๒๙ พฤษภาคม (สวดพระอภิธรรมคุณพ่อแสวง วัดบุเจ้าคุณ)
ค่ำคืนนี้คณะสงฆ์ ญาติพี่น้อง ลูกหลาน เพื่อนบ้าน ญาติธรรม ได้บำเพ็ญบุญกุศลพิเศษให้กับคุณพ่อแสวง พุทธสูงเนิน ที่ละสังขารวายชนม์ด้วยอายุขัยวัย ๖๘ ปี ย่างเข้า ๖๙ ปี
คุณพ่อแสวงเป็นคนที่ดีมาก ดีพิเศษ เอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิต พัฒนาใจพัฒนาทั้งวิทยาศาสตร์ไปพร้อม ๆ กัน การบำเพ็ญบุญกุศลนั้นคือเอาพระพุทธเจ้าเป็นหลัก ยกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เอาพระพุทธเจ้านำชีวิตเพื่อเป็นหลักการ
การบำเพ็ญบุญกุศลให้กับผู้ที่ละสังขารวายชนม์ให้ทุกท่านทุกคนพากันเข้าใจนะ ผู้ที่ละสังขารวายชนม์ เราทุกคนที่มีชีวิตอยู่ต้องพากันบำเพ็ญบุญกุศลให้กับผู้วายชนม์
ในหมู่บ้านหนึ่ง ๆ จะต้องมีบ้าน มีวัด มีโรงเรียน นี้เป็นโครงสร้างของหมู่มวลมนุษย์นะ ต้องมีบ้านมีที่อยู่อาศัยมีที่ทำมาหากิน แล้วก็ต้องมีโรงเรียนที่ต้องเรียนหนังสือ เขียนหนังสือ เรียนให้อ่านออกเขียนได้
การเรียนการศึกษาของมนุษย์นี้ถึงมีอยู่ทั้งหมด ๑๘ ศาสตร์ ๑๘ ศาสตร์มีอะไรบ้างพอจะบรรยายให้ฟังโดยสังเขป เพราะเวลาน้อยเวลาจำกัด
- ยุทธศาสตร์ วิชานักรบ
- รัฐศาสตร์ วิชาการปกครอง
- นิติศาสตร์ วิชากฎหมายและจารีตประเพณีต่าง ๆ
- วาณิชยศาสตร์ วิชาการค้า
- อักษรศาสตร์ วิชาหนังสือ
- นิรุกติศาสตร์ วิชารู้ภาษาของตนแตกฉานดี และรู้ภาษาของชนชาติที่ติดต่อกัน
- คณิตศาสตร์ วิชาคำนวณ
- โชติยศาสตร์ วิชาดูดวงดาวต่างๆ คือรู้จักว่าดวงดาวนั้น ๆ ตั้งอยู่ทางทิศนั้น ๆ และประจำเมืองนั้น ๆ และรู้จักสีแสงของดวงดาวต่าง ๆ อันบอกลางดีและลางร้ายในกาลบางครั้ง
- ภูมิศาสตร์ วิชารู้พื้นที่ต่างๆ หรือรู้จักแผนที่ของประเทศต่าง ๆ
- โหราศาสตร์ วิชาโหร คือรู้พยากรณ์เหตุการณ์ต่างๆ ได้ และรู้ทายดวงชะตาราศีของคนได้ด้วย
- เวชศาสตร์ วิชาหมอย
- สัตวศาสตร์ วิชารู้ลักษณะของสัตว์และเสียงสัตว์ว่าร้ายหรือดี
- เหตุศาสตร์ วิชารู้เหตุเป็นแดนเกิดแห่งผลว่าร้ายหรือดี
- โยคศาสตร์ ยันตรศึกษา คือรู้จักความเป็นช่างกล
- ศาสนศาสตร์ วิชารู้เรื่องศาสนา คือรู้จักประวัติความเป็นมาแห่งศาสนาทุก ๆ ศาสนาที่มหาชนนิยม เพื่อปฏิบัติไม่ขัดแก่สังคมใด ๆ และรู้คำสอนในศาสนานั้นๆ ด้วย
- มายาศาสตร์ วิชารู้กลอุบาย หรือรู้ตำรับพิชัยสงคราม
- คันธรรพศาสตร์ วิชาคนธรรพ์คือวิชาร้องรำ(ละคอน) ที่เรียกชื่อว่า"นาฏยศาสตร์" และวิชาดนตรีปี่พาทย์ ที่เรียกชื่อว่า "ดุริยางคศาสตร์"
- ฉันทศาสตร์ วิชาประพันธ์ คือแต่งหนังสือได้ ทั้งที่เป็นร้อยกรอง(บทกลอน) และร้อยแก้ว(ความเรียง)
มนุษย์เราต้องมีการเรียนการศึกษา เพื่อความรู้ความเข้าใจในการดำเนินชีวิต มนุษย์เราต้องพัฒนาทั้งวิทยาศาสตร์พัฒนาใจไปพร้อม ๆ กัน ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันสองอย่างนี้ต้องไปพร้อม ๆ กัน ให้เป็นเซทเดียวกัน
การเรียนหนังสือจุดมุ่งหมายก็เพื่อความรู้ความเข้าใจ เพื่อให้อ่านออกเขียนได้รู้จักดีรู้จักชั่ว รู้จักผิดรู้จักถูก มันเป็นความรู้ความเข้าใจไม่ใช่ความจำ มันเป็นความรู้ความเข้าใจ เมื่อมันรู้มันเข้าใจแล้วมันจะจำของมันเอง เหมือนมีแสงสว่างอย่างนี้ ความมืดมันก็หายไป ความรู้ความเข้าใจมันก็เป็นอย่างนั้น
การศึกษาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ ความหมายของการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ก็เพื่อความรู้ความเข้าใจ การฟังการบรรยาย ก็เพื่อความรู้ความเข้าใจ
มนุษย์อยู่ที่ไหนถึงต้องมีโรงเรียน มีการเรียนการศึกษา ด้วยความรู้ความเข้าใจ
มนุษย์ทั้งหลายถึงต้องเอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิต ไม่ทำอะไรตามใจตามอัธยาศัย ตามความไม่รู้ไม่เข้าใจ ต้องเอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิต เพื่อเป็นข้อวัตรข้อปฏิบัติ เพื่อเข้าสู่ความเป็นมาตรฐานเข้าสู่ มอก. ที่เค้าวัดระยะสั้นระยะยาว ตลับเมตรที่เค้าวัดระยะสั้นระยะยาว ตราชั่งที่นั่งน้ำหนัก น้ำหนักเบาน้ำหนักพอปานกลาง หรือน้ำหนักหนัก เค้าต้องมีเครื่องวัดมีเครื่องชั่งน้ำหนัก
มนุษย์เราต้องมีหลักการมีข้อวัตรกิจวัตร มนุษย์เราต้องมีความเข้าใจ ความรู้ความเข้าใจนี้มันจะเป็นปัญญาสัมมาทิฐิ เพื่อเราทั้งหลายจะได้มีศิลปะแห่งชีวิต มันไม่ทำอะไรจากความไม่รู้ไม่เข้าใจ ต้องทำอะไรจากความรู้จากความเข้าใจ
ถ้าเราทำอะไรจากความไม่รู้ไม่เข้าใจ มันไม่ใช่ปัญญา มันเป็นความหลง เขาถึงมีศัพท์ว่า “คน คน” คนนี้แปลว่าวกวนอยู่ที่เก่านะ มันไปไหนไม่ได้ ถึงมีศัพท์นี้ขึ้นมาว่าคนน่ะ คนโน้นคนนี้ มันระคน มันวกวน
ผู้ที่ไปบรรพชาอุปสมบทอุปัชฌาย์ถึงถามว่าเป็นมนุษย์มั๊ย ที่เป็นภาษาบาลีว่า “มนุสโสสิ” แปลความแล้วว่าเป็นมนุษย์มั๊ย ก็ต้องตอบว่า “อามะภันเต” ว่าเป็นมนุษย์น่ะ ไม่ใช่เป็นคน เป็นผู้ที่มีสัมมาทิฐิ ความเห็นถูกต้อง เข้าใจถูกต้อง ปฏิบัติถูกต้อง เอาพุทธะนำชีวิต เอาพระรัตนตรัยนำชีวิต ทั้งกายทั้งวาจากิริยามารยาททั้งอาชีพนำชีวิต ถึงได้ตอบว่า อามะภันเต ว่าเป็นมนุษย์
ท่านพุทธทาสภิกขุเป็นพระดีของเมืองไทย รู้ภาษาใจแล้วก็ภาษาวิทยาศาสตร์พร้อม ๆ กัน เรียกว่ารู้ทั้งภาษาคนแล้วก็ภาษาธรรม ท่านพูดจากใจจากความรู้แจ้งโลกรู้แจ้งธรรม ต้องมีธรรมของความเป็นมนุษย์ถึงจะไม่ตกสู่อบายมุข อบายภูมิด้วยข้อวัตรข้อปฏิบัติ เราทั้งหลายถึงต้องมีข้อวัตรกิจวัตรข้อวัตรปฏิบัติ เราทั้งหลายจะเป็นมนุษย์ได้ก็ต้องเอาธรรมนำชีวิต ไม่ได้เอาความหลงนำชีวิต ถ้าอย่างนั้นมันเป็นมนุษย์ไม่ได้
เป็นมนุษย์ เป็นได้ เพราะใจสูง เหมือนหนึ่งยูง มีดี ที่แววขน
ถ้าใจต่ำ เป็นได้ แต่เพียงคน ย่อมเสียที ที่ตน ได้เกิดมา
ใจสะอาด ใจสว่าง ใจสงบ ถ้ามีครบ ควรเรียก มนุสสา
เพราะทำถูก พูดถูก ทุกเวลา เปรมปรีดา คืนวัน ศุขสันติ์จริง
ใจสกปรก มืดมัว และร้อนเร่า ใครมีเข้า ควรเรียก ว่าผีสิง
เพราะพูดผิด ทำผิด จิตประวิง แต่ในสิ่ง นำตัว กลั้วอบาย
คิดดูเถิด ถ้าใคร ไม่อยากตก จงรีบยก ใจตน รีบขวนขวาย
ให้ใจสูง เสียได้ ก่อนตัวตาย ก็สมหมาย ที่เกิดมา อย่าเชือน เอย ฯ
ในที่ของหมู่มวลมนุษย์อยู่น่ะต้องมีบ้านมีหมู่บ้านมีโรงเรียนเพื่อเรียนเพื่อศึกษาแล้วก็มีวัด วัดเป็นที่อยู่ของพระ พระก็คือนักบวช ผู้ที่ยกเลิกความรู้สึกที่เป็นนิติบุคคลตัวตน ยกเลิกเขายกเลิกเรา ไม่มีความรู้สึกว่าเป็นเขาเป็นเรา เอาธรรมนำชีวิตเอาธรรมนูญนำชีวิต ไม่มีความสำคัญมั่นหมายว่าเราเป็นผู้หญิงผู้ชาย เป็นคนหนุ่มคนสาวคนแก่คนเฒ่าคนชรา ว่าตัวเองดีกว่าเค้า เก่งกว่าเค้า รวยกว่าเค้า มีเพาเวอร์ สูงกว่าเค้า มีปัญญามากกว่าเค้า หรือว่าพอ ๆ กับเค้า หรือว่าสู้เขาไม่ได้
ผู้ที่เป็นนักบวชก็ต้องมีที่อยู่ของนักบวช ถึงมีพระธรรมพระวินัย ถึงมีข้อวัตรกิจวัตรทั้งกายวาจาใจกิริยามารยาททั้งอาชีพ อาชีพที่ยกเลิกความเป็นนิติบุคคลตัวตน ถือนิสัยของพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าคือผู้ที่เอาธรรมนำชีวิต ยกเลิกตัวตน มีแต่พระธรรมมีแต่พระวินัยผู้มาบวชต้องถือนิสัยของพระพุทธเจ้า ไม่ถือนิสัยของตัวเอง นี้ถึงจะเรียกว่าพระ พระธรรมพระวินัย เค้าถึงเรียกผู้ที่มาบวชนั้นเป็นพระ ผู้ที่มาบวชเค้าถึงตั้งฉายาให้ใหม่ ให้ชื่อใหม่ เพราะยกเลิกตัวตนหมดแล้ว
ในหมู่บ้านหนึ่ง ๆ ถึงมีวัด บางแห่งก็มีอยู่สองวัด วัดบ้านวัดป่า จะเป็นวัดบ้านวัดป่าก็ไม่สำคัญ เพราะการเป็นพระนั้นน่ะไม่เกี่ยวกับวัดบ้านวัดป่า เอาพระธรรมเอาพระวินัย ยกเลิกเขายกเลิกเรา มีแต่พระธรรมพระวินัย เป็นการยกเลิกทุจริต
ตัวตนคือทุจริตนะ ถ้าใครมีตัวมีตนบุคคลนั้นเป็นบุคคลทุจริต จะเป็นข้าราชการก็เป็นข้าราชการทุจริต จะเป็นนักการเมืองก็นักการเมืองทุจริต จะเป็นนักบวชก็นักบวชทุจริต จะเป็นพ่อค้าประชาชนล้วนแต่ทุจริตทั้งนั้น
ถ้าเราเอาพระธรรมพระวินัยยกเลิกตัวตน ที่ไหนก็มีแต่ความสงบมีแต่ความวิเวก ตัวตนน่ะคือความไม่สงบคือความไม่วิเวกนะ
พระธรรมพระวินัยให้พวกเรารู้เข้าใจนะ มันจะหยุดสัญชาตญาณความเป็นนิติบุคคลตัวตน มันต้องเข้าสู่ความวิเวก ศีลนั้นถึงความวิเวก สมาธิถึงความวิเวก ปัญญาถึงความวิเวก
หมู่มวลมนุษย์ถ้ายกเลิกตัวตนทุกหนทุกแห่งก็จะมีแต่ความสงบ เพราะความสงบนั้นอยู่ที่เรารู้เข้าใจ เมื่อรู้เข้าใจแล้วเราก็ไม่ไปตามสิ่งแวดล้อม เพราะสิ่งแวดล้อม มันเป็นธรรมเป็นสภาวธรรมให้รู้จักสิ่งแวดล้อมนะ
ให้เรารู้ธาตุทั้ง ๔ ขันธ์ทั้ง ๕ อายตนะภายนอก ๖ ภายนอก ๖ ให้เรารู้เราเข้าใจ เราจะไม่ได้ไปตามสิ่งแวดล้อม
เราคิดดูดี ๆ นะ เรามีตามันถึงมีรูป ถ้าเราไม่มีตารูปมันก็ไม่มี เรามีหูก็มีเสียง ถ้าเราไม่มีหูเสียงก็ไม่มี เรามีจมูกมันถึงมีกลิ่น เรามีลิ้นถึงมีรส มีกายถึงมีสัมผัส เรามีใจถึงมีจิตมันถึงมีอารมณ์ เราต้องรู้เข้าใจว่าอันนี้มันไม่ใช่นิติบุคคลตัว มันเป็นกระบวนการของกระแสของปฏิจจสมุปบาท
เราต้องรู้เข้าใจเรื่องเหตุเรื่องปัจจัย เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปมันต้องมี เรารู้เราเข้าใจ เราก็ไม่ไปตามสิ่งที่เราผัสสะ รูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณเค้าจะเป็นบริสุทธิคุณ ชีวิตของเราถึงจะเป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญา เป็นความรู้ความเข้าใจ เป็นปัญญา เป็นสิ่งที่หยุดวัฏฏสงสาร หยุดเวียนว่ายตายเกิด ไม่ไปตามสิ่งแวดล้อม ด้วยความรู้ความเข้าใจ แต่ก่อนเราไม่รู้ไม่เข้าใจ เราเสียหายมาก ความไม่รู้ไม่เข้าใจนี้มันเสียหายนะ
มนุษย์เราต้องมีหลักการ ถึงมีอุดมการณ์มีอุดมธรรม เพื่อหยุดอุดมหลง
รู้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้พากันหยุดสัญชาตญาณ สัญชาตญาณมันเป็นภาษาบาลี ภาษาไทยก็คือหลงในตัวในตน หลงในความสุข แล้วก็ไม่ชอบความทุกข์ อย่างนี้เค้าเรียกว่าสัญชาตญาณ ไม่อยากแก่ไม่อยากเจ็บไม่อยากตายไม่อยากพลัดพราก อย่างนี้เรียกว่าสัญชาตญาณ
เราเอาความไม่ถูกต้องนำชีวิตไม่ได้ เพราะสัญชาตญาณที่เป็นนิติบุคคลตัวตนนี้มันจะมีแต่ทุกข์เกิดขึ้น ทุกข์ตั้งอยู่ ทุกข์ดับไป นอกจากทุกข์ไม่มีเลย
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสว่าให้รู้เข้าใจ ถ้าไม่รู้ไม่เข้าใจแล้วมันจะหาเรื่องหาราวให้กับตัวเอง หาเรื่องหาราวให้กับคนอื่นด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ
ศัพท์คำว่าตัณหานี้มันลึกซึ้งกินใจ มันหาเรื่องหาราวให้ตัวเองแท้ ๆ หาเรื่องหาราวให้ตัวเองยังไม่พอ หาเรื่องหาราวให้คนอื่น
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านบอกว่า มันเป็นความอยาก มันเป็นความทะยานอยากด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ เปรียบเสมือนทะเลที่ไม่อิ่มด้วยน้ำ มหาสมุทรไม่อิ่มด้วยน้ำ เป็นไฟเป็นอันตรายไม่อิ่มด้วยเชื้อเพลิง ไม่เข้าถึงปัญญา บริสุทธิคุณ ไม่เข้าถึงความพอดีความพอเพียงเพียงพอ
เราทั้งหลายพากันคิดดูดี ๆ นะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ของเมืองไทย ท่านพูดจากใจที่เป็นบริสุทธิคุณว่า เราทั้งหลายต้องเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เราอยากได้มากมันก็ไม่มากก็เท่าเก่า เราอยากได้น้อยมันก็ไม่น้อยก็เท่าเก่าน่ะ เราต้องเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เราจะไม่ได้วิ่งตามความหลง เราจะได้หยุด เราต้องรู้จักพอ
ท่านพูดกับชาวไทยและชาวโลกว่ามนุษย์เราต้องรู้เข้าใจ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจ ผู้ที่ไม่มีทรัพย์สมบัติก็จะเป็นทุกข์เพราะไม่มี ผู้ที่มีทรัพย์สมบัติอยู่แล้วก็จะเป็นทุกข์เพราะไม่รู้จักพอ สองคนนี้ก็มีทุกข์พอ ๆ กันนั่นแหละ ต้องรู้เข้าใจ
เราต้องเข้าถึงคุณเข้าถึงประโยชน์นะ คำว่าคุณนี้เป็นศัพท์ที่มาก
เราจะได้เอาธาตุทั้ง ๔ ขันธ์ทั้ง ๕ อายตนะภายใน ๖ ภายนอก ๖ มาเป็นคุณเป็นประโยชน์ มาเป็นข้อสอบมาเป็นโจทย์ ต้องตอบด้วยความรู้ความเข้าใจ ด้วยเอาพระธรรมเอาพระวินัยเอาธรรมนูญนำชีวิต
เราจะเข้าถึงบริสุทธิคุณทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพด้วยความรู้ความเข้าใจด้วยเจตนา เน้นมาที่ตัวเรานี้แหละ
การปฏิบัติธรรมถึงไม่มีต่อหน้าและลับหลัง มันเป็นความรู้ความเข้าใจ เมื่อเรารู้เข้าใจแล้วมันจะไม่มีต่อหน้าและลับหลัง
การประพฤติการปฏิบัติถ้าเรามีต่อหน้าและลับหลังแล้วมันจะเป็นความไม่ถูกต้อง มันยังเอาตัวตนนำชีวิต เอาวิทยาศาสตร์นำชีวิต ไม่ได้พัฒนาใจพร้อม ๆ กับทางวิทยาศาสตร์นะ
เราต้องรู้ต้องเข้าใจ การปฏิบัติธรรมปฏิบัติธรรมนูญไม่มีต่อหน้าและลับหลังเน้นมาที่ใจของเรา เน้นที่ปัญญาของเรา ไม่มีต่อหน้าและลับหลัง
การที่ทำอะไรต่อหน้าและลับหลังมันเป็นการจัดฉากนะ การที่จะทำอะไรเพื่อเสียสละ เพื่อละตัวละตนไม่ใช่เพื่อหลอกลวงไม่ใช่เพื่อการจัดฉากนะ
การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เพื่อละความเห็นแก่ตัว คือการถือศีลปฏิบัติธรรม การทำอะไรต่าง ๆ เพื่อละความเห็นแก่ตัวนะ ไม่ได้ทำเพื่อหลอกลวงนะ
เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมีต่อหน้าและลับหลังมันไม่ใช่ ๑๘ มงกุฏนะ มันมากกว่า ๑๘ มงกุฏนะ ถือว่าเป็นนักหลอกลวงนักต้มตุ๋นนะ ที่ทำอะไรให้ผู้อื่นยอมรับ ผู้อื่นเค้าเลื่อมใส นี้ถือว่ายังเป็นนักหลอกลวงนักต้มตุ๋น
อย่างเราเป็นผู้หญิงผู้ชายแต่งหน้าแต่งตานั้นมันดีแล้ว ใส่เสื้อผ้าอาภรณ์นี้มันดีแล้ว ที่อยู่ที่อาศัยมันดีแล้ว แต่เราต้องทำไปเพื่อไม่ใช่หลอกลวง
การทำอะไรที่หวังให้คนอื่นเค้าโอเค เค้ายอมรับ มันคือของปลอมนะ ไม่ใช่ของจริงนะ เป็นของหลอกลวง
เราต้องรู้เข้าใจ เราต้องทำให้ดี ๆ ให้ถูกต้อง ถ้าเราไม่ทำให้ดี ๆ ไม่เสียสละ มันไม่ถูกต้องนะ มันไม่ใช่การปล่อยวางนะ มันเป็นการปล่อยปะละเลยนะ ที่น้ำก็ไม่อาบ ฟันก็ไม่แปรงบ้านช่องก็สกปรกรกรุงรัง ถ้วยโถโอจานก็สกปรกหมด ห้องน้ำห้องสุขาก็เหม็นหมดอย่างนี้ อันนั้นมันไม่ใช่การปล่อยวาง มันเป็นการปล่อยปะละเลย
การที่เราทำให้ดีให้สะอาดให้เรียบร้อยเพื่อละการเห็นแก่ตัวนะ การเรียนหนังสือนี้ก็เพื่อละความเห็นแก่ตัว ละความเห็นแก่ตัวยังไม่พอก็ยังมีความสุขมีปิติในการประพฤติการปฏิบัติเพราะอันนี้มันดีมันถูกต้อง การทำการทำงานก็ต้องมีปิติมีความสุข การที่เราถือศีลปฏิบัติธรรมก็ต้องมีความสุขมีปิติมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ
หมู่มวลมนุษย์ทั้งหลายต้องมีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ
ถ้าเราไม่มีปิติไม่มีความสุขไม่มีความเป็นหนึ่งเป็นเอกัคคตาที่เอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิต เราทั้งหลายจะพากันเป็นผู้มีความทุกข์นะ จะพากันเป็นโรคซึมเศร้า ภาษาหมอปัจจุบันนี้เค้าเรียกว่าโรคซึมเศร้า เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เอาความชอบไม่ชอบ ชอบก็จะเอาไม่ชอบก็จะไม่เอา เค้าเรียกว่ามันเป็นโรคไบโพล่า หัวใจเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา มันไม่ใช่ทางสายกลางนะ
เราต้องรู้เข้าใจว่าเราทั้งหลายต้องมีปิติมีความสุขในการเอาธรรมนำชีวิต หัวใจมันจะไม่เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเหมือนแผ่นดินไหว เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พังทลายนะ เป็นเหตุเป็นปัจจัยไม่สงบ เป็นบุคคลมีตั้งแต่บ้านภายนอกนะ ไม่มีบ้านภายในบ้านทางจิตทางใจ เราไม่รู้ไม่เข้าใจ มันพังทลายเหมือนตึก สตง.นะ แน่นอน
ความไม่รู้ไม่เข้าใจ เอาความหลงนำชีวิต ชีวิตนี้มันพังทลายล้มละลายพังเหมือนตึก สตง.
ตึก สตง.นั้นน่ะ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจความบริสุทธิในเรื่องโกงกินคอร์รัปชั่น ไปแก้ไขไปตรวจแต่คนอื่น ไม่ได้แก้ไขตัวเอง การพัฒนาวิทยาศาสตร์ มันก็ต้องพัฒนาใจไปพร้อม ๆ กัน ถ้าไม่อย่างนั้นมันจะพังทลายเหมือนตึก สตง.
ตึก สตง.อยู่ที่กรุงเทพมหานคร ตึก ๓๐ กว่าชั้น ตึก สตง.ด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ เอาความหลงนำชีวิตเอาทุจริตนำชีวิต ชีวิตมันเลยพังทลาย ชีวิตมันพังทลายนะ ตึกสตง.มันพังทลายด้วยนิติบุคคลตัวตนพังทลายด้วยทุจริตมันจะไปแก้ไขตั้งแต่ภายนอกมันจะไปพัฒนาตั้งแต่วิทยาศาสตร์จะไปเอาความสุขบนความหลงชีวิตเลยพังทลายนะ
เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งน่ะ เราคิดดูดีๆ นะ ตึกใหญ่กว่าสูงกว่าตึก สตง.ตั้งหลายสิบตึกที่กรุงเทพมหานครที่ปริมณฑล เค้าไม่พังทลายเหมือนตึกสตง. เพราะพอที่จะรับน้ำหนักได้ ไม่ใช่ไม่โกงกินคอร์รัปชั่นนะ แต่เค้าโกงกินคอร์รัปชั่นน้อยพอที่จะรับแผ่นดินไหวจากมัณฑะเลย์ประเทศพม่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ประเทศพม่าห่างไกลกันตั้งนับพันกิโล
นี้ให้เรามองเห็นในแง่มุมความไม่ถูกต้องน่ะ ชีวิตที่เอาความไม่ถูกต้องนำชีวิต มันก็ต้องพังทลายเหมือนตึก สตง.นี้แหละ
เราทั้งหลายถึงต้องเป็นผู้ละอายต่อบาปเกรงกลัวต่อบาป เห็นภัยในวัฏฏสงสาร รู้จักความคิดรู้จักอารมณ์เหมือนท่านพระอาจารย์ลี ธัมมธโร สมุทรปราการ ท่านรู้จักความคิดการปรุงแต่งของตัวเอง
เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ชีวิตของเราทั้งหลายมันก็ต้องพังทลาย เพราะมันไม่ถูกต้อง มันก็ต้องพังทลายเหมือนตึก สตง. นี้แหละ
ตึก สตง.ที่อยู่กรุงเทพมหานครอยู่เมืองหลวงอยู่เมืองกรุง เป็นศูนย์รวมของประเทศ เหมือนสมองเป็นศูนย์รวมของร่างกาย เหมือนหัวใจเป็นศูนย์รวม ของสรีระร่างกาย
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่บริหารประเทศ บริหารแผ่นดินไม่เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ เอาแต่ความรู้เอาแต่วิทยาศาสตร์เอาแต่ตัวเอาแต่ตนไปแก้แต่สิ่งภายนอก ไม่ได้แก้ตัวเองไปพร้อม ๆ กัน
การพัฒนาวิทยาศาสตร์มันต้องพัฒนาใจไปพร้อม ๆ กันมันถึงถูกต้องนะ พัฒนาทั้งภายนอกภายในด้วยความรู้ความเข้าใจให้ครบวงจร อริยมรรคองค์แปดถึงเป็นความรู้ความเข้าใจ เพื่อการประพฤติการปฏิบัติมันจะได้สมบูรณ์ สมบูรณ์ทั้งกายวาจาใจกิริยามารยาทอาชีพด้วยความถูกต้อง
มันต้องรู้ธรรมรู้ปัจจุบันธรรม รู้ธรรมธรรมนูญน่ะ ถ้าเราไปจัดการแต่สิ่งภายนอก เราไม่ได้จัดการตัวเองมันก็ต้องพังทลายเหมือนตึก สตง.นี้นะ
การบริหารตัวเองบริหารบุคคลอื่น มันต้องรู้เข้าใจแล้วมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์
ถ้าเรามีปิติมีสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติมันก็ไม่มีความทุกข์อยู่แล้ว ด้วยความรู้ความเข้าใจ
เราต้องรู้จักการประพฤติการปฏิบัติ ทั้งกายวาจาใจกิริยามารยาทอาชีพ เราต้องเน้นมาที่ตัวเราในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง ให้มันสมบูรณ์ เราทั้งหลายจะไม่ได้พังทลายเหมือนตึก สตง.
ถ้าใครมีตัวมีตนบุคคลนั้นคือทุจริตนะ เราทั้งหลายจะได้รู้ว่าทุจริตนั้นคือตัวตนน่ะ ใครเอาตัวตนนำชีวิตบุคคลนั้นคือบุคคลที่ทุจริต เราต้องรู้จักธรรมรู้จักธรรมนูญ ปัญหาต่าง ๆ นั้นมันอยู่ที่ทุจริตนะ
การที่จะบริหารตัวเองบริหารบุคคลอื่นต้องยกเลิกทุจริต ถึงจะเป็นนักบริหารตัวเองนักบริหารคนอื่นด้วยการรู้เข้าใจในการบริหารในการปฏิบัติ
ตำแหน่งที่เค้าแต่งให้เราเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นตำแหน่งที่ให้เรามาเสียสละ มารับผิดชอบโฟกัสในการประพฤติการปฏิบัติ ไม่ใช่ตำแหน่งที่ให้พวกเราทั้งหลายมาทุจริตนะ
ให้ถือว่ามันเป็นตำแหน่งที่ทรงเกียรติมีเกียรติมีศักดิ์ศรี เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มันจะมีเกียรติมีศักดิ์ศรีได้อย่างไร ถึงพวกเราทั้งหลายจะพากันใส่สูทผูกเนคไทเป็นผู้ทรงเกียรติมันก็ไม่เป็นผู้ทรงเกียรตินะ มันเป็นผู้ทรงความหลงต่างหาก ทรงความโง่ความหลงงมงายต่างหากล่ะ
เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจเราจะเข้าถึงบริสุทธิคุณ เข้าถึงธรรมนูญเข้าถึงรัฐธรรมนูญไม่ได้ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันเป็นอบายมุขอบายภูมินะ มันตกอยู่ในภพภูมิของ ๓๑ ภพภูมิ
ในภพภูมิของวัฏฏสงสารนี้มีอยู่ ๓๑ ภพภูมิ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจมันก็จะอยู่ในระนาบของ ๓๑ ภพภูมินี้แหละ
เค้าถึงมีศัพท์ว่าคน คนนี้หมายถึงตัวถึงตน หมายถึง ๓๑ ภพภูมินี้แหละ ภพภูมิที่เวียนว่ายตายเกิดมีทั้งหมด ๓๑ ภพภูมิ
เราต้องรู้เข้าใจ เราจะได้ประพฤติปฏิบัติ เราจะไม่ได้ย่ำต๊อกกับความหลงที่มีศัพท์ว่า “คน” คนนี้ความหมายหมายถึงความไม่รู้ไม่เข้าใจ ความไม่รู้ไม่เข้าใจนั้น มันจะวกวนอยู่ที่เก่า มันจะเป็นผู้ไม่มีศีลไม่มีสมาธิไม่มีปัญญา สัมผัสกับอะไรก็ไปกับสิ่งนั้น ๆ อยู่ในภพภูมินั้น ๆ
เรารู้เราเข้าใจเราจะได้หยุดภพภูมินั้น ๆ ด้วยความรู้ความเข้าใจด้วยการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อเราทั้งหลายจะได้ว่างจากสิ่งที่มีอยู่ด้วยความรู้ด้วยความเข้าใจ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจเค้าเรียกว่ามันหลง มันวกวนในความหลงอย่างนั้น จิตใจวกวน อย่างนั้นมันจะไปไหนไม่ได้ มันจะเป็นได้แต่เพียงคนเป็นได้แต่เพียงความหลง หัวใจของบุคคลนั้นมันจะอยู่ในระนาบแห่งความหลงหรือว่าหัวใจบ่อนคาสิโน เอาตัวตนเป็นที่ตั้งคือหัวใจบ่อนคาสิโน หัวใจบ่อนทำลายความถูกต้อง หัวใจบ่อนความหลง
ให้เรารู้เข้าใจ เราจะได้เห็นภัยในความไม่ถูกต้องเห็นภัยในวัฏฏสงสารด้วยปัญญาบริสุทธิคุณ ด้วยเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ พอใจยินดีมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อเอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิต หัวใจของเราทั้งหลายจะได้หยุดอบายมุขอบายภูมิ
เราทั้งหลายถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจ เราทั้งหลายจะพากันคิดว่า ความสุขทั้งหลาย ได้มาจากสิ่งที่อำนวยความสุขความสะดวกความสบายด้วยการพัฒนาวิทยาศาสตร์ อันนี้จริงอันนี้ถูกต้อง ความสุขทั้งหลายมันอยู่พัฒนาหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์
เราทั้งหลายต้องมีสัมมาทิฐิเราต้องมีความรู้ความเข้าใจพัฒนาวิทยาศาสตร์ก็ต้องพัฒนาใจไปพร้อม ๆ กัน ถ้าเราพัฒนาวิทยาศาสตร์มันก็ยังเป็นนิติบุคคลตัวตนอยู่
เราต้องพัฒนาใจไปพร้อม ๆ กันด้วยความรู้ความเข้าใจเราทั้งหลายน่ะ ถึงเป็นการพัฒนาครบวงจรด้วยความรู้ความเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจก็จะเอาความหลงนำชีวิตเอาวิทยาศาสตร์นำชีวิต
เราต้องเอาทั้งวิทยาศาสตร์เอาทั้งจิตใจไปพร้อม ๆ กันนะ
เราอย่าไปคิดว่าประเทศสิงคโปร์นั้นน่ะประเทศเล็ก ๆ เท่าอำเภอหนึ่งของเมืองไทยก็ไม่ได้ เค้าพัฒนาหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์เป็นหนึ่งของเอเชีย เพราะเค้าตั้งบ่อนคาสิโน มาเก๊าส่วนหนึ่งของประเทศจีนเค้าก็รวยเพราะเค้าพัฒนาตามหลักเหตุตามหลักวิทยาศตร์
พวกเราทั้งหลายเมื่อมีปัญญาแล้วต้องรอบคอบนะ มีปัญญาแล้วต้องรอบคอบ อย่าลืมว่าชีวิตของเรามันเป็นรายรับรายจ่ายนะ เราไปจับหางงูเดี๋ยวงูมันจะมากัดเรา งูพิษมันจะมากัดเรานะ การที่เราเอาหลักการอุดมการณ์มันดีแล้วถูกต้องแล้ว เราต้องมีหลักการมีอุดมการณ์แล้วก็มีอุดมธรรมนะ หลักการอุดมการณ์มันดีแล้วถูกต้องหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์น่ะ แต่ต้องไม่ทิ้งอุดมธรรมนะ
เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งเอาความรู้สึกที่เอาตัวเป็นที่ตั้งมันเป็นหลักการ เป็นอุดมการณ์แล้วอุดมด้วยความหลงนะ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านให้เราเอาทั้งหลักการอุดมการณ์แล้วก็ยกเลิกอุดมหลงนะ
ให้เอาอุดมธรรมให้เอาธรรมเอาธรรมนูญมันถึงจะสมบูรณ์เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอเข้าถึงความพอดี เราอยากได้มากมันก็ไม่มาก เราอยากได้น้อยมันก็ไม่น้อย เราต้องรู้จักความพอดีเข้าสู่ความสมดุลทั้งรายรับรายจ่าย
เหมือนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอเข้าถึงความพอดี การประสูติของพระพุทธเจ้าถึงเป็นวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ ตรัสรู้ก็เป็นวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานก็วันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ
เราต้องรู้เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ เราทั้งหลายจะได้รู้หลักการรู้อุดมการณ์แล้วก็อุดมธรรม เราอยู่ที่ไหนก็พากันปฏิบัติได้ เมื่อเรามีลมปราณ มีอายตนะภายใน ๖ ภายนอก ๖ มีธาตุทั้ง ๔ ขันธ์ทั้ง ๕ อยู่ที่ไหนก็ปฏิบัติได้
ให้รู้เข้าใจมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ
อย่าไปคิดด้วยอวิชชาความหลงเอาแต่หลักการอุดมการณ์เอาแต่วิทยาศาสตร์น่ะ ถ้าเรารวย รวยความหลงมันไม่ดีนะ รวยความโง่หลงงมงายเรียกว่ารวยไสยศาสตร์มันไม่ดีนะ ไม่ใช่ความดีมันไม่ใช่บารมีไม่ใช่ปัญญาบริสุทธิคุณนะ มันเป็นความหลงนะ
ให้เรารู้เข้าใจ อย่าไปคิดว่าทำไมเราโง่ไปตั้งหลายปี ประเทศสิงคโปร์ประเทศเค้าเล็กนิดเดียวเค้าตั้งบ่อนคาสิโนเค้ารวยกัน ประเทศมาเก๊าก็เหมือนกัน เค้ารวยกัน
ประเทศสิงคโปร์เค้ามีหลักเหตุผลมีหลักวิทยาศาสตร์น่ะ เค้าคิดว่าประเทศสิงคโปร์มันเล็กนิดเดียว จะทำเกษตรกรรมก็ไม่ได้ จะทำอุตสาหกรรมก็ไม่ได้ ถ้าเราตั้งบ่อนคาสิโนด้วยหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์ก็รวยได้ เพราะคนในนี้โลกนี้ มันคนมีความไม่ฉลาด เอาความหลงนำชีวิต เอาตัวตนนำชีวิตมันมีมาก ถ้าเราตั้งบ่อนคาสิโน เราสามารถรวยได้ทางวัตถุ ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ เค้าถึงพากันตั้งบ่อนคาสิโน จะเรียกบ่อนคาสิโนก็ได้หรือเรียกบ่อนแห่งความหลงก็ได้ มันคืออันเดียวกัน
ให้เรารู้เข้าใจ ประเทศไทยเราแผ่นดินกว้างใหญ่ไพศาลเราต้องรู้เข้าใจว่า เราทั้งหลายอย่ายินดีในการเอาความหลงนำชีวิต อย่าไปยินดีในการเอาบ่อนคาสิโน นำชีวิตนะ
พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ศาสดาทุกศาสนาเค้ามายกเลิกบ่อนคาสิโน มายกเลิกอบายมุขอบายภูมิ ให้เรารู้เข้าใจ ถ้าเรารู้เข้าใจ ทุกอย่างน่ะไม่มีปัญหา ปัญหาอยู่ที่เราไม่รู้ไม่เข้าใจนะ
เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้มีข้อวัตรข้อปฏิบัติให้กับตัวเอง เราเอานิติบุคคลตัวตนนำชีวิตน่ะ อย่างนี้มันไม่ได้ไม่ถูกต้อง เราเอาตัวตนนำชีวิต เอาความรู้สึกนำชีวิตไม่ใช่ธรรมนูญ ลูกเราก็ไม่โอเค หลานก็ไม่โอเคนะ ลูกหลานก็ออกมาเถียงมาโต้มาย้อนศรนะ
เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ข้าราชการนักการเมืองนักบวชน่ะเค้าก็พากันออกมาเดินขบวน ทั้งที่การเดินขบวนมันยากมันลำบากมันไม่มีงบประมาณ
เราทั้งหลายต้องรู้ต้องเข้าใจ ถ้าไม่รู้ไม่เข้าใจเราก็จะเอาความหลงนำชีวิต ย่ำต๊อกอยู่กับความหลง เราไปเข้าโรงเรียน โรงเรียนก็หมายถึงความรู้ ความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัติเพราะว่ามันเป็นเซทเดียวกัน ถ้าอย่างนั้นเราจะมีความรู้ไว้ทำไม มีโรงเรียนไว้ทำไม มีวัดไว้ทำไม เราต้องรู้เข้าใจ เพราะมันเป็นเซทเดียวกัน เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เรียนหลายปีเกินเดี๋ยวเค้าจะรีไทร์ออกนะ มันย่ำต๊อกอยู่กับความหลง ย่ำต๊อกอยู่ในตัวตน เดี๋ยวจะถูกรีไทร์ออกนะ
ปัจจุบันเป็นวาระสำคัญแห่งชาติ เราต้องรู้เข้าใจ กายวาจากิริยามารยาทอาชีพ ต่อถึงเรื่องจิตใจมันเป็นสิ่งที่สำคัญ มันเป็นวาระแห่งชาติทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพ ให้ถือว่าสำคัญ
เราทั้งหลายต้องพากันมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เราทั้งหลายจะไม่ได้ย่ำต๊อกอยู่ที่เก่า อย่าพากันบริโภคของเก่า
เราต้องรู้เข้าใจว่าความยึดมั่นถือมั่นนิติบุคคลตัวตนมันคือของเก่านะ
เรามองดูแง่มุมของผู้ที่เอาตัวตนนำชีวิตมันไม่เข้าใจของเก่าของใหม่นะ
เอาตัวตนเป็นที่ตั้งเป็นคนไม่ทันโลกไม่ทันสมัยไม่ทันกาลไม่ทันเวลา เป็นผู้ไม่บรรลุนิติภาวนะ ถึงจะเรียนจบปริญญาเอกเป็นศาสตราจารย์เป็น ปธ.๙ เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เอาความหลงนำชีวิต เรียกว่าเป็นคนไม่บรรลุนิติภาวะนะ เพราะเป็นคนพัฒนาแต่วิทยาศาสตร์ไม่พัฒนาใจไปพร้อมกัน ไม่เป็นผู้แก่เรียนเป็นผู้แก่ความหลงนะ
ให้รู้ให้เข้าใจ คำว่าคุณหรือเป็นที่อยู่ที่อาศัยเป็นพระนิพพานบ้านของเรา ยกเลิกตัวตนทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพเราจะเข้าถึงบริสุทธิคุณทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพนะ
เราทั้งหลายอยู่บ้านบุเจ้าคุณสถานที่ที่มีคุณ เพราะเราทุกคนเป็นมนุษย์ เป็นผู้ที่ประเสริฐ อายุขัยของมนุษย์มันอยู่ได้ร่วมศตวรรษหนึ่ง ศตวรรษหนึ่งคือร้อยปี ถ้าพัฒนาดี ๆ พัฒนาทั้งวิทยาศาสตร์พัฒนาทั้งใจไปพร้อม ๆ กันมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติมันอยู่ได้มากกว่าร้อยปีนะมันจะเข้าถึงคุณน่ะ
บ้านที่เป็นคุณคือศีลคือสมาธิคือปัญญาเราทั้งหลายต้องกลับมาหาบ้านของเรานะ บ้านของเราคือพระนิพพานนะ ไม่ใช่ความหลงนะ
ขออนุโมทนากับท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายเป็นทั้งคนดีเป็นทั้งคนมีปัญญาเป็นคนมีปัญญาเป็นคนดีได้สมัครสมานสามัคคีมาร่วมรวมกันเพื่อบำเพ็ญกุศลมอบให้ส่งให้กับคุณพ่อแสวง พุทธสูงเนิน ผู้ที่ละสังขารวายชนม์
ด้วยบุญกุศลที่พวกเราได้สมัครสมานสามัคคีนี้ จงเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ไปสู่สุคติสรวงสวรรค์มรรคผลนิพพาน
เราจะจัดงานบำเพ็ญบุญกุศลอย่างนี้ทุก ๆ วัน มีการสวดมีการแสดงธรรม อุทิศบุญกุศลจนกว่าจะประชุมเพลิง ให้สมัครสมานสามัคคีกัน สุขทุกข์ร่วมกัน ให้พากันมาทุกบ้านทุกหลังคาเรือน บ้านบุเจ้าคุณ บ้านคลองปลากั้ง บ้านทรัพย์ทวี บ้านใกล้เรือนเคียง เพื่อความพร้อมเพรียงความสมัครสมานสามัคคีกัน ไม่ต้องให้ออกการ์ดบัตรเชิญมาในงานให้มาร่วมงาน ให้ทุกท่านทุกคนเข้าใจอย่างนี้นะ
----------------------------------
โอวาทขององค์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
เมตตาให้ไว้ในงานสวดพระอภิธรรมคุณพ่อแสวง พุทธสูงเนิน
ณ วัดบ้านบุเจ้าคุณ ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
ค่ำวันพฤหัสบดีที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘