๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
วันนี้เป็นวันที่ ๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ ของศาสนาพุทธ คริสต์ศักราช ๒๐๒๕ ของศาสนาคริสต์ ฮิจเลาะห์ศักราช ๑๔๔๖ ของศาสนาอิสลาม
“สุคโต” อยู่ก็เป็นสุข ไปก็เป็นสุข เราก็เป็นสุข คนอื่นก็เป็นสุข เพราะรู้แจ้งโลกรู้แจ้งธรรม รู้ทั้งธรรมรู้ทั้งโลก ปฏิบัติทั้งใจทั้งวิทยาศาสตร์ไปพร้อม ๆ กัน เป็นผู้อยู่ก็มีแต่ความสุข จากไปก็มีความสุข กุลบุตรลูกหลานผู้สืบตระกูลก็มีความสุข ด้วยเอาธรรมนำชีวิต
ให้พวกเราพากันรู้พากันเข้าใจ ให้เอาพระธรรมพระวินัยเป็นเครื่องอยู่เป็นเครื่องดำเนินชีวิต มีพระธรรมพระวินัยทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพทั้งใจ
ให้เราทั้งหลายพากันตั้งใจพากันตั้งมั่น ให้มีหลักการอุดมการณ์อุดมธรรม
ให้เรารู้จักอาวาสของตัวเอง อาวาสคือที่อยู่ที่อาศัย ที่อยู่ที่อาศัยคือพระธรรมคือพระวินัย คำว่าพระนี้คือเป็นผู้เสียสละ ถ้าเราไม่เสียสละมันก็เป็นพระไม่ได้ เป็นพระธรรมเป็นพระวินัยไม่ได้ มันก็จะเป็นตัวเป็นตน
การประพฤติการปฏิบัติของเราให้เน้นที่ปัจจุบัน ให้ปฏิบัติที่ปัจจุบัน
ปัจจุบันต้องเข้าถึงบริสุทธิคุณทั้งกายวาจากิริยามารยาททั้งใจต้องเข้าถึงบริสุทธิคุณ บริสุทธิคุณหมายถึงมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ ไม่หวังอะไร ตอบแทน มีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ ไม่หวังอะไรตอบแทน
การเรียนหนังสือก็ไม่หวังอะไรตอบแทน การทำงานก็ไม่หวังอะไรตอบแทน การเป็นข้าราชการ นักการเมือง นักบวช หรือเป็นพ่อค้าประชาชนนั้นไม่หวังอะไรตอบแทน การทำอย่างนี้ปฏิบัติอย่างนี้คือบริสุทธิคุณ การทำอย่างนี้ปฏิบัติอย่างนี้ มันจะเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม มันเป็นการพัฒนาระหว่างใจกับวัตถุไปพร้อม ๆ กัน
การปฏิบัติของเรามันจะเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรมไปเรื่อย ๆ ชีวิตของเรามันจะทันโลก ทันธรรม ทันสมัย ชีวิตของเราจะไม่ได้ย่ำต๊อกอยู่กับของเก่า หรือว่าย่ำต๊อกกับความหลง
เราต้องยกเลิกเราและยกเลิกผู้อื่น เราก็ไม่มี ผู้อื่นก็ไม่มี ชีวิตนี้ถึงจะเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม การประพฤติการปฏิบัติอย่างนี้เรียกว่า “สุคโต” อยู่ก็มีความสุข ไปก็มีความสุข กุลบุตรลูกหลานที่จะมารับผลัดจากเราเค้าก็มีหลักการ มีอุดมการณ์อุดมธรรม เค้าก็มีความสุข เพราะมีปัญญาสัมมาทิฐิ นี้คือการพัฒนาวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง พัฒนาใจที่ถูกต้อง มันจะสมดุลกัน มันจะเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ
เราคิดดูดี ๆ นะ เราทั้งหลายต้องเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ
อยากได้มากมันก็ไม่มากมันก็เท่าเก่า เราจะไปทุกข์ทำไม อยากได้น้อยมันก็ไม่น้อยมันก็เท่าเก่า เราจะไปทุกข์ทำไม ชีวิตของเรามันจะได้เป็น “สุคโต” อยู่ก็เป็นสุขไปก็เป็นสุข
เราจากไป ลูกหลานเค้าก็ได้รับดีเอ็นเอทั้งกายทั้งวาจากิริยามารยาทอาชีพที่เป็นหลักการอุดมการณ์อุดมธรรม การพัฒนาใจมันถึงดีอย่างนี้ การพัฒนาวิทยาศาสตร์มันถึงดีอย่างนี้ สิ่งต่าง ๆ ก็จะมีแต่คุณไม่มีโทษ ที่ท่านตรัสว่าความสุขที่เป็นคุณหรือว่ากามคุณ ถ้าเราเอาตัวเอาตนนำชีวิตเอาความรู้สึกนำชีวิต มันมีโทษน่ะ
เราต้องรู้ต้องเข้าใจ อะไรจะเกิดขึ้น อะไรจะตั้งอยู่ อะไรจะดับไป
เราก็คิดเหมือนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ ๙ ท่านตรัสว่า ช่างหัวเผือกช่างหัวมัน
เพราะสิ่งเหล่านี้แหละมันเพียงสัญจรไปมา เรามีตามันก็มีรูป มีหูมันก็มีเสียงเรามีจมูกมันก็มีกลิ่น เรามีลิ้นก็มีรส เรามีตาก็มีสัมผัส เรามีใจก็มีเรื่องจิตเรื่องใจมันเพียงสัญจรไปมา เรารู้เข้าใจ เราจะได้ไม่ไปตามสิ่งแวดล้อม
เราทั้งหลายน่ะอย่าไปใจอ่อน ต้องมีปัญญา สัมมาทิฐิความเห็นถูกต้อง ความเข้าใจถูกต้อง รู้ความจริงของโลก รู้ความจริงของธรรมชาติ รู้ความเป็นจริงของความเป็นประภัสสรของทุกสิ่งทุกอย่าง
ทุกอย่างเราต้องรู้เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างเค้าก็ทำหน้าที่ของเค้า
ความเกิดก็ทำหน้าที่ของเค้า ความแก่ก็ทำหน้าที่ของเค้า ความเจ็บก็ทำหน้าที่ของเค้า ความตายก็ทำหน้าที่ของเค้า ความพลัดพรากก็ทำหน้าที่ของเค้า ทุกอย่างเป็นใหญ่เพราะสิ่งนั้น ๆ เป็นประภัสสรในสิ่งนั้น ๆ
เราทั้งหลายรู้เข้าใจ อย่าไปลิดรอนสิทธิในสิ่งต่าง ๆ ให้รู้เข้าใจว่าสิ่งต่าง ๆ นั้น มันสัญจรไปมา ความว่างเปล่าจากตัวตนที่เรารู้เราเข้าใจ เราจะได้เห็นธรรม เห็นสภาวธรรมตามความเป็นจริง ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมันเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ดับไป ไม่มีอะไรมากกว่านี้หรอก เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ดับไป
เราต้องถือเอาพระธรรมพระวินัยเป็นเครื่องอยู่เป็นหนทางที่ประเสริฐ เป็นอริยมรรคมีองค์แปด ได้แก่ กายวาจากิริยามารยาทอาชีพใจที่มีปัญญาสัมมาทิฐิ เราทั้งหลายต้องรู้ว่าที่อยู่ของเราคือพระธรรมคือพระวินัย คืออาวาส คือที่อยู่ที่อาศัย
มนุษย์ทั้งหลายต้องรู้ที่อยู่ที่อาศัยของตัวเองนะ
พระธรรมพระวินัยเป็นเครื่องอยู่เป็นเครื่องไป เราทั้งหลายจะไม่ได้วิตกกังวลในเรื่องที่อยู่ที่อาศัย ที่อยู่ที่อาศัยคือพระธรรมคือพระวินัยคือข้อวัตรปฏิบัติ
ให้เข้าใจเพื่อจะให้ปฏิปทามันติดต่อต่อเนื่อง เรื่องอยู่ให้เข้าใจ เรื่องไปให้เข้าใจ ความอยู่ความไปได้แก่พระธรรมพระวินัยนี้เป็นเครื่องอยู่เครื่องไป เราทั้งหลายพากันเข้าใจเรื่องที่อยู่ที่อาศัยนะ
ถ้าที่ไหนไม่มีพระธรรมไม่มีพระวินัย นั่นแหละคือผู้ที่ไม่มีเครื่องอยู่นะ
คำว่าพระ ความหมายก็คือพระธรรมพระวินัย ถ้าเราไม่มีพระธรรมพระวินัยเราจะเป็นพระได้อย่างไร คำว่ามีหมายถึงความรู้ต้องคู่กับการประพฤติการปฏิบัติ ความรู้นี้คือปัญญาบริสุทธิคุณ
การปฏิบัติเป็นสมถะน่ะ เป็นสิ่งที่รู้แล้วเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติที่เป็นศีล เป็นสมาธิ ประกอบด้วยปัญญาสัมมาทิฐิ
นี้คือความเป็นพระธรรมเป็นพระวินัย เราต้องเข้าใจเรื่องของพระธรรมพระวินัย เพราะว่าพระธรรมพระวินัยจะทำให้เราเป็นพระ ถ้าเราไม่มีพระธรรมพระวินัย เราจะเป็นพระได้อย่างไร
เราทั้งหลายต้องรู้วัฏฏสงสารในการเวียนว่ายตายเกิด ปัจจุบันถึงเป็นวาระสำคัญแห่งชาติ เพื่อเรารู้เราเข้าใจ ความรู้ความเข้าใจคู่กับการประพฤติการปฏิบัติ มีปิติมีสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เราทั้งหลายก็จะไม่มีความทุกข์ หรือไม่เป็นโรคซึมเศร้า อยู่ก็สบายไปก็สบาย
เราทั้งหลายอย่าพากันสร้างวัฏฏสงสาร พากันเกิดมา พากันมาสร้างวัฏฏสงสารมาหาเรื่องให้กับตนเอง มันไม่มีเรื่องเรามาหาเรื่อง
ถ้าเรารู้เข้าใจ ไม่ไปตามผัสสะไม่ไปตามสิ่งแวดล้อม มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาไม่ไปตามผัสสะ ไม่ไปตามสิ่งแวดล้อม มันก็ไม่มีเรื่องอยู่แล้ว
ศัพท์ที่ว่าตัณหา หาเรื่อง เป็นศัพท์ที่ลึกซึ้งกินใจมาก
เราไม่รู้ไม่เข้าใจก็หาเรื่องให้กับตัวเอง หาเรื่องให้กับคนอื่นสัตว์อื่น เรื่องมันไม่มาก มันไม่มีเรื่องมาก
ให้พวกเรามารู้มาเข้าใจ เราเป็นนักบวชก็ให้รู้เข้าใจ ข้าราชการนักการเมืองก็ให้รู้เข้าใจ ประชากรของชาวโลกชาวโลกก็รู้เข้าใจ เราทั้งหลายน่ะ จะได้หยุดแรงงานของกรรมกร หยุดเวรหยุดภัยหยุดอันตราย เข้าถึง “สุคโต” อยู่ก็มีความสุข ไปก็มีความสุข ลูกหลานที่มารับมรดกตกทอดก็มีความสุขน่ะ
เราพากันคิดดูดี ๆ นะ พระพุทธเจ้าน่ะตั้งแต่เสด็จออกบรรพชาอุปสมบทท่านไม่สร้างอะไรเลย ไม่บอกให้ประชาชนสร้างที่อยู่ที่อาศัยของพระพุทธเจ้าเลย พระพุทธเจ้าไม่สร้างโบสถ์ ไม่สร้างวิหาร ไม่สร้างเจดีย์ ไม่สร้างอะไรเลย
เน้นมาที่ตัวขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพเน้นมาที่ใจ กายวาจากิริยามารยาทอาชีพใจที่บริสุทธิคุณเป็นเครื่องอยู่ มันเป็นความสุขมีความสงบ เป็นความสง่างามด้วยศิลปะของชีวิต ด้วยความสง่างามทั้งกายวาจากิริยามารยาท มันเป็นความสง่างาม
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปที่ไหน ท่านก็มีฉัพพรรณรังสีอยู่ทุกทิศทุกทางเลย ทั้งกายาวาจากิริยามารยาททั้งใจมีฉัพพรรณรังสีสว่างไสวไปหมดนี้คือ “สุคโต” นะ
เราทั้งหลายพากันมารู้หลักการดำเนินชีวิตที่ประเสริฐ เราทั้งหลายต้องมาทำหน้าที่ที่ประเสริฐ ทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพที่ประเสริฐ ด้วยการประพฤติการปฏิบัติที่มีแต่ปิติสุขเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ ชีวิตของเรามันจะเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เข้าถึงความพอดีเอง
เราคิดดูดี ๆ นะ เราไม่รู้ไม่เข้าใจก็จะวิ่งตามความหลงอยู่ตลอดกาลตลอดเวลา
ความหลงก็คือความหลงนั่นแหละ ความหลงคือความไม่ถูกต้อง พระนิพพานคือที่อยู่ของเรานะ พระธรรมพระวินัย กายวาจากิริยามารยาทอาชีพ ใจที่เอาธรรมนำชีวิต เข้าถึงพระนิพพานตั้งแต่ในปัจจุบัน ไม่ต้องรอพระนิพพานเมื่อตายไปแล้ว ตายไปแล้วมันไม่มีประโยชน์อะไรน่ะ
ผู้ที่เข้าถึงพระนิพพานมันต้องเข้าถึงตั้งแต่ปัจจุบัน เพราะปัจจุบันน่ะรู้มั๊ย ปัจจุบันมันเป็นฐานของอนาคต ถ้าปัจจุบันมันไม่ดีไม่มีปัญญา อนาตมันจะดีมีปัญญาได้อย่างไร
บุญคือความดีกับปัญญามันต้องไปพร้อม ๆ กัน ความดีนั้นถึงจะไม่เป็นตัวเป็นตน การพัฒนาวิทยาศาสตร์ต้องพัฒนาให้เป็นบริสุทธิคุณ ไม่ใช่เป็นตัวเป็นตน เดี๋ยวดีมันจะเป็นตัวเป็นตน เหมือนเราไปจับงูพิษ งูจงอาง หรืองูอะไรที่มีพิษมากที่สุดในโลก เราไปจับหางมัน เดี๋ยวหัวมันต้องวกมากัดเราแน่นอน
การพัฒนาวิทยาศาสตร์ก็ต้องพัฒนาใจไปพร้อม ๆ กัน
เราดูสิคิดดูสิ นักวิทยาศาสตร์นั้นแก้ปัญหาได้มั๊ย นักวิทยาศาสตร์ก็แก้ปัญหาไม่ได้มีแต่หาเรื่องหาราวให้กับตนเอง มีแต่หาเรื่องหาราวให้กับคนอื่น นักวิทยาศาสตร์ที่จะแก้ปัญหาได้ก็ต้องมีปัญญาสัมมาทิฐิ พัฒนาวิทยาศาสตร์พัฒนาใจไปพร้อม ๆ กันมันถึงแก้ปัญหาได้ ความรู้ความเข้าใจนี้เราทั้งหลายต้องเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ เราจะไม่ได้รอชาติหน้า เราจะไม่ได้รออนาคตน่ะ
เหมือนประเทศไทยของเรานี้แหละ เรื่องยาเสพติดมีปัญหาเรื้อรังมาร่วม ๆ ร้อยปี มันก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้มีแต่มากขึ้น เพราะเราเรียนเราศึกษาเพื่อเป็นตัวเป็นตน ไม่ใช่การเรียนการศึกษาคู่กับการประพฤติการปฏิบัติ
อย่างเรื่องหมวกกันน็อคนี้ โครงการตั้งแต่มีการจำหน่ายจักรยานยนต์นี้ร่วม ๆ ห้าสิบปีแล้วก็ยังทำไม่ได้ เพราะไม่เห็นความสำคัญในความถูกต้อง ไม่เห็นความสำคัญในธรรมนูญ รัฐธรรมนูญ คิดว่าทำอะไรสบาย ๆ เป็นทางสายกลาง
ทางสายกลางนั้นให้พวกเราเข้าใจนะ ทางสายกลางนั้นคือธรรมนูญ รัฐธรรมนูญ ประชาธิปไตยก็ต้องพัฒนาเข้าสู่ธรรมนูญ ออกกฎหมายบ้านเมืองก็ต้องเอาธรรมนูญเป็นหลัก อย่าเอาตัวตนเป็นหลัก อย่าเอาพวกพ้องเป็นหลัก ออกกฎหมายมามันต้องเป็นธรรมนูญ ไม่ใช่เป็นตัวเป็นตน เป็นพรรคเป็นพวก
สังคมนิยม สังคมคอมมิวนิสต์ก็ต้องเอาธรรมนูญเป็นหลัก พัฒนาทั้งใจ พัฒนาทั้งวัตถุไปพร้อม ๆ กัน
การปกครองตัวเอง การปกครองประเทศทางสายกลางนั้นอยู่ที่ธรรมนูญนะ ไม่ใช่ตามความรู้สึก ไม่ใช่ตามสัญชาตญาณที่มันเป็นความรู้สึกที่เป็นตัวเป็นตน รักความสุขชอบความสุขไม่ชอบความทุกข์ระแวงภัย ยินดีหลงไหลในผัสสะ ไปตามผัสสะไปตามอารมณ์ มันไม่ใช่ทางสายกลางนะ
มนุษย์เราจะเป็น “สุคโต” ไปไม่ได้ จะมีความสุขไปไม่ได้ เพราะได้เอาความหลงนำชีวิต เอาอวิชชานำชีวิต เอาไสยศาสตร์นำชีวิต นั้นมันเป็นสายมูสายหลง
ที่ชอบโต้เถียงกันว่าอันนี้แหละไม่ใช่พระพุทธศาสนานะ อันนี้เป็นสายมูสายหลงสายไสยศาสตร์ เอาความไม่ถูกต้องนำชีวิต ไม่ได้เอาธรรมนูญนำชีวิต เค้าเรียกว่าสายหลง มันมีตัวมีตน มีการตอบแทนด้วยความหลงด้วยโมหะนะ มันมีโมหะเป็นรางวัลนะ จะเรียกพวกนี้ว่าเป็นผู้ที่รับจ้างมาเกิดก็ได้นะ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านบำเพ็ญพุทธบารมีหลายล้านชาติหลายอสงไขยเพื่อมายกเลิกทาส มายกเลิกชาติชั้นวรรณะความเป็นนิติบุคคลตัวตน
พระเยซู พระนบีมูฮัมหมัดก็ไปทางเดียวกันนี้แหละ ศาสนาทุกศาสนาไปในทางเดียวกันหมด ต้องมีอริยมรรคหนทางที่ประเสริฐทั้งกายวาจากิริยามารยาททั้งอาชีพที่เป็นธรรมนูญรัฐธรรมนูญไปในทางเดียวกันหมด
เราทั้งหลายอย่าไปโง่หลงงมงายว่าใครถูกใครผิดน่ะ ศาสนามายกเลิกเรื่องผิด เรื่องถูก เอาธรรมนูญนำชีวิต มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการดำเนินชีวิต อาชีพของเรามันถึงเป็นอาชีพบริสุทธิคุณ เราทั้งหลายจะไม่ได้หลงงมงาย พัฒนาตั้งแต่วิทยาศาสตร์ ไม่พัฒนาใจไปพร้อม ๆ กัน
อย่าไปหลงงมงาย หลงมันจะไปไม่ได้นะ แน่นอนมันไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะความไม่ถูกต้องมันไปไม่ได้ เพราะมันไม่มีทางไม่ใช่ทาง มันเป็นทางตัน มันจบด้วยไปไม่ได้ จบที่ทางตัน ไม่มีทางไม่มีหนทางมันเป็นทางตัน
เราทั้งหลายต้องมีความสงบให้เพียงพอ ความสงบน่ะคือการพักผ่อน การพักผ่อนคือความสงบ ให้เรารู้เข้าใจ ธรรมชาติมันเป็นความพอดี กลางวัน ๑๒ ชั่วโมง กลางคืน ๑๒ ชั่วโมง มันเป็นความพอดีของธรรมชาติ มันเป็นการโคจรของโลกที่โลกหมุนรอบตัวเองหรือว่าหมุนรอบดวงอาทิตย์ มันจะเป็นความพอดีความเพียงพอ ความสงบกับปัญญาถึงเป็นคู่กันไป อันหนึ่งพักผ่อนอันหนึ่งทำงาน
หลักการธรรมนูญนี้มันเป็นหลักการครบวงจร เหมือนต้นไม้ต้นหนึ่งที่ได้อาหารมา ต้นไม้ต้นนั้นต้องได้อาหารมาจากทุกทิศทุกทางของต้นไม้นะ ไม่ใช่มาจากรากอย่างเดียว ต้นไม้ต้นนั้นต้องได้อาหารมาจากทั้งทางรากทางใบทางกิ่งก้านสาขาทางยอดตลอดปริมณฑลที่มันได้อากาศ ได้แสงแดด ได้ออกซิเจน ต้นไม้ต้นนั้นถึงได้รับวิตามินเกลือแร่แร่ธาตุต่าง ๆ
ให้เรารู้เข้าใจในการดำเนินชีวิตที่ประเสริฐ เราทั้งหลายถึงโฟกัสในเรื่องปัจจุบัน เพราะปัจจุบันเป็นวาระสำคัญแห่งชาติทุกอย่างสำคัญหมดน่ะ กายวาจากิริยามารยาทอาชีพทั้งใจเป็นสิ่งสำคัญมันต้องไปพร้อม ๆ กันเป็นทีมเวิร์คเลย อยู่ในเซทเดียวกันเลย
อริยมรรคมีองค์แปดถึงเป็นการดำเนินชีวิตที่ประสริฐที่เอาธรรมนำชีวิตมันดีมากประเสริฐมาก เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ เราทั้งหลายถึงจะมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ อาศัยรูปแบบ อาศัยแบบอาศัยพิมพ์ อาศัยสมมติทั้งหลาย
สมมติทั้งหลายน่ะอยู่ในโลกนี้มีหลายสมมติ แม้แต่ภาษาของมนุษย์ที่ใช้กันอยู่นี้มันก็มีมาก ไม่ต่ำกว่าเจ็ดพันภาษานะ ภาษาสมมติที่ชี้ให้เราเห็นในแง่มุมต่าง ๆ ทั้งผิดทั้งถูก ทั้งดีทั้งชั่ว มีหลายล้านสมมตินะ เราต้องเอาสมมตินั้นมาใช้มาปฏิบัติให้เกิดปิติสุขเอกัคตตาในการประพฤติการปฏิบัติในปัจจุบัน
อย่างเรียนหนังสือก็ให้มีความสุขเต็มที่เพราะเราจะได้เสียสละ ถ้าเราไม่เสียสละก็ไม่มีศีลไม่มีสมาธิไม่มีปัญญา อย่างเราทำงานก็ให้มีความสุขให้เต็มที่ เราเป็นข้าราชการเป็นนักการเมืองก็มีความสุขในการทำหน้าที่ เป็นนักบวชก็มีความสุขในการทำหน้าที่ เพราะธรรมชาติที่เป็นบริสุทธิคุณ เป็นหน้าที่ที่บริสุทธิคุณไม่หวังอะไรตอบแทน ถ้าหวังอะไรตอบแทนมันก็เหมือนที่เราไปจับงูพิษ เราไปจับหางมัน งูพิษไม่ใช่มีแต่หาง หัวมันก็มี เดี๋ยวหัวมันก็ต้องมากัดเรา
เราต้องรู้ต้องเข้าใจนะ เราทั้งหลายไม่ต้องอาศัยรูปแบบมาหาอยู่หากิน หรือว่ามาหาอยู่หาหลงนะ เราต้องเอารูปแบบมาประพฤติปฏิบัติให้เป็นบริสุทธิคุณ ต้องเอารูปแบบเครื่องแบบนั้นที่ถูกต้องตามกฎหมายลายเซ็นต์ มามีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ
เราทำอย่างนี้ปฏิบัติอย่างนี้มันก็มีความสุขอยู่แล้ว เราจะไปหลงงมงายไปทำไม เพราะความหลงนั้นมันไม่ถูกต้อง ปัจจุบันเราต้องโฟกัสของเราเต็มที่ ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
เหมือนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ ๆ ท่านส่งพระอรหันต์ขีณาสพออกไปเผยแผ่ธรรมะเผยแผ่ความจริง สมัยนั้นทรัพยากรของพระอรหันต์มีน้อย ท่านให้ไปคนละทิศอย่าไปทางเดียวกัน
ท่านได้สอบทานความรู้ความเข้าใจให้กับพระอรหันต์ขีณาสพที่ไปเผยแผ่
ท่านได้ถามว่า เราไปเมืองนั้นคนเค้าดุนะ เค้าว่าเรานะ เธอมีความคิดเห็นอย่างไร ตอบว่า ก็ดีกว่าเค้าตีเรา
เค้าตีเราล่ะทำอย่างไร ก็ดีกว่าเค้าใช้ศัตรา
เค้าใช้ศัตราเธอจะทำอย่างไร ก็ดีกว่าเค้าฆ่าเรา
เค้าฆ่าเราเราจะทำอย่างไร ก็ยังดีกว่าเราไปฆ่าเค้า
พระพุทธเจ้าก็เห็นด้วย พระพุทธเจ้าก็โอเค อย่างนี้ไปได้ ไม่มีปัญหา เพราะมนุษย์เรายกเลิกตัวตนแล้วมันจะไม่มีปัญหา อย่างนี้เรียกว่าไปเผยแผ่ ไปเผยแผ่ความจริง ไปเผยแผ่อริยสัจสี่ให้มนุษย์ทั้งหลายเข้าใจในการทำมาหากิน ให้เข้าใจในเรื่องจิตเรื่องใจ จะได้เอาระหว่างวัตถุกับใจไปพร้อม ๆ กันเพื่อเป็นบริสุทธิคุณทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพทั้งใจ เพื่อเป็นมรรคเป็นอริยมรรค
เมื่อรู้เมื่อเข้าใจมันก็ง่าย มันก็ถึงบางอ้อ มันง่ายนะ
อย่างเราไปเรียนหนังสือนี้จุดมุ่งหมายสำคัญอยู่ที่ความรู้ความเข้าใจ ที่เราไปอ่านออกเขียนได้ บวกลบคูณหาร อยู่ที่โรงเรียนมันสำคัญอยู่ที่ความรู้ความเข้าใจ
อย่างเราเป็นนักวิทยาศาสตร์ค้นคว้าสิ่งต่าง ๆ ให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป มันสำคัญอยู่ที่ความรู้ความเข้าใจ อย่างเราฟังการบรรยายมันสำคัญอยู่ที่ความรู้ความเข้าใจ
ความรู้ความเข้าใจมันไม่ใช่ความจำนะ เพราะความจำเดี๋ยวมันก็ลืม เพราะมันเป็นธาตุเป็นขันธ์เป็นสัญญาขันธ์ แต่ความรู้ความเข้าใจมันจะไม่ลืม
เหมือนแต่ก่อนมันมีความมืด เมื่อมันมีแสงสว่างแล้วความมืดมันก็ไม่มี ความรู้ความเข้าใจถึงเป็นอย่างนี้นะ
ธรรมนูญรัฐธรรมนูญมันไม่ใช่เคร่งเกินไปหย่อนเกินไป มันเป็นความพอดี
เราออกกฎหมายบางอย่างมันไม่ใช่ธรรมนูญนะ เช่น ให้มีโรงฆ่าสัตว์ถูกต้องตามกฎหมาย อันนี้ไม่ใช่ธรรมนูญ มันเป็นความไม่ถูกต้อง เป็นความเสียหาย เพราะมันเป็นความเห็นแก่ตัว มันไปเอาความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
มันจะถูกต้องได้อย่างไร มันเป็นความไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรมไม่เป็นธรรมนูญถึงสิ่งนั้นจะอร่อย จะแซบ จะลำ จะนัว จะหรอย แต่นั้นคือความไม่ถูกต้องนะ
กฎหมายอย่างนี้ไม่เรียกว่าธรรมนูญนะ มันยังเป็นตัวเป็นตนอยู่
อย่างเราออกกฎหมายให้มีโรงเหล้าโรงเบียร์โรงฝิ่นเฮโรอีนกัญญายาม้ายาอียาไอซ์อย่างนี้แหละมันไม่ถูกต้องนะ ถึงจะเป็นประชาธิปไตยแต่มันเป็นประชาธิปไตยแห่งความหลง ถึงจะเป็นสังคมนิยมก็เป็นสังคมนิยมแห่งความหลง อันนี้ไม่ถูกต้องนะ มันทำความเสียหาย
เราคิดดูดี ๆ ถ้ามันถูกต้องมันต้องไม่มีเรื่องสิ
เราคิดดูดี ๆ สิ ปีใหม่สงกรานต์ เทศกาลตรุษจีน ที่ประชาชนเค้าไปทำงาน ต่างแดนต่างจังหวัด เค้าใช้รถยนต์ ใช้จักรยานยนต์ ใช้เป็นยานพาหนะในการเดินทาง เทศกาลหนึ่ง ๆ คนตายไปหลายร้อย อุบัติเหตุไปหลายพัน ก็เนื่องมาจากเหล้าจากเบียร์จากฝิ่นเฮโรอีนกัญชา มีปัญหาในสังคมทางครอบครัวก็เนื่องมาจากเหล้า จากเบียร์ มาจากสิ่งเสพติด
เราไปแก้ที่ปลายเหตุ เราไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ เพราะปกติเราทุกคนมันก็ฟุ้งซ่านอยู่แล้ว มันสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์อยู่แล้ว เรายังไปเสพไปดื่มพวกนี้อีก
การออกกฎหมายให้มีโรงเหล้าโรงเบียร์ถูกต้องตามกฎหมายนั้นก็ถือว่ายังไม่ใช่ธรรมนูญนะ
ทางพระศาสนานี้ทุกพระศาสนาถือว่ายังไม่ใช่ธรรมนูญนะ มันยังเป็นตัวเป็นตนมันยังเป็นความรู้สึกอยู่ มันเป็นสัญชาตญาณมันเป็นตัวเป็นตน ถึงจะเป็นประชาธิปไตยก็เป็นประชาธิปไตยแห่งความหลงนะ ถึงเป็นสังคมนิยมก็เป็นสังคมนิยมแห่งความหลง ไม่ใช่ธรรมนูญรัฐธรรมนูญนะ
เราทั้งหลายต้องมีหลักการมีอุดมการณ์อุดมธรรม
เราทั้งหลายไม่ต้องไปทำตามใคร ทำตามธรรมนูญ เอาธรรมนำชีวิต รัฐธรรมนูญถึงเป็นที่อยู่ของเรา เป็นที่อยู่ทั้งกายวาจากิริยามารยาททั้งใจเป็นที่อยู่ของเรา นี้คือพระนิพพานบ้านของเรานะ ความบริสุทธิทั้งกายวาจากิริยามารยาทที่เป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม เป็นสิ่งที่เราจะอยู่เราจะไป เราทั้งหลายจะได้ส่งผลัดให้กุลบุตรลูกหลาน เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งเราก็มีความทุกข์ เราก็เศร้าหมอง ลูกหลานมันก็เถียงเรานะ ว่าผู้หลักผู้ใหญ่ไม่เป็นตัวอย่างแบบอย่างที่ดีที่ประกอบด้วยปัญญา
การเดินขบวนนั้นทุกคนไม่อยากเดินขบวน เพราะการเดินขบวนมันไม่มีงบประมาณนะ มันยากมันลำบาก แต่ก็เพราะเราเอาความไม่ถูกต้องนำชีวิต เค้าถึงพากันเดินขบวน
เราพากันคิดดูดี ๆ นะ ถ้าถูกต้องมันจะพังทลายได้อย่างไร ไม่ถูกต้องมันถึงพังทลาย เห็นมั๊ย ตึกสตง.ของเมืองไทย สำนักงานตรวจการใช้จ่ายเงินของเมืองไทย มันพังทลาย ที่มันพังทลายเพราะมันไม่ถูกต้อง เพราะมันไปแก้ไขแต่คนอื่น ไม่ได้แก้ไขตัวเอง การประพฤติการปฏิบัติมันต้องแก้ไขคนอื่นต้องแก้ไขทั้งบุคคลผู้อื่น มันถึงจะเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ มันถึงจะเป็น “สุคโต”อยู่ก็ดีไปก็ดี แล้วก็ส่งดีเอ็นเอแห่งความดีให้ลูกให้หลาน ถ้าไม่อย่างนั้นมันจะพังทลายเหมือนตึกสตง.ของเมืองไทยนี้นะ
ตึก สตง.อยู่ที่กรุงเทพมหานคร ตึก ๓๐ กว่าชั้น ด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ เอาความหลงนำชีวิตเอาทุจริตนำชีวิต ชีวิตมันเลยพังทลาย ชีวิตมันพังทลายนะ ตึก สตง.มันพังทลายด้วยความเป็นนิติบุคคลตัวตน พังทลายด้วยความทุจริตมันจะไปแก้ไขตั้งแต่ภายนอก มันจะไปพัฒนาตั้งแต่วิทยาศาสตร์ จะไปเอาความสุข บนความหลง ชีวิตเลยพังทลายนะ
เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งน่ะ เราคิดดูดีๆ นะ กรุงเทพมหานครปริมณฑลมีตึกใหญ่กว่าสูงกว่าตึก สตง.มีตั้งหลายสิบตึกที่เค้าไม่พังทลายเหมือนตึก สตง. เพราะพอที่จะรับน้ำหนักได้ ตึกอื่นไม่ใช่ไม่โกงกินคอร์รัปชั่นนะ แต่เค้าโกงกินคอร์รัปชั่นน้อยพอที่จะรับแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ประเทศพม่า ที่ห่างไกลกัน ตั้งนับพันกิโลได้ นี้ให้เรามองเห็นในแง่มุมความไม่ถูกต้องน่ะ ชีวิตที่เอาความไม่ถูกต้องนำชีวิต มันก็ต้องพังทลายเหมือนตึก สตง.นี้แหละ
เราทั้งหลายถึงต้องเป็นผู้ละอายต่อบาปเกรงกลัวต่อบาป เห็นภัยในวัฏฏสงสาร รู้จักความคิดรู้จักอารมณ์ เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ชีวิตของเราทั้งหลายมันก็ต้องพังทลาย เพราะมันไม่ถูกต้อง มันก็ต้องพังทลายเหมือนตึก สตง. นี้แหละ
ตึก สตง.ที่อยู่กรุงเทพมหานครอยู่เมืองหลวงอยู่เมืองกรุง เป็นศูนย์รวมของประเทศ เหมือนสมองเป็นศูนย์รวมของร่างกาย เหมือนหัวใจเป็นศูนย์รวมของสรีระร่างกาย
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่บริหารประเทศ บริหารแผ่นดินไม่เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ เอาแต่ความรู้เอาแต่วิทยาศาสตร์เอาแต่ตัวเอาแต่ตน ไปแก้แต่สิ่งภายนอก ไม่ได้แก้ตัวเองไปพร้อม ๆ กัน
การพัฒนาวิทยาศาสตร์มันต้องพัฒนาใจไปพร้อม ๆ กันมันถึงถูกต้องนะ พัฒนาทั้งภายนอกภายในด้วยความรู้ความเข้าใจให้ครบวงจร อริยมรรคองค์แปดถึงเป็นความรู้ความเข้าใจ เพื่อการประพฤติการปฏิบัติมันจะได้สมบูรณ์ สมบูรณ์ทั้งกายวาจาใจกิริยามารยาทอาชีพด้วยความถูกต้อง
มันต้องรู้ธรรมรู้ปัจจุบันธรรม รู้ธรรมธรรมนูญน่ะ ถ้าเราไปจัดการแต่สิ่งภายนอก เราไม่ได้จัดการตัวเองมันก็ต้องพังทลายเหมือนตึก สตง.นี้นะ
การบริหารตัวเองบริหารบุคคลอื่น มันต้องรู้เข้าใจแล้วมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์
ถ้าเรามีปิติมีสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติมันก็ไม่มีความทุกข์อยู่แล้ว ด้วยความรู้ความเข้าใจ
เราต้องรู้จักการประพฤติการปฏิบัติ ทั้งกายวาจาใจกิริยามารยาทอาชีพ เราต้องเน้นมาที่ตัวเราในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อทำหน้าที่ของตัวเองให้มันสมบูรณ์ เราทั้งหลายจะไม่ได้พังทลายเหมือนตึก สตง.
ถ้าใครมีตัวมีตนบุคคลนั้นคือทุจริตนะ เราทั้งหลายจะได้รู้ว่าทุจริตนั้นคือตัวตนน่ะ ใครเอาตัวตนนำชีวิตบุคคลนั้นคือบุคคลที่ทุจริต เราต้องรู้จักธรรมรู้จักธรรมนูญ ปัญหาต่าง ๆ นั้นมันอยู่ที่ทุจริตนะ
การที่จะบริหารตัวเองบริหารบุคคลอื่นต้องยกเลิกทุจริต ถึงจะเป็นนักบริหารตัวเองนักบริหารคนอื่นด้วยการรู้เข้าใจในการบริหารในการปฏิบัติ
ตำแหน่งที่เค้าแต่งให้เราเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นตำแหน่งที่ให้เรามาเสียสละ มารับผิดชอบโฟกัสในการประพฤติการปฏิบัติ ไม่ใช่ตำแหน่งที่ให้พวกเราทั้งหลายมาทุจริตนะ
ให้ถือว่ามันเป็นตำแหน่งที่ทรงเกียรติมีเกียรติมีศักดิ์ศรี เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันจะมีเกียรติมีศักดิ์ศรีได้อย่างไร ถึงพวกเราทั้งหลายจะพากันใส่สูทผูกเนคไท เป็นผู้ทรงเกียรติมันก็ไม่เป็นผู้ทรงเกียรตินะ มันเป็นผู้ทรงความหลงต่างหาก ทรงความโง่ความหลงงมงายต่างหากล่ะ
เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจเราจะเข้าถึงบริสุทธิคุณ เข้าถึงธรรมนูญเข้าถึงรัฐธรรมนูญไม่ได้ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันเป็นอบายมุขอบายภูมินะ มันตกอยู่ในภพภูมิของ ๓๑ ภพภูมิ
ในภพภูมิของวัฏฏสงสารนี้มีอยู่ ๓๑ ภพภูมิ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจมันก็จะอยู่ในระนาบของ ๓๑ ภพภูมินี้แหละ
เค้าถึงมีศัพท์ว่าคน คนนี้หมายถึงตัวถึงตน หมายถึง ๓๑ ภพภูมินี้แหละ ภพภูมิที่เวียนว่ายตายเกิดมีทั้งหมด ๓๑ ภพภูมิ
เราต้องรู้เข้าใจ เราจะได้ประพฤติปฏิบัติ เราจะไม่ได้ย่ำต๊อกกับความหลงที่มีศัพท์ว่า “คน” คนนี้ความหมายหมายถึงความไม่รู้ไม่เข้าใจ ความไม่รู้ไม่เข้าใจนั้น มันจะวกวนอยู่ที่เก่า มันจะเป็นผู้ไม่มีศีลไม่มีสมาธิไม่มีปัญญา สัมผัสกับอะไรก็ไปกับสิ่งนั้น ๆ อยู่ในภพภูมินั้น ๆ
เรารู้เราเข้าใจเราจะได้หยุดภพภูมินั้น ๆ ด้วยความรู้ความเข้าใจด้วยการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อเราทั้งหลายจะได้ว่างจากสิ่งที่มีอยู่ด้วยความรู้ด้วยความเข้าใจ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจเค้าเรียกว่ามันหลง มันวกวนในความหลงอย่างนั้น จิตใจวกวนอย่างนั้นมันจะไปไหนไม่ได้ มันจะเป็นได้แต่เพียงคนเป็นได้แต่เพียงความหลง หัวใจของบุคคลนั้นมันจะอยู่ในระนาบแห่งความหลงหรือว่าหัวใจบ่อนคาสิโน เอาตัวตนเป็นที่ตั้งคือหัวใจบ่อนคาสิโน หัวใจบ่อนทำลายความถูกต้อง หัวใจบ่อนความหลง
ให้เรารู้เข้าใจ เราจะได้เห็นภัยในความไม่ถูกต้องเห็นภัยในวัฏฏสงสารด้วยปัญญาบริสุทธิคุณ ด้วยเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ พอใจยินดีมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อเอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิตหัวใจของเราทั้งหลายจะได้หยุดอบายมุขอบายภูมิ
เราทั้งหลายถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจ เราทั้งหลายจะพากันคิดว่า ความสุขทั้งหลายได้มาจากสิ่งที่อำนวยความสุขความสะดวกความสบายด้วยการพัฒนาวิทยาศาสตร์ อันนี้จริงอันนี้ถูกต้อง ความสุขทั้งหลายมันอยู่พัฒนาหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์
เราทั้งหลายต้องมีสัมมาทิฐิเราต้องมีความรู้ความเข้าใจพัฒนาวิทยาศาสตร์ก็ต้องพัฒนาใจไปพร้อม ๆ กัน ถ้าเราพัฒนาวิทยาศาสตร์มันก็ยังเป็นนิติบุคคลตัวตนอยู่
เราต้องพัฒนาใจไปพร้อม ๆ กันด้วยความรู้ความเข้าใจเราทั้งหลายน่ะ ถึงเป็นการพัฒนาครบวงจรด้วยความรู้ความเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจก็จะเอาความหลงนำชีวิตเอาวิทยาศาสตร์นำชีวิต
เราต้องเอาทั้งวิทยาศาสตร์เอาทั้งจิตใจไปพร้อม ๆ กันนะ
เราอย่าไปคิดว่าประเทศสิงคโปร์นั้นน่ะประเทศเล็ก ๆ เท่าอำเภอหนึ่งของเมืองไทยก็ไม่ได้ เค้าพัฒนาหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์เป็นหนึ่งของเอเชียเพราะเค้าตั้งบ่อนคาสิโน มาเก๊าส่วนหนึ่งของประเทศจีนเค้าก็รวยเพราะเค้าพัฒนาตามหลักเหตุตามหลักวิทยาศาสตร์
พวกเราทั้งหลายเมื่อมีปัญญาแล้วต้องรอบคอบนะ มีปัญญาแล้วต้องรอบคอบ อย่าลืมว่าชีวิตของเรามันเป็นรายรับรายจ่ายนะ เราไปจับหางงูเดี๋ยวงูมันจะมากัดเรา งูพิษมันจะมากัดเรานะ การที่เราเอาหลักการอุดมการณ์มันดีแล้วถูกต้องแล้ว เราต้องมีหลักการมีอุดมการณ์แล้วก็มีอุดมธรรมนะ หลักการอุดมการณ์มันดีแล้วถูกต้องหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์น่ะ แต่ต้องไม่ทิ้งอุดมธรรมนะ
เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งเอาความรู้สึกที่เอาตัวเป็นที่ตั้งมันเป็นหลักการเป็นอุดมการณ์แล้วอุดมด้วยความหลงนะ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านให้เราเอาทั้งหลักการอุดมการณ์แล้วก็ยกเลิกอุดมหลงนะ
ให้เอาอุดมธรรมให้เอาธรรมเอาธรรมนูญมันถึงจะสมบูรณ์เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอเข้าถึงความพอดี เราอยากได้มากมันก็ไม่มาก เราอยากได้น้อยมันก็ไม่น้อย เราต้องรู้จักความพอดีเข้าสู่ความสมดุลทั้งรายรับรายจ่าย
เหมือนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอเข้าถึงความพอดี การประสูติของพระพุทธเจ้าถึงเป็นวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ ตรัสรู้ก็เป็นวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานก็วันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ
เราต้องรู้เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ เราทั้งหลายจะได้รู้หลักการ รู้อุดมการณ์แล้วก็อุดมธรรม เราอยู่ที่ไหนก็พากันปฏิบัติได้ เมื่อเรามีลมปราณมีอายตนะภายใน ๖ ภายนอก ๖ มีธาตุทั้ง ๔ ขันธ์ทั้ง ๕ อยู่ที่ไหนก็ปฏิบัติได้
ให้รู้เข้าใจมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ
อย่าไปคิดด้วยอวิชชาความหลงเอาแต่หลักการอุดมการณ์เอาแต่วิทยาศาสตร์น่ะ ถ้าเรารวย รวยความหลงมันไม่ดีนะ รวยความโง่หลงงมงายเรียกว่ารวยไสยศาสตร์มันไม่ดีนะ ไม่ใช่ความดีมันไม่ใช่บารมีไม่ใช่ปัญญาบริสุทธิคุณนะ มันเป็นความหลงนะ
ให้เรารู้เข้าใจ อย่าไปคิดว่าทำไมเราโง่ไปตั้งหลายปี ประเทศสิงคโปร์ประเทศเค้าเล็กนิดเดียวเค้าตั้งบ่อนคาสิโนเค้ารวยกัน ประเทศมาเก๊าก็เหมือนกันเค้ารวยกัน
ประเทศสิงคโปร์เค้ามีหลักเหตุผลมีหลักวิทยาศาสตร์น่ะ เค้าคิดว่าประเทศสิงคโปร์มันเล็กนิดเดียว จะทำเกษตรกรรมก็ไม่ได้ จะทำอุตสาหกรรมก็ไม่ได้ ถ้าเราตั้งบ่อนคาสิโนด้วยหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์ก็รวยได้ เพราะคนในนี้โลกนี้ มันคนมีความไม่ฉลาด เอาความหลงนำชีวิต เอาตัวตนนำชีวิตมันมีมาก ถ้าเราตั้งบ่อนคาสิโน เราสามารถรวยได้ทางวัตถุ ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ เค้าถึงพากันตั้งบ่อนคาสิโน จะเรียกบ่อนคาสิโนก็ได้หรือเรียกบ่อนแห่งความหลงก็ได้ มันคืออันเดียวกัน
ให้เรารู้เข้าใจ ประเทศไทยเราแผ่นดินกว้างใหญ่ไพศาลเราต้องรู้เข้าใจว่า เราทั้งหลายอย่ายินดีในการเอาความหลงนำชีวิต อย่าไปยินดีในการเอาบ่อนคาสิโน นำชีวิตนะ
พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ศาสดาทุกศาสนาเค้ามายกเลิกบ่อนคาสิโน มายกเลิกอบายมุขอบายภูมิ ให้เรารู้เข้าใจ ถ้าเรารู้เข้าใจ ทุกอย่างน่ะไม่มีปัญหา ปัญหาอยู่ที่เราไม่รู้ไม่เข้าใจนะ
ขออนุโมทนากับท่านทั้งหลายไว้ ณ โอกาสนี้นะ
ท่านทั้งหลายเป็นผู้ที่ประเสริฐ ได้รับทรัพยากรประเสริฐที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มนุษย์ต้องเอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิต ถึงจะเป็นผู้บรรลุนิติภาวะ ผ่านไปด้วยความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัติ ที่ได้มีโอกาสมีเวลาจะได้เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรง ปฏิบัติเพื่อออกจากทุกข์ ปฏิบัติสมควร เป็นที่เคารพบูชาของเราเองของคนอื่น
การบรรยายพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เป็น บริสุทธิคุณทุกแง่ทุกมุมในวันนี้ก็เห็นสมควรแก่เวลานะ
---------------------------------------
โอวาทขององค์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
เมตตาให้ไว้ในเช้าวันศุกร์ที่ ๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา