู่กันตลอดลูกมันก็เลยวิ่งไปหาเพื่อน เจอเพื่อนดีก็ดีไป เจอเพื่อนมีปัญหาก็พากันกินเหล้าเมายาติดยาเสพติด

      เราต้องรู้จักการสอน ถ้าเราทำไม่ถูกวิธีมันเจริญไม่ได้ ทำอะไรก็อยากแต่จะได้ อยากได้สำเร็จรูป  เกิดมาเป็นครูก็อยากที่จะรวยเลย เป็นพ่อเป็นแม่ก็อยากสบายเลย มาบวชเป็นพระก็อยากจะสำเร็จเลย คนเราทุกวันนี้ตัณหามันนำหน้าหมด ชงกาแฟก็อยากได้สำเร็จรูป จะทำความดีตามลำดับขั้นก็ไม่ได้ทำ อยากได้ลูกที่ดีสำเร็จรูป

เมื่อเราโตหรือเราเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นเหมือนกับพ่อกับแม่แล้ว มีอายุมากแล้วก็ไม่มีใครมาสอนเราได้ เราก็ต้องฝึกตัวเอง กลับมาสอนตัวเอง ถ้าเราไม่ได้สอนตัวเอง ไม่ได้มาฝึกมาเป็นคนใจเย็น ไม่ได้มาฝึกเป็นคนใจดีสบาย สามีภรรยาเราก็จะมีปัญหา ลูกเราก็จะมีปัญหา คนรอบข้างเราก็จะมีปัญหา ลูกศิษย์เราก็จะมีปัญหา เพราะส่วนใหญ่เราชอบที่จะไปแก้แต่เรื่องภายนอก

ทุกวันนี้ปัญหาประเทศชาติก็ดี ปัญหาสังคมก็ดี เด็กที่มีปัญหาก็เพราะว่าเราเลี้ยงลูกไม่ถูกวิธีสอนลูกไม่ถูกวิธี ประเทศชาติก็มีเลยปัญหามาก ความยากจน ติดเหล้าติดยา อาชญากรรม ปล้นจี้ ลักขโมย เพราะเด็กที่จะโตเป็นผู้ใหญ่นั้นไม่ได้สเป๊คไม่ได้มาตรฐาน เพราะขาดผู้นำที่ดี

ศีลข้อที่ ๔ พระพุทธเจ้าท่านให้พัฒนาในเรื่องพูด...

คำพูดของเราต้องให้มันเกิดประโยชน์ ต้องพูดดีพูดเพราะพูดสุภาพ พูดความจริง ถ้าแม้แต่ความจริงมันพูดไปแล้วจะทำให้คนอื่นไม่สบายใจเดือดร้อนท่านก็ให้เรานิ่งไม่ให้เราพูด

เรื่องคำพูดนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ปัญหาต่าง ๆ ที่มันแตกแยกความสามัคคีมันมาจากคำพูดเป็นส่วนใหญ่ เพราะคำพูดนี้มันคิดไปมันก็พูดไป บางทีเรายังไม่ได้กลั่นกรอง เรายังไม่ได้วิเคราะห์เราพูดไป เขาเรียกว่าพูดก่อนคิด พูดตามความเคยชิน

คำพูดนี้สำคัญมากจริง ๆ ถ้าพูดไม่ดีไม่ถูกต้องนี่เสียหาย ถ้าพูดดีพูดต้องทำให้เจริญ ทำให้รวยทำให้มีคุณธรรม

ทุกท่านทุกคนต้องปรับปรุงเรื่องคำพูดนะ พระพุทธเจ้าท่านสอนอย่างนั้น...

อย่าได้คิดว่าเราพูดออกมาจากใจ เราคิดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะใจของเราไม่ใช่ใจพระพุทธเจ้าไม่ใช่ใจพระอรหันต์ ใจของเรามันเป็นคนธรรมดา

ผู้ที่จะปกครองคนอื่นได้ ต้องเป็นคนดี ต้องเป็นคนพูดดี พูดเข้ากับผู้หลักผู้ใหญ่ได้ พูดกับเพื่อนได้ พูดเข้ากับรุ่นน้องได้ พูดเข้ากับทั้งคนดีทั้งคนไม่ดีก็เข้ากับเขาได้หมด ทำเรื่องใหญ่ ๆ ไม่ให้มีเรื่องได้

การพูดนี้ถือว่าเป็นประเด็นใหญ่ยิ่งกว่าปริญญาเอก ให้ทุก ๆ คนสนใจนะ สนใจแล้วก็ประพฤติปฏิบัติเพื่อปรับปรุงตนเองแก้ไขตนเอง

เราเป็นคนพูดเก่งพูดฉลาด มันก็ยังไม่พอนะ มันต้องฝึกฟังคนอื่นพูด...

ไม่ใช่ไปที่ไหนไปพูดให้เขาฟัง เมื่อไปพูดให้เขาฟังอย่างเดียว ใครเขาอยากจะเป็นเพื่อนกับเรา

เราพูดอะไรถ้าประกอบไปด้วยความเห็นแก่ตัวนี่มันไม่ถูก มันต้องพูดเพื่อความเสียสละเพื่อละความเห็นแก่ตัว เราเอาจะเอาชนะคนอื่นไม่ได้ เราต้องเอาชนะตัวเอง พระพุทธเจ้าท่านไม่ให้พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ต้องฉลาดการพูดในเรื่องพูด คนเขาถึงจะรักเราเคารพนับถือเรา

คนเราเกิดมาถ้าคนเขาไม่รักไม่เคารพไม่นับถือนี้มันทุกข์มากนะ คนที่ไม่มีเพื่อนไม่มีหมู่ ไม่มีคณะ สาเหตุมาจากคำพูดเรื่องพูดนี้แหละ ต้องรักษาสัจจะรักษาวาจา เป็นผู้ที่มีวาจาชอบ

ศีลข้อที่ ๕ พระพุทธเจ้าท่านให้เราตั้งอยู่ในความไม่ประมาท

คนเราส่วนใหญ่เป็นคนประมาท ตั้งอยู่ในความประมาท เมื่อเราเป็นคนประมาท เราก็ตายจากคุณงามความดีนะ ชื่อว่าความชั่วทั้งหลายทั้งปวงนี้ไม่ทำเลยดีกว่า ไม่ทำไม่พูดไม่คิด

ถ้าเราประมาทนิดหน่อยก็ผิดพลาดนิดหน่อย ไม่ว่าเรื่องอะไร ประมาทในเรื่องขับรถ  มันก็เกิดอุบัติเหตุ ประมาทในคำพูดมันก็มีปัญหา ประมาทในการใช้จ่าย เราใช้จ่ายไม่รู้จักคิด ไม่รู้จักยั้งคิดมันก็เป็นหนี้เป็นสิน ความประมาทนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่นะ...

โอวาทครั้งสุดท้ายของพระพุทธเจ้าก่อนที่ท่านเสด็จดับขันธปรินิพพาน ท่านตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด...”

เราประมาทไป วันนี้เราไหว้พระสวดมนต์ เราไม่รักษาศีล สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ความประมาททั้งนั้น

ความประมาทมันจะลามปามกันไปใหญ่นะ ถึงกับไปดื่มเหล้าดื่มเบียร์

บุหรี่น่ะทีแรกก็สูบมันคือ ๆ สูบให้มันโก้ ๆ ผลที่สุดความประมาททำให้เราติดบุหรี่

เหล้าก็เหมือนกัน ครั้งแรกก็ทดลองดู เพื่อนเขากินก็ลองดู เกิดมาเป็นคนก็ลองกับเขาบ้าง ผลสุดท้ายมันก็ติด บางคนยิ่งแย่ไปกว่านั้น ยาม้าเป็นอย่างไร ยาอีเป็นอย่างไร ทำไมคนเขาถึงติด ลองกับเขาบ้างจะได้ไม่เสียชาติเกิด สุดท้ายมันก็เลยติด

การพนันทุกอย่าง เห็นเค้าเห็นเค้าพนันก็อยากลองกับเขาบ้าง บางทีจะได้มีโชคมีลาภกับเขาบ้าง สุดท้ายเราเลยกลายเป็นคนติดการพนัน

พวกปัญญาชนก็เหมือนกัน ประมาทไป มัวแต่เพลิดเพลินในการโทรศัพท์ ฟังเพลง ดูคอนเสิร์ต เล่นเกมส์ เล่นอินเตอร์เนทอยู่ สุดท้ายบาปกรรมก็มาถึง เวลาสอบเราก็ไม่มีความรู้ไม่มีความสามารถ จิตใจมันร้อนรน คิดอะไรก็ไม่ออก กำปากกาจนเหงื่อกาฬแตกหมด เกิดจากเพราะเราประมาทแท้ ๆ ที่เราไม่ได้ดิบไม่ได้ดี ที่เราไม่มีคุณธรรม

ความประมาทนี้เป็นเรื่องใหญ่นะ พระพุทธเจ้าท่านถึงตรัสถึงเตือนเรา

ศีลทั้ง ๕ ข้อนี้ที่กล่าวมาข้างต้น คือคุณธรรมของความเป็นมนุษย์ เป็นมนุษย์ได้ก็เพราะศีล ๕ นะ

ตั้งแต่ข้อหนึ่งถึงข้อห้านี้มีแต่สิ่งดี ๆ ทั้งนั้น ๆ ทำไมเราถึงพากันกลัวศีล กลัวของดี ๆ กลัวสิ่งที่ดี ๆ ถ้าเรารักษาศีล ๕ เหมือนที่กล่าวมานี้ เราดีแน่ เราเข้าถึงคุณธรรมของความเป็นมนุษย์ เกิดมาก็มีความสุข สุขทั้งกายสุขทั้งใจ เป็นทางดำเนินเข้าสู่สวรรค์ เข้าสู่พระนิพพานตั้งแต่ยังไม่ตาย

ขอทุกท่านทุกคนได้น้อมนำเอาพระธรรมคำสั่งสอนไปใช้ไปปฏิบัติ ชีวิตของเราจะได้เข้าถึง ความประเสริฐด้วยกันทุกท่านทุกคนเทอญ...

 


 

พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่องค์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม เมตตาให้นำมาบรรยาย

ให้แก่คณะผู้บริหารและบุคลากรจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยที่ได้มาถือศีลปฏิบัติธรรมในโครงการ "วิถีแห่งความดี"

ระหว่างวันที่ ๑ - ๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๗

ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

 


  • P1060596
    โครงการวิถีแห่งความดี จัดโดย การท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่ออบรมบ่มอินทรีย์ สร้างความดี สร้างบารมี เสียสละ พัฒนาตนให้เป็นบุคคลที่มีประโยชน์ต่อองค์กร ประเทศชาติ และสังคม ระหว่างวันท...

  • IMG_0298
    โครงการวิถีแห่งความดี จัดโดย การท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่ออบรมบ่มอินทรีย์ สร้างความดี สร้างบารมี เสียสละ พัฒนาตนให้เป็นบุคคลที่มีประโยชน์ต่อองค์กร ประเทศชาติ และสังคม ระหว่างวันท...
Visitors: 77,600