๒๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๒๒ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ศาสนาพุทธ คริสต์ศักราช ๒๐๒๕ ศาสนาคริสต์ ฮิจเลาะห์ศักราช ๑๔๔๖ ศาสนาอิสลาม
มนุษย์เราทุกคนต้องพากันเข้าใจ ต้องเอาทางสายกลางนำชีวิต เอาทางวัตถุกับจิตใจไปพร้อม ๆ กัน เพื่อเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เข้าถึงความพอดี จะได้ไปทางสายกลาง จะเป็นความสงบและปัญญา เป็นปัญญาและความสงบ
เราต้องรู้ต้องเข้าใจ เราอยากได้มากมันก็ไม่มาก มันก็เท่าเก่า เราอยากให้น้อยมันก็ไม่น้อยมันก็เท่าเก่า เราทุกคนต้องเข้าใจ ความเข้าใจนี้เป็นปัญญาสัมมาทิฏฐิ เป็นผู้รู้ทุกข์ รู้เหตุเกิดทุกข์ รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ การดำเนินชีวิตของเราจะได้เป็นความดีที่ประกอบด้วยปัญญา เป็นปัญญาที่ประกอบด้วยความดี
ความดับทุกข์ของมนุษย์นี้ มันอยู่ที่รู้อริยสัจสี่ รู้ทุกข์ รู้เหตุเกิดทุกข์ รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ ถ้าเราเป็นคนรวย ถ้าเราไม่รู้ทุกข์ ไม่รู้เหตุเกิดทุกข์ ไม่รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ ความทุกข์นั้นก็ย่อมมีเพราะเราไม่รู้ทุกข์ ถ้าเราเป็นคนจน ถ้าเราไม่รู้ทุกข์ ไม่รู้เหตุเกิดทุกข์ ไม่รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ ความดับทุกข์นั้นก็ย่อมมี ความจนหรือความรวยนั้นถึงไม่ใช่ความดับทุกข์ ความดับทุกข์นั้นอยู่ที่เรารู้อริยสัจสี่ ความรู้นี้ไม่ใช่ความจำ เป็นความรู้ความเข้าใจเรื่องทุกข์ เรื่องเหตุเกิดทุกข์ ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ การประพฤติการปฏิบัติของเรา
ให้ทุกท่านทุกคนพากันเข้าใจ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจเราก็จะแก้ปัญหาไม่ได้
เราคิดดูดี ๆ นะ ถ้าเราเป็นคนรวย ถ้าเราไม่รู้ทุกข์ไม่รู้เหตุเกิดทุกข์ ไม่รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ ยิ่งรวยก็ยิ่งหลง ความหลงนี้เปรียบเสมือนทะเลมันไม่อิ่มด้วยน้ำ เปรียบเสมือนไฟที่ไม่อิ่มด้วยเชื้อเพลิง ยิ่งรวยก็ยิ่งหลงยิ่งงมงาย ไม่อิ่มไม่เต็มเหมือนทะเลไม่อิ่มด้วยน้ำ เหมือนไฟไม่อิ่มด้วยเชื้อการบำเพ็ญบารมี บำเพ็ญความดีถึงประกอบด้วยปัญญา การบำเพ็ญปัญญาถึงประกอบด้วยความดี ให้ระหว่างใจกับวัตถุมันไปทางสายกลาง ระหว่างใจกับวัตถุ
เราทั้งหลายให้พากันเข้าใจ เน้นมาที่ตัวเรา เน้นมาที่เจตนา เพราะเหตุว่า กายวาจากิริยามารยาทเป็นเพียงอุปกรณ์ของใจเท่านั้น เราทั้งหลายถึงมาเน้นที่ใจเน้นที่เจตนา การปฏิบัติของเราถึงไม่มีต่อหน้าและลับหลัง คนอื่นเค้าไม่รู้ก็จริง แต่ตัวเรารู้ด้วยปัญญา ตัวเราเข้าใจด้วยปัญญา
การปฏิบัติถึงเน้นที่บริสุทธิคุณ เพื่อให้ความสมบูรณ์ระหว่างความสงบและปัญญา ระหว่างวัตถุกับใจจะได้เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เข้าถึงความพอดี เราทั้งหลายถึงพากันมาเน้นตัวเรา ความเคารพในสิทธิเสรีภาพ ของธรรมของสภาวธรรม เราจะไม่ได้ยกตัวเสมอท่าน จะไม่ได้ยกตนข่มท่าน จะไม่ได้ยกหูชูงวง จะเป็นความเคารพเป็นความสงบเป็นความซื่อสัตย์ เป็นความพอดี เป็นความกตัญญูกตเวที
เราทั้งหลายพากันนอนพากันพักผ่อนให้เพียงพอ สำหรับฆราวาสนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ๖ ชั่วโมงถึง ๘ ชั่วโมงสำหรับฆราวาส สำหรับนักบวช ๕,๖ ชั่วโมง เพราะอันนี้มันคือกรรมคือกฎแห่งกรรมคือผลของกรรม ธรรมชาติถึงจะพอดีถึงจะลงตัว ถึงจะเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ
เราทั้งหลายพากันเข้าใจนะ นี้คือกรรมนี้คือกฎแห่งกรรมนี้คือผลของกรรม เราทุกคนนั้นจะเหนือกรรมไปไม่ได้ ให้เราเข้าใจ ไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น ในปัจจุบันนี้เราทุกคนน่ะต้องเอาความสงบและปัญญา เรามีความสงบเราก็ต้องมีปัญญา เรามีปัญญาก็ต้องมีความสงบ เป็นกรรมเป็นกฎแห่งกรรม มีกรรมเป็นพื้นฐาน เราทั้งหลายจะได้เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ
เราทั้งหลายต้องพากันอบรมบ่มอินทรีย์ เพื่อความดี เพื่อความเต็ม ๆ แห่งบารมี ทั้งเบื้องต้นท่ามกลางในที่สุด เราทั้งหลายเป็นมนุษย์ ร่างกายของเราเป็นมนุษย์ กายวาจากิริยามารยาทใจของเราก็ต้องเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เป็นได้แต่เพียงคน คำว่าคนนี้หมายถึงตัวถึงตน ไปไหนไม่ได้ เพราะไม่รู้ไม่เข้าใจมันก็วกวนอยู่ที่เก่า เดินไปข้างหน้าถอยกลับมาก็อยู่ที่เก่า เค้าถึงมีศัพท์ว่านี้คนไม่ใช่มนุษย์
ท่านพุทธทาสภิกขุ เป็นทั้งคนดีเป็นคนมีปัญญา ท่านถึงตรัสในใจของท่านไว้ว่า ที่พูดออกจากปัญญาสัมมาทิฏฐิ เพื่อเอาความสงบและปัญญาไปพร้อม ๆ กัน เราจะได้เข้าสู่ความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เป็นได้แต่เพียงคน มนุษย์เราก็ต้องพัฒนาทั้งใจทั้งวัตถุไปพร้อม ๆ กันให้เป็นทางสายกลาง ท่านตรัสไว้ว่า
เป็นมนุษย์ เป็นได้ เพราะใจสูง เหมือนหนึ่งยูง มีดี ที่แววขน
ถ้าใจต่ำ เป็นได้ แต่เพียงคน ย่อมเสียที ที่ตน ได้เกิดมา
ใจสะอาด ใจสว่าง ใจสงบ ถ้ามีครบ ควรเรียก มนุสสา
เพราะทำถูก พูดถูก ทุกเวลา เปรมปรีดา คืนวัน ศุขสันติ์จริง
ใจสกปรก มืดมัว และร้อนเร่า ใครมีเข้า ควรเรียก ว่าผีสิง
เพราะพูดผิด ทำผิด จิตประวิง แต่ในสิ่ง นำตัว กลั้วอบาย
คิดดูเถิด ถ้าใคร ไม่อยากตก จงรีบยก ใจตน รีบขวนขวาย
ให้ใจสูง เสียได้ ก่อนตัวตาย ก็สมหมาย ที่เกิดมา อย่าเชือน เอย ฯ
เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ เพื่อเราทั้งหลายจะได้เป็นมนุษย์ทั้งกายวาจากิริยามารยาทเป็นทั้งใจ เราจะเป็นเทวดา รู้อริยสัจสี่ รู้ทุกข์ รู้เหตุเกิดทุกข์ ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ เราจะได้พัฒนาระหว่างวัตถุกับใจไปพร้อม ๆ กันเป็นทางสายกลาง ด้วยเห็นภัยในวัฏฏสงสาร เป็นผู้ละอายต่อบาปเกรงกลัวต่อบาป เป็นเทวดาที่มีความสงบมีปัญญา เราจะได้เข้าถึงพระพรหม พรหมวิหารด้วยการเอาความสงบและปัญญานำชีวิต ไม่เอานิวรณ์ทั้ง ๕ ไม่เอาอคติทั้ง ๔ มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตา
รู้เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นไม่ใช่นิติบุคคลตัวตน หากเป็นเพียงเหตุเป็นเพียงปัจจัย เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปถึงมี เราทั้งหลายจะได้เข้าถึงปัญญาสัมมาทิฏฐิ พัฒนาทั้งใจพัฒนาทั้งวัตถุไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้เป็นคนทันทั้งทางวัตถุ ทันทั้งทางเรื่องจิตเรื่องใจไปพร้อม ๆ กันเป็นปัจจุบันที่เป็นธรรม เข้าถึงความเพียงพอ เข้าถึงความพอดี เราจะได้เข้าถึงความเป็นมนุษย์ เราต้องมีความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัติ ปัจจุบันเราต้องมีแต่ธรมของ เทวดา เป็นผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร มีความละอายต่อบาปเกรงกลัวต่อบาป รู้อริยสัจสี่ รู้ทุกข์ รู้เหตุเกิดทุกข์ รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์
ปัจจุบันเราต้องเข้าถึงคุณธรรมคือธรรมเป็นที่อยู่ของพระพรหม มีความเมตตาอย่างไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ มีความกรุณาอย่างไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ มีมุทิตาอย่างไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ มีอุเบกขาวางเฉย รู้เข้าใจไม่เข้าไปลิดรอนสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่นของผู้อื่น ไม่ลิดรอนสิทธิธาตุทั้ง ๔ ขันธ์ทั้ง ๕ อายตนะทั้ง ๖ มีความรู้ความเข้าใจ เข้าใจในเรื่องอริยสัจสี่ สิ่งภายนอกภายใจเข้าใจ จะได้มีความสงบและปัญญา เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน อุเบกขานี้ พรหมวิหารนี้ก็จะส่งผลัดเข้าถึงอริยมรรคมีองค์แปด รู้เข้าใจในเรื่องการประพฤติการปฏิบัติ เข้าสู่ความรู้คู่กับการปฏิบัติทั้งกายวาจากิริยามารยาท เพื่อใจจะได้มีแต่ความสงบ จะได้มีแต่ปัญญา เป็นพระอริยเจ้าได้ตั้งแต่ในปัจจุบัน ไม่ต้องรอชาติหน้า
เราพากันรู้พากันเข้าใจ เมื่อปัจจุบันไม่มีธรรมของความเป็นมนุษย์ ปัจจุบันนี้ไม่มีเทวดาธรรมเป็นธรรมของเทวดา ให้เข้าใจนะ เมื่อตายไปแล้วจะเป็นเทวดาได้อย่างไร เพราะว่าไม่มีเหตุไม่มีปัจจัย ปัจจุบันนี้ไม่มีพรหมวิหาร อนาคตจะมีได้อย่างไร ปัจจุบันนี้เราต้องมีเมตตาอย่างไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ มีกรุณาอย่างไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ มีมุฑิตาอย่างไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ มีอุเบกขาวางเฉยอย่างไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ เพราะเราต้องรู้เข้าใจ เราจะไปลิดรอนสิทธินั้นไม่ได้ เราทั้งหลายจะไม่ได้ไปตามผัสสะ ไม่ได้ไปตามสิ่งแวดล้อม เราจะได้จบลงเพียงผัสสะ เพื่อไม่ให้เวทนานั้นเกิดเป็นตัวเป็นตน เราทั้งหลายถึงจะพากันเข้าถึงพระนิพพานตั้งแต่ยังไม่ตาย ไม่ต้องรอชาติหน้า
เราทุกคนต้องพากันรู้เข้าใจ เราจะได้รู้ว่าธรรมะทั้งหลายนี้มีแต่คุณมีแต่ประโยชน์หาโทษมิได้ เป็นพุทธคุณ ธัมมคุณ สังฆคุณ
เราทั้งหลายจะได้พากันมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตา ตั้งใจตั้งเจตนาว่าพระวินัยสิกขาบทน้อยใหญ่ ธุดงควัตร ข้อวัตรกิจวัตรนี้มีแต่คุณมีแต่ประโยชน์ เราพากันนอนพากันพักผ่อนให้เพียงพอ เราพากันจับหลักให้ได้ จับประเด็นให้ได้ ว่าพระรัตนตรัยคือคุณอันประเสริฐ ให้รู้เข้าใจ ใครก็ช่วยเหลือเราไม่ได้ พระพุทธเจ้าก็ช่วยเหลือเราไม่ได้ พ่อแม่ครูบาอาจารย์หรือใครต่อใครก็ช่วยเหลือเราไม่ได้ เราต้องพากันประพฤติพากันปฏิบัติเอาเอง เราต้องประพฤติปฏิบัติด้วยปลีแข้งด้วยความตั้งใจตั้งเจตนา
เราทั้งหลายน่ะถึงต้องพักผ่อนให้พอ จำวัดให้พอ นิสัย ๔ กิจที่ควรทำ กรณียกิจ ๔ กิจที่ไม่ควรทำ เราทั้งหลายจะได้ปฏิบัติทั้งกายทั้งวาจาทั้งกิริยามารยาท ปฏิบัติทั้งใจ อาชีวะปาริสุทธิ อาชีพของเราต้องบริสุทธิ เพื่อให้เป็นทางสายกลางระหว่างวัตถุกับจิตใจ เราทั้งหลายจะไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เบียดเบียนสัตว์อื่น อาชีพของมนุษย์ต้องเป็นอาชีพที่สุจริต คำว่าสุจริตเป็นความสงบและปัญญา เป็นความพอดีเป็นความพอเพียงเพียงพอ
อริยมรรคข้อที่ ๔ สัมมากัมมันตะ หมายถึงธุรกิจหน้าที่การงาน การทำงานกับการปฏิบัติต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ได้ทั้งธุรกิจหน้าที่การงานได้ทั้งจิตใจไปพร้อม ๆ กัน การทำงานกับเรื่องจิตเรื่องใจนี้ต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะแยกกันไม่ได้ระหว่างธุรกิจหน้าที่การงานระหว่างจิตใจจะแยกกันไม่ได้ ถ้าแยกกันแล้วไม่ใช่ทางสายกลาง มันจะซ้ายจัดขวาจัด ไม่ใช่ทางสายกลาง
เราทั้งหลายต้องบริหารตัวเอง บริหารผู้อื่นด้วยสัมมากัมมันตะ ให้พวกเรารู้เข้าใจ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจ เดี๋ยวมันพังทลายเหมือนตึก สตง. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินของเมืองไทยประเทศไทย อยู่ที่กรุงเทพฯ อยู่ที่เมืองหลวง ตึก สตง. ตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ถ้าเราเอาตั้งแต่ทางวิทยาศาสตร์เอาแต่วัตถุ มันก็ย่อมพังทลายเช่นเดียวกับตึก สตง. ถ้าเราจะเอาแต่เรื่องจิตเรื่องใจไม่พัฒนาทางวัตถุทางวิทยาศาสตร์ มันก็ย่อมพังทลายเหมือนตึก สตง. เพราะการประพฤติการปฏิบัติในการดำรงชีวิตดำรงธาตุดำรงขันธ์ดำรงอายตนะนั้นเค้าต้องปฏิบัติทั้งกายทางใจวัตถุไปพร้อม ๆ กัน เราทั้งหลายจะไม่ได้เอาความสุขจากความหลง มันเป็นการเอาตัวรอดในทางที่ไม่รอด ไม่ใช่ทางสายกลาง
ธรรมะที่เป็นมนุษย์ เราต้องเอาทั้งวัตถุ เอาทั้งใจไปพร้อม ๆ กัน ธรรมะเทวดาของเทวธรรมก็ต้องเอาทั้งวัตถุเอาทั้งใจไปพร้อม ๆ กัน ธรรมะที่เป็นพระพรหม พรหมวิหาร ผู้ที่เป็นใหญ่ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ต้องมีพรหมวิหาร ๔ ไม่มีนิวรณ์ทั้ง ๕ ไม่มีอคติทั้ง ๔ ให้เรารู้ให้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้ก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจ สัมมากัมมันตะ การงานของเราก็ต้องให้เข้าถึงความสงบเข้าถึงปัญญา เพราะปัญหาต่าง ๆ นั้นมันอยู่ที่กรรมอยู่ที่การกระทำอยู่ที่กฎแห่งกรรม อยู่ที่ผลของกรรม นิติศาสตร์กับรัฐศาสตร์มันต้องไปพร้อม ๆ กัน มันจะแยกกันไม่ได้ เพื่อให้เป็นสัมมากัมมันตะเพื่อให้เป็นการงานชอบเพื่อให้เกิดความสงบเกิดปัญญา เกิดอนันตตาไม่ใช่เป็นนิติบุคคลตัว เดี๋ยวมันจะพังทลายเช่นเดียวกันกับตึก สตง.
เราทั้งหลายต้องพากันรู้อริยสัจสี่ รู้ทุกข์ รู้เหตุเกิดทุกข์ รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ ความยั่งยืนให้เข้าใจ ความยั่งยืนคือรู้เรื่องพระไตรลักษณ์นะ ถ้าเราไม่รู้เรื่องพระไตรลักษณ์ การเรียนหนังสือก็เพื่อจะเอาเพื่อจะมีเพื่อจะเป็น การทำงานก็เพื่อจะเอาเพื่อจะมีเพื่อจะเป็น นั้นไม่ใช่ความสงบไม่ใช่ปัญญานะ มันไม่ใช่พรหมวิหารทั้ง ๔ นะ คำว่าหารก็คือความพอคือความพอเพียงเพียงพอ เป็นความสงบเป็นปัญญา เป็นความพอดีนะ มนุษย์เราถึงต้องเอาธรรมนำชีวิต มีหลักการอุดมการณ์อุดมธรรม เช่น วันจันทร์อังคารพุธพฤหัสศุกร์เป็นวันทำงานกับวันปฏิบัติธรรมไปพร้อม ๆ กัน ทำทั้งภายนอกทำทั้งภายในเพื่อให้เป็นสัมมากัมมันตะ เพื่อเราจะได้ทั้งธุรกิจหน้าที่การงาน เราได้ทั้งเรื่องจิตเรื่องใจไปพร้อม ๆ กัน
วันเสาร์วันอาทิตย์เป็นวันหยุดทำงานเพื่อไปเน้นไปปฏิบัติเรื่องจิตเรื่องใจเรื่องภาวนา ไปภาวนาเรื่องจิตเรื่องใจ เป็นภาวนาพระกรรมฐาน เพื่อเอาความสงบแบะปัญญา เพื่อเราจะได้ถือเนกขัมมะ เน้นเรื่องจิตเรื่องใจไม่เอาความสงบในระดับศีล ๕ เอาความสงบระดับเนกขัมมะบารมี มีความสงบมีปัญญา ไปถือศีลอุโบสถอยู่ที่วัดสำหรับศาสนาพุทธ สำหรับศาสนาคริสต์ก็ไปถือศีลภาวนาเนกขัมมะที่โบสถ์ สำหรับศาสนาอิสลาม ก็ไปถือศีลเนกขัมมะอยู่ที่มัสยิด ผู้ถือศาสนาพราหมณ์ฮินดูก็ไปถือเนกขัมมะอยู่ที่วิหาร เทวสถาน เพื่อเป็นหลักการเป็นอุดมการณ์อุดมธรรม
นี้เป็นหลักการของความเป็นมนุษย์นะ มนุษย์เราถึงต้องมีปัญญากับความสงบไปพร้อม ๆ กัน เพื่อเราทั้งหลายเกิดมารู้ทั้งวัตถุรู้ทั้งใจไปพร้อม ๆ กัน มารู้แจ้งโลกแจ้งธรรม มาเอาหลักการอุดมการณ์มาประพฤติมาปฏิบัติ
มนุษย์เราทั้งหลายถึงต้องมีสติมีสัมปชัญญะ เพราะตัวสติตัวสัมปชัญญะคือตัวดับทุกข์ ตัวที่เข้าถึงความพอดีความพอเพียงเพียงพอ เพราะธรรมะที่เป็นบริสุทธิคุณทั้งกายวาจากิริยามารยาททั้งใจ เป็นธรรมะที่เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เข้าถึงความพอดี จะได้หยุดด้วยความรู้ความเข้าใจ จะได้หยุดการเวียนว่ายเป็นวงกลม ที่วกวนอยู่เพียงพอ เป็นวงกลม เป็น cycle of life ที่มันไปไหนไม่ได้
เราเรียนหนังสือก็เพื่อความรู้ความเข้าใจเราจะได้เสียสละ เราทำงานก็เพื่อความรู้ความเข้าใจว่ามนุษย์เราคือผู้ที่เสียสละ เราเป็นข้าราชการนักการเมืองเป็นนักบวชทุก ๆ ศาสนา เราจะได้พากันมาเสียสละ มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการเสียสละ
เราดูตัวอย่างแบบอย่างองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านทรงเสียสละให้ธาตุให้ขันธ์ให้อายตนะ ท่านทรงบรรทมพักผ่อนวันละ ๔ ชั่วโมง ภายใน ๒๔ ชั่วโมงท่านเสียสละให้หมู่มวลมนุษย์ทั้งหลายเทพเทพวา ยักษ์คา สรรพสัตว์ทั้งหลายวันละ ๒๐ ชั่วโมงนะ
ความสุขของมนุษย์อยู่ที่ความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัติ อยู่ที่ความสงบอยู่ที่ปัญญา เราทั้งหลายจะได้เข้าถึงความพอดี เราทั้งหลายจะได้ดำรงชีพดำรงธาตุดำรงขันธ์เราจะได้ตั้งอยู่ในสัมมากัมมันตะด้วยการงานชอบประกอบด้วยความสงบและปัญญา เราทั้งหลายจะไม่ได้สร้างปัญหาให้กับตัวเองไม่ได้สร้างปัญหาให้กับคนอื่นด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ เราทั้งหลายจะเป็นผู้มีปัญญาสัมมาทิฏฐิ การงานของเราถึงจะชอบ เราทั้งหลายจะได้เอาตัวรอดปลอดภัยในทางที่รอด
สัมมาอาชีวะ การเลี้ยงชีวิตชอบ มนุษย์เราต้องเลี้ยงชีวิตชอบเพื่อความสงบและปัญญาเพื่อปัญญาและความสงบ ถ้าอย่างนั้นมันจะเอาตัวรอดในทางที่ไม่รอด การเรียนการศึกษาการทำงานมันจะไม่ใช่สัมมาอาชีวะ เราจะไปเอาตัวรอดในทางที่ไม่รอดนั้นไม่ได้ เราต้องรู้เข้าใจ เราต้องมีปัญญาสัมมาทิฏฐิ เพื่อความยั่งยืน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านให้หลักการอุดมการณ์อุดมธรรมแก่มนุษย์ในการเลี้ยงชีวิตชอบ เลี้ยงชีวิตที่ถูกต้อง
มิจฉาวณิชชา ๕
๑. การค้าการขายเครื่องประหารชีวิตมนุษย์ ประหารสัตว์ ได้แก่ ขายปืนทุก ๆ ชนิด ระเบิดทุกชนิด ที่เอาไว้สำหรับประหารมนุษย์ประหารสัตว์อื่น หอกที่แหลม ๆ เค้าเรียกว่าหอก เอาไปประหารมนุษย์ประหารสัตว์ให้เจ็บให้ตาย ดาบ มีดดาบ สำหรับไว้ฟันบุคคลอื่นฆ่าคนอื่น ฆ่าสัตว์ ต่าง ๆ ให้บาดเจ็บหรือว่าตายไป ขายลูกปืนสำหรับยิงปืน มีปืนก็ต้องมีลูกปืน ขายระเบิด ขายลูกระเบิด ขายเครื่องบินรบ ขายเรือรบเพื่อทำสงครามระหว่างในประเทศและต่างประเทศ
เคมีที่เป็นไวรัสต่าง ๆ ที่มนุษย์เราสามารถพัฒนาใช้เคมีที่เป็นไวรัสได้ ใช้ไวรัสเป็นอาวุธ เช่น ใช้ไวรัสโควิดอย่างนี้เป็นต้น เราไม่ชอบใจประเทศไหนก็สร้างไวรัสเพื่อไปทำลายประเทศนั้น ๆ โลกนี้คือความไม่รู้ไม่เข้าใจ ความเข้าไม่รู้ไม่เข้าใจคือความปรุงแต่ง มันเป็นวงกลมเป็น cycle of life เมื่อมีความปรุงแต่งเมื่อไหร่ก็ย่อมมีทุกข์เกิดขึ้น ทุกข์ตั้งอยู่ทุกข์ดับไป นอกจากทุกข์นั้นไม่มีเลย อย่างโรคไวรัสโควิดอย่างนี้แหละ มันก็หมุนรอบโลกเลย ความปรุงแต่งนั้นเราต้องรู้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้เข้าถึงความสงบและปัญญา ปัญญาและความสงบ เราจะได้เข้าถึงศีลถึงสมาธิถึงปัญญา มีอนันตตาความสงบและปัญญาเป็นทางเดิน อาชีพของเราน่ะถึงต้องรู้เข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจเราก็จะพากันปรุงไปเรื่อยแต่งไปเรื่อยนั้นไม่ได้ เราต้องรู้เข้าใจ ความสงบและปัญญานี้ถึงจะเข้าถึงความพอดี ความพอเพียงเพียงพอ
เพราะโลกนี้เราต้องพากันเข้านะ มันเป็นวงกลมที่หมุนรอบตัวเอง มันหมุนกลับมารอบตัวเองมันเอง เป็นกลางวัน ๑๒ ชั่วโมง กลางคืน ๑๒ ชั่วโมง ความไม่รู้ไม่เข้าใจในธรรมในสภาวธรรมในเรื่องธาตุเรื่องขันธ์เรื่องอายตนะ สติปัญญาของเราก็ย่อมถูกธาตุถูกขันธ์ถูกอายตนะครอบงำสติครองงำปัญญา เรา เราทั้งหลายต้องรู้เรื่องธาตุเรื่องขันธ์เรื่องอายตนะ เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมันเป็นสิ่งที่มีอยู่ มันมีทั้งสิ่งภายในและสิ่งภายนอก เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้เข้าถึงสัมมากัมมันตะ การงานของเราจะได้สงบได้มีปัญญา
การกระทำทุกอย่างนั้น เราต้องรู้เข้าใจ ถ้าไม่รู้ไม่เข้าใจเราก็จะถูกธาตุถูกขันธ์ถูกอายตนะภายนอกภายในนั้นมันครอบงำความสงบครอบงำปัญญาของเรา มันจะเป็นการเบียดเบียนตนเองเป็นการเบียนดเบียนบุคคลอื่นด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจเราจะไม่ได้เบียดเบียนทั้งตนเองไม่เบียดเบียนทั้งคนอื่น
ความไม่รู้ไม่เข้าใจมันเป็นไวรัส ไวรัสทำลายของตัวไวรัสเอง เราต้องรู้เข้าใจ ความไม่รู้ไม่เข้าใจนั่นแหละมันจะเป็นไวรัสเป็นรัฐประหารตัวของมันเอง ตัวของมันเองนั้นมันจะระเบิดตัวของมันเองไปในตัว เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้ยกเลิกเผด็จการ ยกเลิกรัฐประหาร ความไม่รู้ไม่เข้าใจ เราทั้งหลายจะเป็นผู้รัฐประหารตัวของเราเอง ไม่มีใครมาทำลายเรา ความไม่รู้ไม่เข้าใจ ตัวเรานี้แหละมันจะรัฐประหาร เราทั้งหลายต้องรู้รัฐประหารนะ
เราทั้งหลายน่ะต้องคืนออำนาจให้กับความถูกต้อง ที่การปกครองที่ว่า เราทั้งหลายต้องคืนอำนาจให้กับปวงชน หรือว่าเราทั้งหลายต้องคืนอำนาจให้กับธรรมชาติ เพื่อทุกอย่างนั้นจะไม่ได้ลิดรอน จะได้ยกเลิกรัฐประหาร เรามีทิฏฐิมานะ มีอัตตาตัวตน ไม่ได้นะ เพราะตัวตนนั้นแหละองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านว่า ตัวนั้นแหละคือทุกข์เกิดขึ้น ทุกข์ตั้งอยู่ทุกข์ดับไป นอกจากทุกข์นั้นไม่ใช่อย่างอื่นเลย มีแต่ทุกข์ทั้งนั้น มีแต่ทุกข์ทั้งเพ เราทั้งหลายต้องคืนอำนาจ ต้องไม่มีความสำคัญมั่นหมายว่าเป็นนิติบุคคลตัวต ว่าเราเป็นผู้หญิงผู้ชาย เป็นคนแก่คนเฒ่าคนชรา เป็นคนตายเป็นคนพลัดพราก มีความสำคัญมั่นหมายว่าเราดีกว่าเค้าเก่งกว่าเค้าฉลาดกว่าเค้ามีอำนาจมีบารมีเยอะแยะ เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ นี้มันคือทุกข์ นี้คือเหตุเกิดทุกข์ นี้คือปฏิบัติถึงความดับทุกข์ นี้คืออริยสัจสี่ เราต้องเมตตาตนเองด้วยอริยสัจสี่ เราจะได้รู้จักว่า ความเมตตาธรรมนั้นเป็นเครื่องค้ำจุนโลก เราต้องรู้เข้าใจ ต้องเมตตาตนเองด้วยความร็ความเข้าใจ เราต้องมีมุฑิตาด้วยความรู้ความเข้าใจ มีอุเบกขาวางเฉยเพื่อไม่ให้อวิชชาอัตตาตัวตนมันครองธาตุครองขันธ์ครองอายตนะ ครอบครองสติปัญญาของเรา ด้วยความรู้ความเข้าใจ เราจะได้เข้าถึงการงานชอบด้วยเอาศีล เอาสมาธิ เอาปัญญา เอาสมถะ เอาวิปัสสนามาประพฤติมาปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความสงบเกิดปัญญา
มันต้องเป็นความถูกต้อง เราทั้งหลายจะได้พัฒนาใจของเรา เราจะได้พัฒนาทางวิทยาศาตร์ทางวัตถุไปพร้อม ๆ กัน มันเป็นการเอาตัวรอดด้วยปัญญาสัมมาทิฏฐิ ที่เป็นความสงบเป็นปัญญาเป็นอนัตตาที่มีแต่ความสงบมีแต่ปัญญา
เราทำกรรมอะไรเราต้องรู้เราต้องเข้าใจ เพื่อจะไม่ได้เบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่น กรรมนั้นจะไม่ได้ตามสนอง เรารู้เข้าใจ เราพากันเห็นมั๊ยเข้าใจมั๊ย ไวรัสต่าง ๆ ที่มันเป็นโควิดที่ผ่านมา ความไม่รู้ไม่เข้าใจในเรื่องกรรมเรื่องกฎแห่งกรรมเรื่องผลของกรรมนั้น โควิดนั้นก็กระจายไปทั่วโลก เป็นโควิดกันงอมกันไปทั้งโลกเลย นั้นคือไวรัสโควิดทางร่างกายนะ โควิดนั้นมาหลายทิศทางของโควิดนะ โควิดนี้หมายถึงเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาที่มีปัญหา ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจในเรื่องมรรคเรื่องอริยมรรค ก็ย่อมมีปัญหาก็ย่อมสร้างปัญหา ปัจจุบันถึงเป็นวาระสำคัญ เราต้องทำหน้าที่ของเราในมรรคอริยมรรคที่เป็นกายวาจากิริยามารยาทอาชีพรวมลงที่ใจ เราทั้งหลายน่ะจะได้มีความสงบมีปัญญา เราทั้งหลายจะได้หยุดในความไม่ถูกต้อง ที่มันเป็นกายวาจากิริยามารยาทอาชีพมันมารวมที่ใจ ใจของเราต้องมีปัญญา ใจของเราต้องเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติมีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ
๒. การค้าการขายมนุษย์ ได้แก่ เป็นนายหน้าจัดหางานให้คนเค้าทำงาน เป็นผู้ติดต่อประสานระหว่างกรรมกรกับนายทุน เพื่อให้ไปเป็นกรรมกรในการทำงาน เราติดต่อประสานงานเพื่อหวังผลประโยชน์ตอบแทน อย่างนี้เรียกว่าค้าขายมนุษย์ มันไม่ใช่ความเกื้อกูล มันเพื่อหาผลประโยชน์ตอบแทน การกระทำอย่างนี้เค้าเรียกว่าการค้าขายมนุษย์เพื่อให้เป็นทาสรับใช้นายทุน เพื่อให้ไปเป็นกรรมกร ถ้าเราติดต่อประสานระหว่างกรรมกับนายทุน ถ้าเราไม่หวังอะไร ตอบแทนนั้นถือว่าเป็นบุญเป็นกุศล
การค้าขายผู้หญิงเพื่อบริการทางเพศให้สำหรับผู้ชาย การค้าขายผู้ชายเพื่อบริการทางเพศสำหรับผู้หญิง ทำอย่างนี้เรียกว่าค้าขายมนุษย์
ทางส่วนราชการเป็นองค์การที่ประสานเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายบ้านเมือง เพื่อจะได้เข้าถึงความพอดีความพอเพียงเพียงพอ
ทางส่วนราชการนักการเมืองถึงให้มีหลักการ เราจะไปทำงานในประเทศเราจะไปทำงานต่างประเทศก็ต้องให้ถูกต้องตามกฎหมายลายเซ็นต์ เพื่อควบคุมในการทำงาน เพื่อให้การทำงานนั้นถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อจะเป็นการให้ระหว่างผู้ทำงานกับนายทุน เพื่อให้เกิดความสงบเกิดปัญญา
ในสมัยรัชกาลที่ ๕ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นยุคที่ประเทศไทยมีพัฒนาการในหลาย ๆ ด้าน ทั้งด้านการคมนาคม การเรียนการศึกษา พัฒนาสังคม เพื่อเอาธรรมนูญนำชีวิต เพื่อให้เป็นวัฒนธรรมอันดีงาม เพื่อเป็นศิลปะแห่งชีวิตที่เป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญา ก้าวไปด้วยธรรมนูญเป็นวัฒนธรรม
หนึ่งในพระราชกรณียกิจอันสำคัญยิ่งของพระองค์คือการมายกเลิกทาสมายกเลิกชั้นวรรณะ ความเป็นนิติบุคคลตัวตน ให้เอาธรรมนูญนำชีวิตนะ ไม่เอาความรู้สึกนำชีวิต ยกเลิกเรื่องทาสเรื่องบ่าว
อันเป็นการยกเลิกระบบคนชั้นสูงคนชั้นต่ำ เพื่อไม่ให้ผู้มีการเรียนการศึกษา มีสติปัญญาเอาการเรียนการศึกษาเพื่อเห็นแก่ตัว กดขี่ข่มเหงราษฎรให้เอามาใช้งานเอามาทำงาน เหมือนกับเอาวัวเอาควายมาใช้ในการทำนา เอาช้างเอาม้ามาขี่สำหรับเป็นยานพาหนะการคมนาคม ต้องมีความเคารพคารวะ เลี้ยงดูให้อาหาร ให้อาหาร ให้ที่อยู่ที่อาศัย พักผ่อนให้สมบูรณ์ ด้วยความเคารพคารวะในธรรม ไมใช่เอาแต่วิทยาศาสตร์เอาแต่วัตถุ ทั้งทางวัตถุเรื่องจิตใจเรื่องธรรมเรื่องคารวธรรมมันต้องมีน่ะ มันถึงมีความสงบมีปัญญา ถ้าอย่างนั้นก็มีแต่อัตตามีแต่ตัวตนมันก็มีแต่วัตถุ มีแต่วิทยาศาสตร์ไม่มีธรรมไม่มีคารวธรรม มันทำลายความถูกต้อง มันทำลายตัวของมันเอง เป็นระเบิดเวลา ระเบิดกาลเวลา ระเบิดความถูกต้องที่เป็นบริสุทธิคุณ เป็นการผูกขาดด้วยอัตตาตัวตน มันมีอัตตาตัวตนมาก อย่างไม่มีที่สุดไม่มีประมาณว่าเมื่อไหร่มันจะหยุดมันจะหมด ความรู้ความเข้าใจเรื่องธรรมเรื่องคารวธรรมมันจะหยุดมันจะสงบ
สมัยรัชกาลที่ ๕ สยามได้รับอิทธิพลจากประเทศตะวันตกในหลาย ๆ ด้าน การพัฒนาประเทศให้ทันสมัยทัดเทียมนานาอารยชาติเป็นหนทางหนึ่งที่จะป้องกันภัยคุกคามจากมหาอำนาจประเทศตะวันตกได้
พระองค์ทรงใช้พระปรีชาสามารถค่อยๆ ปรับกฎเกณฑ์เกี่ยวกับทาสและไพร่เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น
๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๑๗ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประกาศ ‘พระราชบัญญัติพิกัดเกษียณลูกทาสลูกไทย’ แก้พิกัดค่าตัวทาสใหม่ โดยให้ลดค่าตัวทาสลงตั้งแต่อายุ ๘ ขวบ จนกระทั่งหมดค่าตัวเมื่ออายุได้ ๒๐ ปีเมื่ออายุได้ ๒๑ ปี ผู้นั้นก็จะเป็นอิสระ มีผลกับทาสที่เกิดตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๑๑ เป็นต้นมา และห้ามมิให้มีการซื้อขายบุคคลที่มีอายุมากกว่า ๒๐ ปีเป็นทาสอีก
๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๘ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประกาศใช้ ‘พระราชบัญญัติเลิกทาส ร.ศ. ๑๒๔’ และ ‘พระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร ร.ศ. ๑๒๔’ ถือเป็นการเลิกระบบทาสและระบบไพร่ในสยามประเทศ โดยในส่วนของทาสนั้น ‘พระราชบัญญัติเลิกทาส ร.ศ. ๑๒๔’ ให้ลูกทาสทุกคนเป็นไทตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๘ ส่วนทาสประเภทอื่นที่มิใช่ทาสในเรือนเบี้ยทรงให้ลดค่าตัวเดือนละ ๔ บาท นับตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๔๘ เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีบทบัญญัติป้องกันมิให้คนที่เป็นไทแล้วกลับไปเป็นทาสอีก ทำให้วันที่ ๑ เมษายนเป็นที่รู้จักกันใน ‘วันเลิกทาส’
๓. เราเป็นมนุษย์เป็นผู้ประเสริฐ เราจะไปขายสัตว์เป็น ๆ ให้เค้าทำเป็นอาหารนั้นไม่ได้ เช่น หมู เป็ด ไก่ ช้าง ม้า วัว ควาย ทั้งสัตว์บกสัตว์น้ำ สัตว์เหล่านี้เป็นสัตว์ที่มีชีวิตอยู่ เป็นสัตว์ที่ยังไม่ตาย เราจะเลี้ยงสัตว์เหล่านั้นไว้ทานเองหรือไว้ขายนั้น อาชีพอย่างนี้มันเป็นอาชีพที่ไม่ถูกต้อง มันเป็นอาชีพที่เห็นแก่ตัวมาก ๆ เห็นแก่ปากแก่ท้องมาก ๆ เห็นแก่ความร่ำความรวยอย่างมาก ๆ มันเป็นอาชีพที่ไม่คำนึงถึงความผิดถูกดีชั่ว เอาแต่ตัวเอาแต่ตน
สัตว์ยังมีชีวิตอยู่ สัตว์ที่ยังไม่ตาย สัตว์ยังเป็น ๆ อยู่ สำหรับเพื่อเอาไปทำเป็นอาหาร เอามาทำเป็นอาหาร สัตว์ทุกชนิดเราจะเลี้ยงไว้ทานเองหรือเลี้ยงขายนั้น ผู้ประพฤติผู้ปฏิบัติธรรมพากันทำไม่ได้นะ เพราะมันเป็นอาชีพที่เห็นแก่ตัวเห็นแก่ปากแก่ท้องมันเป็นการพัฒนาตั้งแต่วิทยาศาสตร์พัฒนาตั้งแต่ตัวแต่ตนไม่ได้พัฒนาใจไปพร้อม ๆ กันเป็นชีวิตที่สุดโต่งไม่ใช่ความสงบไม่ใช่ปัญญาไม่ใช่อนัตตามันเป็นตัวเป็นตนมันเป็นสัญชาตญาณเป็นวัฏฏสงสาร เป็นผู้ไม่ละอายต่อบาปไม่เกรงกลัวต่อบาป เป็นสิ่งที่ไม่สมควร มันเป็นการเบียดเบียนทั้งตัวเอง ตัวเองก็หลงไปเรื่อย คนอื่นก็ลำบาก มันเสียหายทั้งส่วนตัวและส่วนรวมนะ
เพราะเป็นการเบียดเบียนสัตว์ เพราะมันเป็นความไม่ถูกต้อง ถึงจะถูกต้องตามกฎหมายบ้านเมืองก็ถือว่ายังไม่ถูกต้องตามธรรม ถึงจะรวยก็รวยมาจากความไม่ถูกต้องรวยจากไม่ยุติธรรม มันไม่ใช่ธรรมไม่ใช่ปัจจุบันธรรม มันเป็นตัวเป็นตน ไปเอาความสุขจากการเบียดเบียน ไปเอาความสุขจากความหลงของตัวเอง ความหลงนี้มันเป็นการตรึกเองนึกเองพูดเองเออเอง ให้พวกเราทั้งหลายรู้เข้าใจนะ อันนี้ไม่ใช่ธรรมนูญ ไม่ใช่รัฐธรรมนูญมันเป็นตัวเป็นตน ถึงนักปกครองทุก ๆ ประเทศจะตรากฎหมายมาเพื่อความถูกต้อง มันก็ถูกต้องของอวิชชาของความหลง แต่มันไม่ถูกต้องของความสงบและปัญญานะ มันเป็นความถูกใจอยู่เหนือความถูกต้องนะ ถึงจะถูกต้องตามกฎหมายก็ยังไม่ใช่ธรรมนูญนะ มันยังเป็นนิติบุคคลตัวตนอยู่ มันเป็นการเอาตัวรอดในทางที่ไม่รอด เพราะว่ามันเป็น cycle of life มันเป็นได้แต่เพียงคนเป็นได้แต่เพียงความหลง อวิชชาความหลงมันยังครอบงำสติครอบใจงำ นี้เราเอาธาตุเอาขันธ์เอาอายตนะครอบงำสติปัญญาของเรานะ เราต้องรู้เข้าใจในเรื่องทุกข์เรื่องเหตุเกิดทุกข์เรื่องปฏิบัติถึงความดับทุกข์เราทั้งหลายถึงจะเป็นผู้รู้อริยสัจสี่ รู้ทุกข์รู้เหตุเกิดทุกข์เรื่องข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ เราจะได้เข้าใจเรื่องอริยสัจสี่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ ๙ ของเมืองไทยประเทศไทย ท่านเป็นผู้ทรงทศพิธราชธรรม ท่านเอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิต เพื่อความรู้ความเข้าใจให้ชัดเจน เพื่อให้เป็นความดีที่ประกอบด้วยปัญญา เพื่อจะได้พัฒนาใจพัฒนาวัตถุไปพร้อม ๆ กัน เป็นมรรคเป็นอริยมรรค
ท่านได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ท่านไปกราบเรียนถามท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านพระอาจารย์มหาบัวท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นผู้มุ่งมรรคผลนิพพานเอาอริยมรรคมีองค์แปดนำชีวิต เอาความสงบและปัญญานำชีวิต
ท่านไปถามว่าการเลี้ยงหม่อนเพื่อให้เค้าเอาไปทำเป็นไหมนี้เป็นบาปไหม เพื่อจะได้ช่วยเหลือพสกนิกรชาวไทย เพราะกำลังจะให้ประชากรของไทยได้พัฒนาอาชีพในการเลี้ยงหม่อนเลี้ยงไหม ท่านพระอาจารย์มหาบัวท่านไม่ตอบ ท่านนิ่ง ท่านไม่พูดเลย นิ่งอย่างเดียว
ท่านจึงได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดป่าอุดมสมพร จังหวัดสกลนคร ไปกราบหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ท่านอยู่ที่วัดป่าอุดมสมพร
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระกรรมฐานของเมืองไทย เมื่อกาลเวลานั้นน่ะ ลัทธิคอมมิวนิสต์ได้มาเผยแผ่ลัทธิที่เมืองไทยที่ภาคอีสาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดชท่านทรงเสด็จไปพักที่ตำหนักภูพานราชนิเวศ จังหวัดสกลนคร อยู่ไม่ห่างจากไกลจากวัดป่าอุดมสมพรของท่านหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ท่านถึงได้ไปกราบถามหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ท่านไปถามปัญหาอย่างเดียวกันกับที่ไปถามท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน
ไปถามว่าเลี้ยงหม่อนเพื่อเอาไปทำไหมนั้นบาปมั๊ย หลวงปู่ฝั้นได้ตอบว่า การเลี้ยงหม่อนไม่บาปนะ ได้บุญ การที่เราเลี้ยงอะไรทั้งหมด ไม่บาปมีแต่ได้บุญ จะเลี้ยงหมู เป็ด ไก่ ช้าง ม้า วัว ควาย ตลอดถึงเลี้ยงหม่อนไม่เป็นบาป การนั้นเป็นบุญนะ แต่ถ้าเราไปฆ่าเมื่อไหร่ เมื่อนั้นถึงเป็นบาป จะฆ่าเองหรือให้ผู้อื่นฆ่าก็บาปทั้งนั้น บาปนั้นอยู่ที่เราตั้งใจตั้งเจตนา จะฆ่าเองหรือให้ผู้อื่นฆ่าก็เป็นบาปพอ ๆ กัน
ทุกท่านทุกคนต้องพากันเข้าใจนะ เรื่องความตั้งใจเรื่องเจตนาเราทั้งหลายจะได้เข้าถึงความสงบและปัญญา
เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ เพื่อจะได้เอาความสงบและปัญญานำชีวิต เอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิตด้วยความตั้งใจ ด้วยเจตนาในเรื่องเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ในการฆ่าสัตว์
อย่าเราทำไร่ทำนาทำสวน ทำเกษตรกรรมอุตสาหกรรม หรือว่าเดินไปที่ไหนก็ย่อมทำให้สัตว์เล็กสัตว์น้อยนั้นได้ตายไปด้วยการที่เราไม่ได้ตั้งใจตั้งเจตนา อย่างนี้ถือว่าไม่เป็นบาปไม่เป็นกรรม เพราะเราไม่ได้เจตนาที่จะฆ่า เราต้องเอาตัวตั้งใจตั้งเจตนา เราทั้งหลายจะได้เข้าถึงความสงบ เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ เพราะความสงบและปัญญานี้ที่จะหยุดปัญหาแก้ปัญหาได้ด้วยความรู้ความเข้าใจ
เราทุกคนต้องสำรวมระวัง ตั้งอกตั้งใจตั้งเจตนาไว้หดี ๆ ว่าเราเกิดมาเพื่อความสงบและปัญญา ไม่ใช่เพื่อก่อภพก่อชาติ ก่อนิติบุคคลตัวตน เพื่อชีวิตของเราจะไม่ได้เบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่น จะได้เข้าถึงความพอดีความพอเพียง
๔.ค้าขายพวกเหล้าพวกเบียร์ พวกฝิ่นเฮโรอีนกัญชายาอียาไอซ์ สิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งเสพติด มันเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ต้องรู้เข้าใจเพราะธรรมทั้งหลายทั้งปวงนั้นเกิดจากเหตุ เราต้องมาแก้ที่รู้เข้าใจ นั้นมันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุนะ
ประเภทเหล้าประเภทเบียร์ฝิ่นเฮโรอีนฝิ่นเฮโรอีนกัญชาดื่มเข้าไปเสพเข้าแล้วทำสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ มนุษย์เราจะประกอบอาชีพนั้นไม่ได้นะ ถึงจะร่ำรวยก็เป็นอาชีพที่ไม่ถูกต้อง เสียหายทั้งส่วนตัวและส่วนรวม มันไม่มีคุณมีแต่โทษ มันเป็นการเอาตัวรอดในความไม่รอด ความเสียหายได้เกิดขึ้นทั้งประเทศเราและประเทศอื่นให้พากันเข้าใจ
จะเป็นน้ำเป็นเม็ดเป็นผงถ้ามันทำให้สติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ก็เป็นอาชีพที่ไม่ถูกต้อง แม้แต่ขายบุหรี่เพื่อให้เค้าสูบบุหรี่ก็ถือว่าไม่ดี ขายบุหรี่ธรรมดา ขายบุหรี่ไฟฟ้า มันทำลายระบบประสาททำลายสมอง สมองเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย เป็นศูนย์กลางสั่งการสั่งงานของร่างกาย เมื่อสมองมันถูกทำลายแล้วมันเสียหายนะ
พวกเหล้าพวกเบียร์พวกไวน์ ฝิ่น เฮโรอีน กัญชา ยาม้า ยาอี ยาไอซ์ ยาสูบ สินค้าประเภทนี้แหละไปค้าไปขายไม่ได้นะ ถึงใครจะรวย มีหน้ามีตาของประเทศก็ถือว่าไม่ถูกต้อง อย่าเอาความสุขจากความไม่ถูกต้อง มันเป็นความเสียหายมาก ๆ นะ เป็นการรวยมาจากความไม่ถูกต้อง รวยมาจากการกระทำความผิด มันเป็นการเอาตัวรอดในทางที่ไม่รอด มันเป็นความเห็นแก่ตัวมาก ๆ เลย มันเป็นทำร้ายทั้งส่วนตัวและส่วนรวม เราอย่าไปคิดว่าเพราะจำเป็น ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ทำ เราไปคิดอย่างนั้นไม่ได้นะ ความดับทุกข์นั้นเราต้องรู้เข้าใจ มันต้องอยู่ที่ความสงบและปัญญา ไม่ใช่อยู่ที่อัตตาตัวตน ถ้าไม่รู้เข้าใจความเป็นมนุษย์เทวดาพรหมเป็นพระอริยเจ้าที่เป็นความสงบเป็นปัญญานั้นเป็นไปไม่ได้นะ
เราต้องมารู้เข้าใจเรื่องอริยสัจสี่ เข้าสู่หลักการ อุดมการณ์อุดมธรรม เพื่อให้เกิดความสงบเกิดความเพียงพอ เกิดความพอดี เพื่อเข้าสู่ความยั่งยืน เรามาระลึกถึงธรรมที่ให้เกิดความสงบเกิดปัญญา ด้วยความรู้ความเข้าใจ เราทั้งหลายจะได้ก้าวไปด้วยศีลด้วยสมาธิด้วยปัญญา เราทั้งหลาย ชีวิตของเราประเสริฐนะ อายุขัยของเราอยู่ได้หนึ่งศตวรรษ พัฒนาทั้งใจทั้งวิทยาศาสตร์ไปพร้อม ๆ กัน ถ้าเรามีปิติมีความสุขมีความสงบมีปัญญาในปัจจุบันชีวิตนั้นย่อมอยู่ได้มากกว่า ๑ ศตวรรษนะ
ขออนุโมทนากับท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายเป็นทั้งคนดีคนมีปัญญา มีบุญมีวาสนา เป็นผู้ที่ประเสริฐมีโอกาสมีเวลาในการประพฤติการปฏิบัติ เราทั้งหลายมาระลึกถึงโอวาทธรรมคำสั่งสอนของหลวงปู่มั่นที่ท่านตรัสไว้ว่าชีวิตของเรานี้มันตั้งอยู่ชั่วคราวนะให้เห็นความสำคัญในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อเอาความถูกต้องนำชีวิต เอาความสงบและปัญญาเป็นปฏิปทาเข้าถึงพระนิพพานในปัจจุบันในการประพฤติการปฏิบัติ ท่านหลวงปู่มั่นได้ตรัสไว้ว่า
ความไม่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และแน่นอนนะ
ความยิ่งใหญ่ คือความไม่ยั่งยืนนะ
ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ คือชีวิตที่อยู่ด้วยทาน ศีล เมตตา และกตัญญู
ชีวิตที่มีความดี อาจมิใช่ความยิ่งใหญ่ แต่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ต้องอาศัยคุณธรรมความดีเป็นปัญญาบริสุทธิคุณเท่านั้น การระงับสังขารทั้งหลายด้วยความรู้ความเข้าใจเป็นความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัตินั่นแหละคืออริยมรรค เป็นหนทางที่ประเสริฐมีพระนิพพานตั้งแต่ในปัจจุบัน ไม่ต้องรอพระนิพพานเมื่อตายแล้ว ปัจจุบัน ไม่มีพระนิพพาน อนาคตจะมีพระนิพพานได้อย่างไร ให้เรารู้เข้าใจเรื่องพระธรรมพระวินัย พระธรรมพระวินัยที่เป็นสัมมาทิฐิ เพื่อหยุดวัฏฏสงสารนั่นแหละ คือพระนิพพาน ให้พวกเรารู้เข้าใจในเรื่องพระนิพพาน ให้เข้าใจนะ
----------------------------------------------
โอวาทขององค์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
เมตตาให้ไว้ในเช้าวันศุกร์ที่ ๒๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา