๑๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๑๘ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ คริสต์ศักราช ๒๐๒๕ ฮิจเราะห์ศักราช ๑๔๔๖

 

เมื่อค่ำวานนี้วันที่ ๑๗ นักศึกษาปริญญาโท สาขาหลักสูตรและการเรียนการสอน คณะศึกษาศาสตร์ วิทยาลัยนครราชสีมา จำนวน ๕๒ คน ได้มาร่วมรวมกันประพฤติปฏิบัติธรรม ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา แห่งนี้

 

มนุษย์เราทุกคนที่เกิดมาต้องมีการเรียนการศึกษา เพื่อรู้เพื่อเข้าใจ เพื่อจะเอาไปใช้เอาไปปฏิบัติ ดำเนินชีวิตของตัวผู้นั้น มีการเรียนการศึกษาตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงขั้นปริญญาเอก ได้มีการเรียนการศึกษาตั้งแต่นักธรรมตรีจนถึงเปรียญธรรม ๙ ประโยค

 

การดำเนินชีวิตของมนุษย์ทุก ๆ คน ต้องพากันรู้พากันเข้าใจ ความรู้ความเข้าใจนั้นเป็นปัญญาสัมมาทิฏฐิ ปัญญาสัมมาทิฏฐิคู่กับการประพฤติการปฏิบัติ ทางจิตทางใจกับทางวัตถุต้องไปพร้อม ๆ กันเป็นทางสายกลาง วัตถุกับจิตใจเดินทางไปพร้อม ๆ กัน ให้เป็นธรรมนูญ ให้เป็นรัฐธรรมนูญ ในโลกนี้ปฏิบัติเหมือน ๆ กัน โลกนี้เป็นวงกลมที่หมุนรอบตัวเอง เป็นกลางวัน ๑๒ ชั่วโมง เป็นกลางคืน ๑๒ ชั่วโมง มีประชากรของโลกอยู่แปดพันกว่าล้านคน แปดพันกว่าล้านคนก็ใช้หลักการอันเดียวกันนี้ ปฏิบัติทางสายกลางระหว่างเรื่องจิตเรื่องใจกับทางวัตถุต้องไปพร้อม ๆ กัน ยกเลิกเรายกเลิกเขา ไม่มีเราไม่มีเขา

 

คำว่าชาติก็ได้แก่ความเกิด ความรู้ความเข้าใจในการเรียนการศึกษา เอาไปใช้ไปพัฒนาทั้งทางเรื่องจิตเรื่องใจทั้งทางเรื่องวิทยาศาสตร์ อดีตทั้งหลายที่ผ่านมาก็มารวมอยู่ที่ใจในปัจจุบัน อนาคตที่จะไปข้างหน้าก็มารวมกันที่ปัจจุบัน ปัจจุบันถึงเป็นวาระสำคัญแห่งชาติในการประพฤติการปฏิบัติ

 

ปัจจุบันเราต้องรู้ต้องเข้าใจ เราจะเอาปัจจุบันมาใช้มาปฏิบัติ ปัจจุบันเราทุกคนต้องพากันรู้ทุกข์ มารู้เหตุเกิดทุกข์ มารู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ สิ่งทั้งหลายที่มันไม่ดีไม่ถูกต้องจะได้จบลงในปัจจุบัน อย่าให้ความไม่ถูกต้องนั้นมันดำเนินต่อไป ให้สิ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้นจบลงที่ปัจจุบัน จบลงที่ผัสสะนี้

 

ความสงบนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ ความสงบนี้เป็นสิ่งที่มีคุณมีประโยชน์ ด้วยเหตุผลนี้ เราทุกคนต้องพากันมาเจริญสติสัมปชัญญะ เพื่อให้กายวาจากิริยามารยาทอาชีพมารวมลงที่ใจ ให้ใจของเรานั้นเกิดความสงบ เราทุกคนจะไปฟุ้งซ่านไปตามสิ่งต่าง ๆ นั้นไม่ได้ เรามีก็ต้องมีรูป เราอย่าไปฟุ้งซ่านไปตามรูป เรามีหูก็ได้ยินเสียง เราอย่าไปฟุ้งซ่านไปตามเสียง เรามีจมูกก็มีกลิ่นอย่าไปฟุ้งซ่านไปตามกลิ่น เรามีลิ้นก็มีรสอย่าไปฟุ้งซ่านไปตามรส เรามีกายก็มีสัมผัสเราอย่าไปสัมผัสไป เรามีใจก็มีความรู้สึกนึกคิด เราอย่าไปตามความรู้นึกคิดไป

 

ให้เราทุกคนมีสติมีสัมปชัญญะรู้ตัวทั่วพร้อม มีความสุขกับความสงบ เพราะสิ่งทั้งหลายทั้งปวงมันไม่จบ มันจะจบอยู่ที่เรารู้เข้าใจ อยู่ที่เราทั้งหลายไม่ไปตามผัสสะที่มันเกิดกับเราทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ

 

เราทุกคนต้องพากันรู้พากันเข้าใจ รู้เข้าใจแล้วเราทั้งหลายต้องพากันมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติในปัจจุบัน ให้รู้ให้เข้าใจ ปัจจุบันเป็นวาระสำคัญของการประพฤติการปฏิบัติ

 

เราต้องพากันรู้เข้าใจ เมื่อรู้เข้าใจแล้ว ก็ต้องมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ พัฒนาทางวิทยาศาสตร์ด้วยปิติสุขเอกัคคตา พัฒนาใจให้เกิดปิติสุขเอกัคคตาไปพร้อม ๆ กัน เราทั้งหลาย ให้มีสติคือความสงบ ให้มีสัมปชัญญะตัวปัญญาไปพร้อม ๆ กัน เราทุกคนต้องมีสติเป็นพื้นฐาน มีสัมปชัญญะเป็นพื้นฐาน ความสงบก็ต้องเป็นพื้นฐาน ปัญญาต้องเป็นพื้นฐาน เพื่อหยุดความฟุ้งซ่านของเราทุก ๆ คน

 

วันหนึ่งคืนหนึ่ง ๒๔ ชั่วโมง เราทั้งหลายต้องพากันนอนพักผ่อน ๖-๘ ชั่วโมง ความเป็นจริงของสรีระร่างกายแล้ว เรานอนเราพักผ่อน ๕ ชั่วโมง ๖ ชั่วโมงก็เพียงพอ ๗ ชั่วโมง ๘ ชั่วโมงนั้นสำหรับบุคคลที่ฟุ้งซ่าน คนไม่สงบนอนไม่หลับ ปัญหาต่าง ๆ ให้เรารู้เข้าใจ ปัญหาต่าง ๆ นั้นเกิดขึ้นจากความประมาทของเราทุก ๆ คน ความประมาทคือความผิดพลาดเป็นความเสียหาย มันพังทลายอย่างเดียวเช่นเดียวกันกับตึก สตง. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน

 

เราทุกคนต้องรู้เข้าใจ เราทั้งหลายอย่าได้พากันประมาท ประมาทในความคิด คำพูด การกระทำ กิริยามารยาท อาชีพ เราทั้งหลายอย่าพากันประมาท เพราะความประมาทคือความผิดพลาด มันคือความเสียหาย มันจะพังทลายอย่างเดียวเช่นเดียวกับตึก สตง. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินของเมืองไทยประเทศไทย เราต้องรู้ต้องเข้าใจ เราทั้งหลายจะไม่ได้ตั้งอยู่ในความประมาท

 

ปัจจุบันเป็นวาระสำคัญของเราทุกคน เราทั้งหลายต้องพากันรู้ทุกข์ รู้เหตุเกิดทุกข์ รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ อย่าไปประมาท เราทั้งหลายพากันติดพากันหลง เราต้องเข้าสู่ภาคปฏิบัติภาคบำบัด ผู้ที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ คือบุคคลที่ต้องประพฤติต้องปฏิบัติ ต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เราทั้งหลายต้องพากันยกเลิกความไม่ถูกต้อง ยกเลิกความเป็นนิติบุคคลตัวตน เพื่อให้ชีวิตของเราเป็นทางสายกลางระหว่างจิตใจกับวัตถุ เราจะได้อยู่เหนือความชอบความไม่ชอบ ชีวิตของเราย่อมไม่เอาความชอบความไม่ชอบ ยกเลิกความชอบความไม่ชอบ ธรรมะคือความสงบเป็นสิ่งที่ทวนกระแส ไม่ไปตามกระแส ไม่ไปตามผัสสะ ไม่ไปตามสิ่งแวดล้อม รู้แจ้งทางวัตถุทางวิทยาศาสตร์ รู้แจ้งทางเรื่องจิตเรื่องใจ เราทั้งหลายจะได้หยุดความไม่ถูกต้องที่ปัจจุบัน เราทั้งหลายจะได้จบลงที่ผัสสะ

 

นักศึกษาปริญญาโททั้งหลาย ต้องรู้ต้องเข้าใจในการประพฤติในการปฏิบัติ เราทั้งหลายจะได้ยกเลิกตัวตน จะได้เอาความสงบนำชีวิต เอาปัญญานำชีวิต ความสงบและปัญญาต้องเดินหน้าไปพร้อม ๆ กัน เราทั้งหลายจะไม่ได้ติดอยู่หลงอยู่ ที่เป็นได้แต่เพียงคน คำว่าคนนี้ก็มีความหมายว่า วกวนอยู่ที่เก่า วกวนอยู่ที่เดิม ไปไหนไม่ได้ เดินหน้าถอยกลับมา ย่ำต๊อกอยู่ที่เดิม เค้าถึงมีศัพท์ว่าคนคน ความรู้ความเข้าใจในเรื่องจิตเรื่องใจ ในเรื่องทางวิทยาศาสตร์เราจะได้ก้าวไปด้วยความสงบและปัญญา

 

เราจะได้เข้าถึงคำว่าชาติ ชาติคือความเกิด ที่เป็นความดีที่ประกอบด้วยปัญญา ที่เป็นปัญญาประกอบด้วยความดี เราจะเข้าถึงศาสน์ คือพระศาสนา พระศาสนานั้นคือธรรมะ ธรรมะนั้นคือพระศาสนา พระศาสนานั้นคือทางสายกลาง ยกเลิกตัวตน มีแต่ความสงบมีแต่ปัญญา เป็นอริยมรรคทั้งทางกายวาจากิริยามารยาททั้งอาชีพ ยกเลิกตัวตน เป็นบริสุทธิคุณทั้งกายวาจากิริยามารยาททั้งอาชีพ เป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม เป็นพระศาสนา พระศาสนาทุกศาสนาในโลกนี้มีความหมายอันหนึ่งอันเดียวกัน คือยกเลิกสิ่งไม่ถูกต้อง เอาความถูกต้องนำชีวิตเพื่อให้เกิดความสงบและปัญญา เป็นปฏิปทาที่ก้าวไปทั้งความสงบและปัญญา มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติในปัจจุบัน ศาสนาทุกศาสนามีความหมายอย่างนี้ พระมหากษัตริย์หมายถึงปัญญา หมายถึงนามธรรม การเรียนการศึกษาเพื่อให้เกิดปัญญา เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ไม่ใช่เรียนเพื่อจำ เรียนเพื่อเป็นนิติบุคคลตัวตน กษัตริย์นี้หมายถึงตัวปัญญาที่บริสุทธิคุณยกเลิกตัวตน ผู้ที่เป็นพระมหากษัตริย์หรือผู้ที่เป็นประธานาธิบดีทุกคนถึงทรงทศพิธรราชธรรม เอาธรรมนำชีวิต ยกเลิกตัวตน มีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ ผู้นำตัวเองหรือนำประเทศถึงต้องเอาทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นวัตถุและเอาเรื่องจิตเรื่องใจไปพร้อม ๆ กัน นี้เป็นความหมายของปัญญา เป็นความหมายของพระมหากษัตริย์ ให้เรารู้เข้าใจ

 

นักศึกษาปริญญาโทต้องพากันรู้พากันเข้าใจนะ ความรู้ต้องเป็นคู่กับการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในปัจจุบัน เพื่อจะได้เป็นหลักการปฏิบัติของตนเองและเป็นหลักการปฏิบัติของคนอื่น เพราะทุกอย่างนั้นมันคือกรรม คือกฎแห่งกรรม คือผลของกรรม มันเป็นกรรมทางกายวาจากิริยามารยาททั้งอาชีพมารวมลงที่ใจ ให้เรารู้ให้เข้าใจ กายวาจากิริยามารยาทอาชีพให้เข้าใจว่านี้มันเป็นเพียงอุปกรณ์ของใจเท่านั้น เค้าถึงมีศัพท์คำว่ากรรมกร กายวาจากิริยามารยาทอาชีพนั้นเป็นเพียงอุปกรณ์ของใจ

 

เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ ด้วยเหตุนี้เราทั้งหลายต้องมาเน้นที่ใจของเรา ให้มีสติคือความสงบให้มีสัมปชัญญะคือตัวปัญญาในปัจจุบัน เอาความสงบและปัญญามาใช้มาประพฤติปฏิบัติในปัจจุบัน การเรียนการศึกษาการทำงาน การที่เรารับราชการเป็นนักการเมืองเป็นนักบวชถึงจะเป็นคุณมีแต่ประโยชน์ ไม่มีโทษ เราทั้งหลายถึงจะเกิดความสงบเกิดปัญญา ด้วยเรารู้เข้าใจ เรายกเลิกความไม่ถูกต้อง หรือว่ายกเลิกตัวตน เราทุกคนถึงจะเกิดความสงบได้เกิดปัญญาได้ ที่เราทุกคนยังไม่รู้ไม่เข้าใจ เอาความไม่รู้ไม่เข้าใจเอามาใช้เอามาประพฤติเอามาปฏิบัติ ความไม่รู้ไม่เข้าใจนั้นมันจะเป็นกรรมทางกายวาจากิริยามารยาทอาชีพ มารวมลงที่ใจของเรา

 

เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ ว่าสิ่งต่าง ๆ นั้นมันคือเหตุคือปัจจัย เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปมันถึงมี ถ้าไม่เข้าใจมันจะเกิดการเวียนว่ายตายเกิด มันจะเป็นภพเป็นชาติ เป็นธาตุเป็นขันธ์เป็นอายตนะ ที่เรามีธาตุทั้ง ๔ มีขันธ์ทั้ง ๕ อายตนะทั้ง ๖ มันเป็นกรรมเก่าของเราทุกคนให้เรารู้เข้าใจ ปัจจุบันนี้มันเป็นปลายเหตุแล้ว

 

เราต้องรู้ ปัจจุบันเราทั้งหลายจะได้ยกเลิกกรรมเก่า และไม่สร้างกรรมใหม่ด้วยความรู้ความเข้าใจ เพื่อหยุดสัญชาตญาณที่เป็นนิติบุคคลตัวตน อาศัยความรู้ความเข้าใจประพฤติปฏิบัติให้ติดต่อต่อเนื่องเพื่อเป็นเป็นปัจจุบันธรรม เพื่อให้ความสงบและปัญญาเป็นปฏิปทาที่ติดต่อต่อเนื่องอย่างไม่ขาดสายไปพร้ม ๆ กัน เราต้องรู้เข้าใจในเรื่องกรรม เรื่องกฎแห่งกรรม เรื่องผลของกรรม ด้วยเหตุผลนี้เราถึงต้องยกเลิกการเวียนว่ายตายเกิด

 

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านบำเพ็ญพุทธบารมีเบื้องต้นท่ามกลางถึงที่สุด ท่านเข้าถึงความรู้ความเข้าใจ เข้าถึงความเต็มความพอเพียงเพียงพอ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านมาจุติในพระครรภ์มารดาก็วันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ ท่านประสูติก็วันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ ตรัสรู้ก็วันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ แสดงธัมมจักกัปปวัตนสูตร ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวันก็วันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ บอกกล่าวกับพุทธบริษัททั้งหลายว่าอีก ๓ เดือนข้างหน้าพระตถาคตเจ้าจะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานก็วันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานก็วันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ ท่านเข้าถึงความเต็มเต็มเต็ม เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ ท่านหยุดวัฏฏสงสารด้วยการรู้อริยสัจสี่ รู้ทุกข์รู้เหตุเกิดทุกข์รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ เข้าถึงความเต็มความพอเพียงเพียงพอ เราต้องรู้เข้าใจในเรื่องทุกข์ เหตุเกิดทุกข์ ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์

 

 ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจ การดำเนินชีวิตของเราก็เป็นไปเพื่อประกอบความทุกข์ ความไม่รู้ไม่เข้าใจจะหาเรื่องหาราวให้ตัวเองเป็นทุกข์ หาเรื่องหาราวให้กับคนอื่นเป็นทุกข์ มันมีแต่ทุกข์เกิดขึ้น ทุกข์ตั้งอยู่ ทุกข์ดับไป นอกจากทุกข์ไม่มีเลย องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสว่าความไม่รู้ไม่เข้าใจเปรียบเสมือนทะเลไม่อิ่มด้วยน้ำ เปรียบเสมือนไฟไม่อิ่มด้วยเชื้อของเพลิง เราต้องรู้เข้าใจ เราจะได้เข้าถึงความเต็มความถึงความพอเพียงเพียงพ อเข้าถึงเศรษฐกิจพอเพียง เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ เราอยากได้มากมันก็ไม่มากมันก็เท่าเดิม เราอยากได้น้อยมันก็ไม่น้อยมันก็เท่าเดิม ความสงบและปัญญาเราต้องรู้ต้องเข้าใจ

 

หลักการของเรา เราทั้งหลายต้องรู้ทุกข์ รู้เหตุเกิดทุกข์ รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ เราทั้งหลายต้องยกเลิกตัวตน พากันเจริญสติสัมปชัญญะ พากันมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ หลักการของมนุษย์ มนุษย์เราต้องรู้เข้าใจ ต้องเห็นภัยในวัฏฏสงสาร เห็นภัยในความไม่ถูกต้อง เห็นภัยในทุจริต ตัวตนนั้นแหละคือทุจริต เราอย่าไปประมาท อย่าไปเพลิดเพลิน ตั้งอยู่ในความเพลิดเพลิน ตั้งอยู่ในความประมาท ถ้าเราเพลิดเพลินตั้งอยู่ในความประมาท เราก็ย่อมผิดพลาด ชีวิตประเสริฐที่เราได้รับทรัพยากรเกิดมาเป็นมนุษย์ ชีวิตของเราก็ย่อมพังทลายเสียหายอย่างเดียวเช่นเดียวกันกับตึก สตง. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินของเมืองไทยประเทศไทย

 

เราทุกคนต้องพากันรู้พากันเข้าใจ อย่าได้ตั้งอยู่ในความประมาท ต้องตั้งใจตั้งเจตนา ต้องเห็นภัยในวัฏฏสงสาร ให้ตั้งใจ ให้สมาทาน เข้าสู่ภาคบำบัด เค้าติดอบายมุขอบายภูมิ ติดเหล้าติดเบียร์ติดการพนัน ไม่มีใครเลยที่จะเลิกได้ ถ้าไม่เข้าสู่ภาคบำบัด การบำบัดอย่างน้อยต้องใช้เวลาเป็นเดือน ๆ  พื่อให้การประพฤติการปฏิบัติมันติดต่อต่อเนื่องต้องใช้เวลาอย่างน้อย ๑ เดือน

 

เราดูตัวอย่างแบบอย่าง อย่างไก่มันจะฟักไข่ออกมาเป็นลูกไก่ก็ต้องใช้เวลา ๓ อาทิตย์ขึ้นไป จะฟักด้วยแม่ของไก่หรือฟักด้วยไฟฟ้าก็ต้องใช้เวลา ๓ อาทิตย์ การทำอะไรติดต่อต่อเนื่องด้วยความรู้ความเข้าใจ ไม่ไปตามผัสสะ ไม่ไปตามสิ่งแวดล้อม มันต้องใช้เวลา ๓ อาทิตย์ขึ้นไปมันถึงจะได้ผลเห็นผล สิ่งเหล่านั้นถึงจะเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม

 

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงให้ผู้ที่บวชมาในพระศาสนา เอาหลักการที่เป็นกายวาจากิริยามารยาทอาชีพมารวมลงที่ใจรวมลงที่เจตนาที่ตั้งใจตั้งเจตนา ท่านให้หลักการสำหรับผู้ที่มาบรรพชาอุปสมบทต้องใช้เวลา ๕ ปี ๕ พรรษาขึ้นไป ต้องตั้งใจต้องสมาทานให้การประพฤติการปฏิบัติติดต่อต่อเนื่อง

 

เราคิดดูดี ๆ ด้วยปัญญานะ เราทุกคนจะได้เข้าสู่ภาคปฏิบัติภาคบำบัด เพราะทุกอย่างนั้นมันคือกรรมคือกฎแห่งกรรมคือผลของกรรม เราจะเลิกสิ่งเหล่านั้นได้ เราต้องเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติภาคบำบัด นี้คือภาคบังคับของเรานะ เพื่อให้เข้าถึงความสงบและปัญญา เข้าถึงความพอดีความพอเพียงเพียงพอ ถึงสิ่งเหล่านั้นจะเอร็ดอร่อย จะแซบจะลำจะนัวจะหรอยอย่างไร เราทั้งหลายก็ต้องมายกเลิกสิ่งเหล่านั้น เพื่อเอาความสงบและปัญญา เพื่อเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม เข้าสู่ภาคปฏิบัติภาคบำบัด เพราะสิ่งเหล่านี้คือความจำเป็น เราจะได้เข้าถึงคำว่าชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จะได้เข้าถึงความมั่นของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ด้วยความรู้ความเข้าใจ ความรู้ความเข้าใจเราทั้งหลายจะได้แก้ที่ต้นเหตุ จะไม่ได้แก้ที่ปลายเหตุ

 

เรื่องอริยสัจ ๔ คือเรื่องทุกข์ ทุกข์ทั้งหลายทั้งปวงนั้นมันเกิดจากเหตุ ให้เรารู้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้หยุดที่เหตุ เมื่อเรารู้เข้าใจเรื่องเหตุ เราก็เจริญสติสัมปชัญญะ สติสัมปชัญญะนี้ถึงเป็นธรรมที่มีคุณมากมีอุปการะมากแก่เรา ในชีวิตประจำวันของเราต้องเจริญสติสัมปชัญญะ มนุษย์เราถ้าเรามีสติสัมปชัญญะ มนุษย์เราจะไม่มีความทุกข์อะไร ที่เรามีความทุกข์ก็เพราะเราไม่มีสติไม่มีสัมปชัญญะ ถ้าเรามีสติสัมปชัญญะแล้ว มนุษย์เราจะไม่มีความทุกข์อะไร ความทุกข์ของเรามันจะจบลงในปัจจุบัน

 

ให้เราจับหลักไว้ ให้เอาสติสัมปชัญญะ เราต้องรู้เข้าใจ สติสัมปชัญญะนี้มันจะเป็นยานนำเราไป  เราจะเดินทางไกล เราต้องอาศัยยานทางบกทางอากาศ เราต้องไปรถไปเครื่องบิน เราจะเดินทางทางน้ำเราก็ต้องอาศัยเรือเดินทางทะเลเดินมหาสมุทร สติสัมปชัญญะนี้เปรียบเสมือนยาน เราต้องรู้เข้าใจ ธรรมะสิ่งที่เป็นอุปการะมากคือสติสัมปชัญญะ เราเป็นผู้คงแก่เรียน เป็นผู้เรียนผู้ศึกษา ถ้าเราไม่รู้สู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ ไม่เอาความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัติในปัจจุบันนั้นไม่ได้ มันจะเกิดความเสียหาย การเรียนการศึกษามันจะเกิดความเสียหาย เพราะการเรียนการศึกษาเพื่อเป็นนิติบุคคลตัวตน เป็นการพัฒนาวิทยาศาสตร์เพื่อตัวเพื่อตน มันไม่ใช่ความสงบและปัญญาควบคู่กันไปนะ ด้วยเหตุผลนี้ ผู้ที่มีการเรียนการศึกษามาก ๆ มีปัญญามาก ๆ ก็ต้องความสงบมาก ๆ ผู้มีความสงบมาก ๆ ก็ต้องเสียสละมาก ๆ  ๒ อย่างนี้ถึงจะเข้าถึงความพอดีความพอเพียงเพียงพอเข้าถึงเศรษฐกิจพอเพียง

 

การที่เราจะแก้ปัญหาทั้งในปัจจุบันและอนาคต เราต้องใช้สติสัมปชัญญะในการดำเนินชีวิต มาทำงานมาใช้งานไปพร้อม ๆ กัน ด้วยปิติด้วยความสุขด้วยเอกัคคตา ชีวิตของเราจะได้สว่างไสวทั้งทางวัตถุทางจิตใจไปพร้อม ๆ กัน จะได้ว้าว ว้าว ว้าว เหมือนไซเรนที่นำเสด็จพระบาทเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเสด็จไปในที่ต่าง ๆ สติสัมปชัญญะนี้ถึงเป็นคู่กับเรา

 

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านให้เราทุกคนเจริญสติเจริญสัมปชัญญะ ให้เอาหลักการมีสติรู้ตัวทั่วพร้อม รู้เรื่องผิดเรื่องถูก เรื่องดีเรื่องชั่วในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดความสงบเกิดปัญญา ความสงบและปัญญามันจะดับทุกข์ได้ตั้งแต่ในปัจจุบัน เราทั้งหลายจะได้เข้าถึงความเป็นมนุษย์ผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสารในปัจจุบัน เราจะได้เข้าถึงความเป็นเทวดาผู้ได้รับความสะดวกความสบายทางวิทยาศาสตร์ เราจะได้เข้าถึงความเป็นพระพรหมความสงบด้วยปัญญาในปัจจุบัน เราจะได้เข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าด้วยความสงบด้วยปัญญาในปัจจุบัน การประพฤติการปฏิบัติมันจะเป็นประโยชน์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ให้เรารู้เข้าใจ เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปมันถึงมี เราจะได้พากันสงสัยว่า ตายแล้วเกิดหรือว่าตายแล้วสูญ เราจะได้จบลงที่ความสงบและปัญญา เราจะได้เข้าถึงพระนิพพานทางกายวาจากิริยามารยาทอาชีพรวมลงที่ใจที่ปัจจุบันด้วยความรู้ความเข้าใจ

 

หลักมีสติรู้ตัวทั่วพร้อมด้วยการเจริญอานาปานสติ นักศึกษาเอาไปใช้ได้อยู่ทุกหนทุกแห่ง ลมหายใจนี้จะคอนโทรลทุกสิ่งทุกอย่าง เราจับหลักไว้ ลมหายใจนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ หายใจเข้าก็ให้มีสติรู้ตัวทั่วพร้อม หายใจเข้าให้สบาย หายใจออกก็ให้มีสติรู้ตัวทั่วพร้อม หายใจออกให้สบาย ให้มีปิติมีความสุขในการหายใจเข้าหายใจออก หลักการนี้ดีมากใช้ได้ทุกกาลทุกเวลา เป็นความสงบเป็นสมถะเป็นวิปัสสนา

 

ให้รู้เข้าใจ เอาความสงบและปัญญามาใช้พร้อม ๆ กัน เพราะสิ่งต่าง ๆ นั้นมันมีมากมายเราต้องมีหลักการอุดมการณ์อุดมธรรมในการประพฤติการปฏิบัติ หายใจเข้าก็มีสติรู้ตัวทั่วพร้อม หายใจเข้าให้สบาย หายใจเข้าก็ภาวนาว่านี้เป็นลมเข้าไปแล้วก็ออกมาล้วนแต่ไม่แน่ไม่เที่ยงไม่ใช่ตัวไม่ช่ตนทั้งนั้น ลมเข้าลมออกสิ่งเก่าไปใหม่มาเป็นพระไตรลักษณ์หาใสช่นิติบุคคลตัวตน ใช้อานาปานสตินี้ดี เมืองไทยประเทศไทยของเราหลวงปู่มั่นให้หลักอานาปานสติ หายใจเข้าออกให้สบาย แล้วกำกับว่าหายใจเข้าท่องพุทธหายใจออกท่องโธ อานาปานสติใช้ได้ทุกอิริยาบถ เวลานั่งสมาธิก็ใช้หลักอานาปานสตินี้แหละ หายใจเข้าหายใจออกก็ให้สบายให้ใช้หลักการอย่างนี้

 

ให้เข้าใจว่าธรรมะคือหน้าที่ หน้าที่คือธรรมะ อันนี้คือความสงบและปัญญา เราทั้งหลายจะได้จบลงที่ความรู้ความเข้าใจ จบลงที่ผัสสะ เราต้องรู้เข้าใจ ว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมันเป็นเพียงอาคันตุกะสัญจรไปมาชั่วคราว อย่างมนุษย์เรามีชีวิตมีอายุขัยอยู่ได้ร่วม ๆ ศตวรรษหนึ่งคือร้อย พัฒนาใจพัฒนาวัตถุ ถ้าเรามีปิติมีความสุขมีเอกัคคตา ชีวิตของเราอยู่ได้มากกว่าศตวรรษหนึ่ง ให้รู้เข้าใจ เราไม่รู้ไม่เข้าใจเอาความผิดนำชีวิตเอาความหลงนำชีวิตมันก็มีแต่ทุกข์ อายุขัยของเราก็อยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร

 

ให้เราทุกคนเข้าใจนะ มนุษย์เรามีหลักการ การทำงานกับการปฏิบัติก็ต้องให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เราจะได้ทั้งวัตถุได้ทั้งจิตใจไปพร้อม ๆ กัน ร่างกายของเราก็แข็งแรง จิตใจของเราก็มีความสุข เราทุกคนต้องรู้เข้าใจ เราจะไม่ได้หลงงมงาย เราจะได้รู้จักคำว่าชาติศาสน์กษัตริย์ เรายกเลิกความไม่ถูกต้อง เอาปัจจุบันที่ต้องยกเลิกตัวตนเป็นวาระสำคัญของการประพฤติการปฏิบัติ  เพื่อเราจะได้ทำหน้าที่ที่เป็นอริยมรรคที่เป็นกายวาจากิริยามารยาทใจรวมกันเป็นหนึ่งในปัจจุบัน

 

เราต้องรู้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้พากันแก้ปัญหาให้ถูกที่ แก้ปัญหาให้ถูกต้อง เพราะปัจจุบันนี้เมืองไทยประเทศไทยของเรา พากันเอาความผิดนำชีวิต เอาความไม่ถูกต้องนำชีวิต ชีวิตของเรามันเลยไปไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่ทางไม่มีทาง มันเป็นทางตัน มันเป็นตัณหา หาเรื่องหาราวให้ตัวเอง หาเรื่องหาราวให้คนอื่นมันเป็นทางตัน ศัพท์นี้กินใจมากลึกซึ้งมาก เราต้องยกเลิกหาเรื่องหาราวให้กับตัวเอง หาเรื่องหาราวให้กับคนอื่น ว่าพระธรรมพระวินัย ความสงบคือสติสัมปชัญญะนั้นเพื่อเราเอามาใช้เอามาปฏิบัติ ชีวิตของเราจะไม่ได้พังทลายล้มละลายเหมือนตึกสตง.

 

 

ตึก สตง.อยู่ที่กรุงเทพมหานคร ตึก ๓๐ กว่าชั้น ตึก สตง.ด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ เอาความหลงนำชีวิตเอาทุจริตนำชีวิต ชีวิตมันเลยพังทลาย ชีวิตมันพังทลายนะ ตึกสตง.มันพังทลายด้วยนิติบุคคลตัวตนพังทลายด้วยทุจริตมันจะไปแก้ไขตั้งแต่ภายนอกมันจะไปพัฒนาตั้งแต่วิทยาศาสตร์จะไปเอาความสุขบนความหลง ชีวิตเลยพังทลายนะ

 

เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งน่ะ เราคิดดูดีๆ นะ ตึกใหญ่กว่าสูงกว่าตึก สตง.ตั้งหลายสิบตึกที่กรุงเทพมหานครที่ปริมณฑล เค้าไม่พังทลายเหมือนตึกสตง. เพราะพอที่จะรับน้ำหนักได้ ไม่ใช่ไม่โกงกินคอร์รัปชั่นนะ แต่เค้าโกงกินคอร์รัปชั่นน้อยพอที่จะรับแผ่นดินไหวจากมัณฑะเลย์ประเทศพม่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ประเทศพม่าห่างไกลกันตั้งนับพันกิโล

 

นี้ให้เรามองเห็นในแง่มุมความไม่ถูกต้องน่ะ ชีวิตที่เอาความไม่ถูกต้องนำชีวิตมันก็ต้องพังทลายเหมือนตึก สตง.นี้แหละ

 

เราทั้งหลายถึงต้องเป็นผู้ละอายต่อบาปเกรงกลัวต่อบาป เห็นภัยในวัฏฏสงสาร รู้จักความคิดรู้จักอารมณ์เหมือนท่านพระอาจารย์ลี ธัมมธโร วัดอโศการาม สมุทรปราการ ท่านรู้จักความคิดการปรุงแต่งของตัวเอง ท่านรู้จักว่าความปรุงแต่งนี้มันคือวัฏฏสงสารนะ ท่านรู้จักความปรุงแต่ง เพราะความปรุงแต่งมันเป็นทุกข์อย่างยิ่ง

 

เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ชีวิตนี้ต้องพังทลายเหมือนตึก สตง. เพราะมันไม่ถูกต้อง มันก็ต้องพังทลายเหมือนตึก สตง. นี้แหละ

 

ตึก สตง.ที่อยู่กรุงเทพมหานครอยู่เมืองหลวงอยู่เมืองกรุง เป็นศูนย์รวมของประเทศ เหมือนสมองเป็นศูนย์รวมของร่างกาย เหมือนหัวใจเป็นศูนย์รวมของสรีระร่างกาย

 

สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่บริหารประเทศ บริหารแผ่นดินไม่เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ เอาแต่ความรู้เอาแต่วิทยาศาสตร์เอาแต่ตัวเอาแต่ตน ไปแก้แต่สิ่งภายนอก ไม่ได้แก้ตัวเองไปพร้อม ๆ กัน

 

การพัฒนาวิทยาศาสตร์มันต้องพัฒนาใจไปพร้อม ๆ กันมันถึงถูกต้องนะ พัฒนาทั้งภายนอกภายในด้วยความรู้ความเข้าใจให้ครบวงจร อริยมรรคองค์แปดถึงเป็นความรู้ความเข้าใจ เพื่อการประพฤติการปฏิบัติมันจะได้สมบูรณ์ สมบูรณ์ทั้งกายวาจาใจกิริยามารยาทอาชีพด้วยความถูกต้อง

 

มันต้องรู้ธรรมรู้ปัจจุบันธรรม รู้ธรรมธรรมนูญน่ะ ถ้าเราไปจัดการแต่สิ่งภายนอก เราไม่ได้จัดการตัวเองมันก็ต้องพังทลายเหมือนตึก สตง.นี้นะ

 

การบริหารตัวเองบริหารบุคคลอื่น มันต้องรู้เข้าใจแล้วมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์

 

ถ้าเรามีปิติมีสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติมันก็ไม่มีความทุกข์อยู่แล้ว ด้วยความรู้ความเข้าใจ

 

เราต้องรู้จักการประพฤติการปฏิบัติ ทั้งกายวาจาใจกิริยามารยาทอาชีพ เราต้องเน้นมาที่ตัวเราในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อทำหน้าที่ของตัวเองให้มันสมบูรณ์ เราทั้งหลายจะไม่ได้พังทลายเหมือนตึก สตง.

 

ถ้าใครมีตัวมีตนบุคคลนั้นคือทุจริตนะ เราทั้งหลายจะได้รู้ว่าทุจริตนั้นคือตัวตนน่ะ ใครเอาตัวตนนำชีวิตบุคคลนั้นคือบุคคลที่ทุจริต เราต้องรู้จักธรรมรู้จักธรรมนูญ ปัญหาต่าง ๆ นั้นมันอยู่ที่ทุจริตนะ

 

การที่จะบริหารตัวเองบริหารบุคคลอื่นต้องยกเลิกทุจริต ถึงจะเป็นนักบริหารตัวเองนักบริหารคนอื่นด้วยการรู้เข้าใจในการบริหารในการปฏิบัติ

 

ตำแหน่งที่เค้าแต่งให้เราเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นตำแหน่งที่ให้เรามาเสียสละ  มารับผิดชอบโฟกัสในการประพฤติการปฏิบัติ ไม่ใช่ตำแหน่งที่ให้พวกเราทั้งหลายมาทุจริตนะ

 

ให้ถือว่ามันเป็นตำแหน่งที่ทรงเกียรติมีเกียรติมีศักดิ์ศรี เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันจะมีเกียรติมีศักดิ์ศรีได้อย่างไร ถึงพวกเราทั้งหลายจะพากันใส่สูทผูกเนคไทห้อยเหรียญตรา เป็นผู้ทรงเกียรติมันก็ไม่เป็นผู้ทรงเกียรตินะ มันเป็นผู้ทรงความหลงต่างหาก ทรงความโง่ความหลงงมงายต่างหากล่ะ

 

เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจเราจะเข้าถึงบริสุทธิคุณ เข้าถึงธรรมนูญเข้าถึงรัฐธรรมนูญไม่ได้ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันเป็นอบายมุขอบายภูมินะ มันตกอยู่ในภพภูมิของ ๓๑ ภพภูมิ

 

ในภพภูมิของวัฏฏสงสารนี้มีอยู่ ๓๑ ภพภูมิ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจมันก็จะอยู่ในระนาบของ ๓๑ ภพภูมินี้แหละ

 

เค้าถึงมีศัพท์ว่าคน คนนี้หมายถึงตัวถึงตน หมายถึง ๓๑ ภพภูมินี้แหละ ภพภูมิที่เวียนว่ายตายเกิดมีทั้งหมด ๓๑ ภพภูมิ

 

เราต้องรู้เข้าใจ เราจะได้ประพฤติปฏิบัติ เราจะไม่ได้ย่ำต๊อกกับความหลงที่มีศัพท์ว่า “คน” คนนี้ความหมายหมายถึงความไม่รู้ไม่เข้าใจ ความไม่รู้ไม่เข้าใจนั้น มันจะวกวนอยู่ที่เก่า มันจะเป็นผู้ไม่มีศีลไม่มีสมาธิไม่มีปัญญา สัมผัสกับอะไรก็ไปกับสิ่งนั้น ๆ อยู่ในภพภูมินั้น ๆ

 

เรารู้เราเข้าใจเราจะได้หยุดภพภูมินั้น ๆ ด้วยความรู้ความเข้าใจด้วยการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อเราทั้งหลายจะได้ว่างจากสิ่งที่มีอยู่ด้วยความรู้ด้วยความเข้าใจ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจเค้าเรียกว่ามันหลง มันวกวนในความหลงอย่างนั้น จิตใจวกวน   อย่างนั้นมันจะไปไหนไม่ได้ มันจะเป็นได้แต่เพียงคนเป็นได้แต่เพียงความหลง หัวใจของบุคคลนั้นมันจะอยู่ในระนาบแห่งความหลงหรือว่าหัวใจบ่อนคาสิโน เอาตัวตนเป็นที่ตั้งคือหัวใจบ่อนคาสิโน หัวใจบ่อนทำลายความถูกต้อง หัวใจบ่อนความหลง

 

ให้เรารู้เข้าใจ เราจะได้เห็นภัยในความไม่ถูกต้องเห็นภัยในวัฏฏสงสารด้วยปัญญาบริสุทธิคุณ ด้วยเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ พอใจยินดีมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อเอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิตหัวใจของเราทั้งหลายจะได้หยุดอบายมุขอบายภูมิ

 

เราทั้งหลายถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจ เราทั้งหลายจะพากันคิดว่า ความสุขทั้งหลายได้มาจากสิ่งที่อำนวยความสุขความสะดวกความสบายด้วยการพัฒนาวิทยาศาสตร์ อันนี้จริงอันนี้ถูกต้อง ความสุขทั้งหลายมันอยู่พัฒนาหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์

 

เราทั้งหลายต้องมีสัมมาทิฐิเราต้องมีความรู้ความเข้าใจพัฒนาวิทยาศาสตร์ก็ต้องพัฒนาใจไปพร้อม ๆ กัน ถ้าเราพัฒนาวิทยาศาสตร์มันก็ยังเป็นนิติบุคคลตัวตนอยู่

 

เราต้องพัฒนาใจไปพร้อม ๆ กันด้วยความรู้ความเข้าใจเราทั้งหลายน่ะ ถึงเป็นการพัฒนาครบวงจรด้วยความรู้ความเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจก็จะเอาความหลงนำชีวิตเอาวิทยาศาสตร์นำชีวิต

 

เราต้องเอาทั้งวิทยาศาสตร์เอาทั้งจิตใจไปพร้อม ๆ กันนะ

 

เราอย่าไปคิดว่าประเทศสิงคโปร์นั้นน่ะประเทศเล็ก ๆ เท่าอำเภอหนึ่งของเมืองไทยก็ไม่ได้ เค้าพัฒนาหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์เป็นหนึ่งของเอเชียเพราะเค้าตั้งบ่อนคาสิโน มาเก๊าส่วนหนึ่งของประเทศจีนเค้าก็รวยเพราะเค้าพัฒนาตามหลักเหตุตามหลักวิทยาศาสตร์

 

พวกเราทั้งหลายเมื่อมีปัญญาแล้วต้องรอบคอบนะ มีปัญญาแล้วต้องรอบคอบ อย่าลืมว่าชีวิตของเรามันเป็นรายรับรายจ่ายนะ เราไปจับหางงูเดี๋ยวงูมันจะมากัดเรา  งูพิษมันจะมากัดเรานะ การที่เราเอาหลักการอุดมการณ์มันดีแล้วถูกต้องแล้ว เราต้องมีหลักการมีอุดมการณ์แล้วก็มีอุดมธรรมนะ หลักการอุดมการณ์มันดีแล้วถูกต้องหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์น่ะ แต่ต้องไม่ทิ้งอุดมธรรมนะ

 

เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งเอาความรู้สึกที่เอาตัวเป็นที่ตั้งมันเป็นหลักการเป็นอุดมการณ์แล้วอุดมด้วยความหลงนะ

 

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านให้เราเอาทั้งหลักการอุดมการณ์แล้วก็ยกเลิกอุดมหลงนะ

 

ให้เอาอุดมธรรมให้เอาธรรมเอาธรรมนูญมันถึงจะสมบูรณ์เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอเข้าถึงความพอดี เราอยากได้มากมันก็ไม่มาก เราอยากได้น้อยมันก็ไม่น้อย เราต้องรู้จักความพอดีเข้าสู่ความสมดุลทั้งรายรับรายจ่าย

 

เหมือนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอเข้าถึงความพอดี การประสูติของพระพุทธเจ้าถึงเป็นวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ ตรัสรู้ก็เป็นวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานก็วันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ

 

เราต้องรู้เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ เราทั้งหลายจะได้รู้หลักการรู้อุดมการณ์แล้วก็อุดมธรรม เราอยู่ที่ไหนก็พากันปฏิบัติได้ เมื่อเรามีลมปราณ มีอายตนะภายใน ๖ ภายนอก ๖ มีธาตุทั้ง ๔ ขันธ์ทั้ง ๕ อยู่ที่ไหนก็ปฏิบัติได้

 

ให้รู้เข้าใจมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ

 

อย่าไปคิดด้วยอวิชชาความหลงเอาแต่หลักการอุดมการณ์เอาแต่วิทยาศาสตร์น่ะ ถ้าเรารวย รวยความหลงมันไม่ดีนะ รวยความโง่หลงงมงายเรียกว่ารวยไสยศาสตร์มันไม่ดีนะ ไม่ใช่ความดีมันไม่ใช่บารมีไม่ใช่ปัญญาบริสุทธิคุณนะ มันเป็นความหลงนะ

 

ให้เรารู้เข้าใจ อย่าไปคิดว่าทำไมเราโง่ไปตั้งหลายปี ประเทศสิงคโปร์ประเทศ เค้าเล็กนิดเดียวเค้าตั้งบ่อนคาสิโนเค้ารวยกัน ประเทศมาเก๊าก็เหมือนกันเค้ารวยกัน

 

ประเทศสิงคโปร์เค้ามีหลักเหตุผลมีหลักวิทยาศาสตร์น่ะ เค้าคิดว่าประเทศสิงคโปร์มันเล็กนิดเดียว จะทำเกษตรกรรมก็ไม่ได้ จะทำอุตสาหกรรมก็ไม่ได้ ถ้าเราตั้งบ่อนคาสิโนด้วยหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์ก็รวยได้ เพราะคนในนี้โลกนี้มันคนมีความไม่ฉลาด เอาความหลงนำชีวิต เอาตัวตนนำชีวิตมันมีมากถ้าเราตั้งบ่อนคาสิโน เราสามารถรวยได้ทางวัตถุ ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เค้าถึงพากันตั้งบ่อนคาสิโน จะเรียกบ่อนคาสิโนก็ได้หรือเรียกบ่อนแห่งความหลงก็ได้ มันคืออันเดียวกัน

 

ให้เรารู้เข้าใจ ประเทศไทยเราแผ่นดินกว้างใหญ่ไพศาลเราต้องรู้เข้าใจว่า เราทั้งหลายอย่ายินดีในการเอาความหลงนำชีวิต อย่าไปยินดีในการเอาบ่อนคาสิโน นำชีวิตนะ

 

พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ศาสดาทุกศาสนาเค้ามายกเลิกบ่อนคาสิโน มายกเลิกอบายมุขอบายภูมิ ให้เรารู้เข้าใจ ถ้าเรารู้เข้าใจ ทุกอย่างน่ะไม่มีปัญหา ปัญหาอยู่ที่เราไม่รู้ไม่เข้าใจนะ

 

 

เหมือนประเทศไทยของเรานี้แหละ โครงการยกเลิกเหล้ายกเลิกเบียร์ยกเลิกเรื่องสิ่งเสพติดยาเสพติดที่มันเป็นอบายมุขแห่งชีวิต ที่มันเป็นอบายภูมิแห่งชีวิต ทำกันมานับเป็นร้อย ๆ ปี โครงการนี้ก็แก้ไขไม่ได้ ก็ยิ่งพากันประพฤติปฏิบัติเสียหายกันมากยิ่งขึ้นกว่าเก่า ด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ ตั้งอยู่ในความหลง ตั้งอยู่ในความประมาท เอาความหลงนำชีวิตเอาความประมาทนำชีวิตมันก็ปฏิบัติไม่ได้ มันก็ยิ่งมากกว่าเก่า ไม่รู้ไม่เข้าใจ เอาความหลงนำชีวิตความหลงก็เลยยิ่งมาก มันก็แก้ปัญหาไม่ได้ มันยิ่งมากทวีคูณ มันก็ไปของมันเรื่อย ๆ มากยิ่งกว่าเก่า มากกว่าเดิม มากทวีคูณยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก

 

ปีนี้แหละท่านผู้ว่าชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ได้ประกาศให้ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านส่งชื่อไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ใครติดยาเสพติด ใครจำหน่ายยาเสพติด ให้ส่งรายชื่อเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อจะได้เอาบุคคลนั้นเข้าสู่ภาคบำบัด ถ้าไม่เข้าสู่ภาคบำบัดแล้วเราจะแก้ไขบุคคลนั้นไม่ได้ เพราะบุคคลนั้นต้องเข้าสู่ภาคบำบัดเพื่อประพฤติปฏิบัติถึงจะแก้ปัญหาได้ มันต้องเข้าสู่กระบวนการในภาคบำบัด กำลังของตัวผู้เสพเอง กำลังทางครอบครัว ไม่มีกำลังทางจิตใจไม่มีกำลังทรัพย์ การบำบัดนั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็ไม่น้อยกว่า ๑ เดือนขึ้นไป เพื่อเข้าสู่ระเบียบเข้าสู่กระบวนการ เราพยายามที่จะแก้ปัญหา ด้วยการจับปรับไหมไปหาหมอไปหาแพทย์ที่โรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลเค้าก็ปล่อยมาอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิม ๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครทำได้ปฏิบัติได้ เรารู้แล้วว่ามันแก้ปัญหาไม่ได้ เราต้องใช้หลักการเหมือนเค้าฝึกทหารใหม่ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย ๑ เดือนขึ้นไป เพื่อยกเลิกตัวตน ถึงจะแก้ปัญหาได้ ทางผู้ว่าราชการฯ ท่านรู้เข้าใจ ต่อไปนี้จะไม่ปรับจะไม่ไหม เพราะประชาชนทุกคนยากจนอยู่แล้ว จะช่วยวางแผนในเรื่องบำบัด ทางครอบครัวไม่ต้องเสียเงินใด ๆ ให้ประชาชนทุกคนพากันเข้าใจ ลูกหลานของเราจะได้เข้าสู่ภาคบำบัด งบประมาณในการเลี้ยงชีพวันหนึ่งคงใช้เงินไม่เกิน ๑๐๐ บาทต่อคนต่อวัน ผู้ที่ไปบำบัดนั้นจะพากันทำการกุศล ให้มีความสุขในการทำการกุศลให้ติดต่อต่อเนื่องในการทำความดีให้มีปิติมีความสุขมีความตั้งมั่นในความดีที่ประกอบด้วยปัญญา

  

อย่างโครงการสวมหมวกกันน็อค มีโครงการมาไม่ต่ำกว่า ๖๐ ปีแล้วที่มีมอเตอร์ไซด์เข้ามาขายมาจำหน่ายในประเทศไทย ประเทศไทยเราไม่ต่ำกว่า ๖๐ ปี ขณะนี้เวลานี้ก็ยังทำไม่ได้ เรื่องสวมหมวกกันน็อคนี้ที่ให้ประชาชนผู้ขับขี่จักรยานยนต์เพื่อสะดวกในการสัญจรไปมา ได้ออกกฎหมายบังคับตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๒๕ ขณะนี้เวลานี้มันก็เป็นเวลาจวนจะ ๖๐ ปีแล้วก็ยังพากันทำไม่ได้ เพราะไม่เห็นความสำคัญในการประพฤติการปฏิบัติที่ถูกต้อง การปฏิบัติของเรามันต้องเป็นสากลของทุก ๆ คนในโลกนี้ ในโลกนี้เค้าจะขับขี่มอเตอร์ไซด์ทั้งคนขับทั้งผู้ซ้อนเค้าต้องใส่หมวกกันน็อค นี้เป็นสากลทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

 

เราต้องรู้เข้าใจว่า การทำอะไรตามใจตามอัธยาศัยนี้ไม่ได้นะ มันเป็นความเสียหายมาก ๆ เป็นความไม่ถูกต้องมาก ๆ มันเสียหายทั้งส่วนตัวและส่วนรวม เราทั้งหลายต้องมีความละอายแก่ใจในความไม่ถูกต้อง เราเป็นคนมักง่ายเห็นแก่ตัวอย่างนี้ไม่ได้นะ ใช้ไม่ได้นะ ในต่างประเทศ ประเทศที่เค้าพัฒนาแล้วก่อนที่จะออกจากบ้านต้องใส่เสื้อผ้าอาภรณ์ ถ้าไม่ใส่เสื้อผ้าอาภรณ์เราจะออกจากบ้านได้อย่างไร ในต่างประเทศประเทศที่เค้าเจริญก่อนจะออกจากบ้านเค้าก็ต้องใส่หมวกกันน็อค ถ้าไม่อย่างนั้นเค้าก็ทำใจไม่ได้ เพราะเค้าเอาความผิดนำชีวิต เอาความเสียหายนำชีวิต

 

เราต้องเข้าใจ ทุก ๆ คนต้องเข้าใจ เข้าใจแล้วก็ต้องเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เราต้องละอายแก่ใจในความไม่ถูกต้อง เราต้องมีความเคารพคารวะในกฎในระเบียบที่ดีที่ถูกต้อง การประพฤติการปฏิบัติที่ดีที่ถูกต้อง ต้องอาศัยเวลาประพฤติปฏิบัติเป็นเวลา ๔ ปีนะ วาระของนักการเมืองที่ดี ๆ ที่ถูกต้องถึงเป็นวาระหนึ่งใช้เวลา ๔ ปี เพื่อความดีและปัญญาจะได้ติดต่อต่อเนื่อง อย่างคนโบราณสมัยก่อนเค้าเรียนหนังสือ เค้าเรียนตั้งแต่ ป.๑ จบ ป.๔ เมื่อสมัยร่วม ๆ ร้อยปี เพราะการทำอะไรติดต่อต่อเนื่องมันจะเป็นกระบวนทั้งกายวาจากิริยามารยาททั้งอาชีพไปรวมลงที่ใจที่เป็นทั้งความสงบและปัญญา 

 

พูดอย่างนี้ให้พวกเราทั้งหลายพากันเข้าใจนะ นี้มันเป็นธรรมเป็นธรรมนูญเป็นปัญญาบริสุทธิคุณให้รู้เข้าใจ นี้เป็นความดีที่ประกอบด้วยปัญญา นี้คือธรรมนูญรัฐธรรมนูญ นี้เป็นความมั่นคงของชาติคือความเกิด ด้วยเหตุที่ถูกต้อง ไม่มีความผิด ถูกต้องน่ะ ความถูกต้องหมายถึงบริสุทธิคุณ ไม่ใช่ตัวตน นั่นแหละคือความถูกต้อง  เป็นความมั่นคงของพระศาสนา ศาสนาคือธรรมนูญรัฐธรรมนูญ  เป็นความมั่นคงของพระมหากษัตริย์นั้นได้แก่ปัญญาบริสุทธิคุณ ไม่ใช่ปัญญาเพื่อตัวตน ปัญญาบริสุทธิคุณนี้เป็นความหมายของพระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์ทุก ๆ พระองค์ที่ขึ้นครองราชย์ถึงทรงทศพิธรราชธรรม เอาทศพิธราชธรรมนำชีวิต คำว่าพระหมายถึงไม่มีตัวไม่มีตนให้เข้าใจ ถ้ามีตัวมีตนก็ไม่ใช่พระไม่ใช่ธรรมนูญไม่ใช่รัฐธรรมนูญ

 

นี้เป็นพระธรรมเป็นพระวินัย เป็นพระศาสนา เป็นพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน เป็นธรรมเป็นธรรมนูญ เพื่อให้เป็นหลักการอุดมการณ์อุดมธรรม ให้เรารู้ให้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้พากันประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้อง ทำให้ถูกต้อง จะได้ไม่พากันทำความผิด เพื่อเข้าสู่ขบวนการแห่งความถูกต้องของรัฐธรรมนูญในการดำเนินชีวิต การดำเนินชีวิตต้องไม่เอาความผิดดำเนินชีวิต

 

 

 

ให้เราทั้งหลายระลึกถึงโอวาทพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะเสด็จดับขันธ์สู่ปรินิพพานท่านได้ตรัสโอวาทสำคัญครั้งสุดท้ายไว้ว่า

 

“วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ” แปลว่า “สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจง (ยังประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่น) ให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด”

 

โอวาทของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ความไม่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และแน่นอนนะ

ความยิ่งใหญ่ คือความไม่ยั่งยืนนะ

ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ คือชีวิตที่อยู่ด้วยทาน ศีล เมตตา และกตัญญู

ชีวิตที่มีความดี อาจมิใช่ความยิ่งใหญ่ แต่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ต้องอาศัยคุณธรรมความดีเป็นปัญญาบริสุทธิคุณเท่านั้น การระงับสังขารทั้งหลายด้วยความรู้ความเข้าใจเป็นความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัตินั่นแหละคืออริยมรรค เป็นหนทางที่ประเสริฐมีพระนิพพานตั้งแต่ในปัจจุบัน ไม่ต้องรอพระนิพพานเมื่อตายแล้ว ปัจจุบันไม่มีพระนิพพาน อนาคตจะมีพระนิพพานได้อย่างไร

 

ให้เรารู้เข้าใจเรื่องพระธรรมพระวินัย พระธรรมพระวินัยที่เป็นสัมมาทิฐิ เพื่อหยุดวัฏฏสงสารนั่นแหละคือพระนิพพาน ให้พวกเรารู้เข้าใจในเรื่องพระนิพพาน ให้พวกเรารู้เข้าใจในเรื่องพระนิพพาน ให้เข้าใจนะว่าสิ่งเดิมนั้นคือความว่างเปล่า สิ่งที่สัญจรไปมาเป็นเพียงอาคันตุกะ เราจะได้เอาหลักการอุดการณ์ที่เป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญาเป็นมรรคเป็นอริยมรรคที่ตรงกันข้ามกับโลกธรรม ให้รู้เข้าใจ เพราะไม่มีใครอยู่เหนือกรรมเหนือกฎแห่งกรรมเหนือผลของกรรม พระนิพพานความรู้ความเข้าใจในเรื่องกระบวนการปฏิจจสมุปบาท กระบวนการของปฏิจจสมุปบาทจะได้จบลงเพียงผัสสะ จะได้เป็นปัญญาเป็นความสงบ จะเป็นความสงบเป็นปัญญา เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหตุเหนือผล หยุดความปรุงแต่ง นี้เป็นขบวนการที่ติดต่อต่อเนื่อง เป็นบารมีเป็นความดีที่ประกอบด้วยปัญญา เป็นพระนิพพานบ้านของเรา ไม่ใช่อวิชชาความหลงเป็นบ้านของเรานะ พระนิพพานคือบ้านของเรา ความสงบและปัญญาถึงเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม เราจะหยุดวัฏฏสงสารได้ด้วยความรู้ความเข้าใจ ด้วยพระธรรมด้วยพระวินัย เป็นขบวนการของกระแสในการประพฤติการปฏิบัติที่ได้นำเอาพระธรรมพระวินัยมาประพฤติมาปฏิบัติในปัจจุบันให้ติดต่อต่อเนื่อง

 

 ความสงบและปัญญาที่เป็นพระธรรมพระวินัยถึงหยุดความปรุงแต่งได้ ด้วยปัญญาสัมมาทิฏฐิคู่กับการประพฤติการปฏิบัติในปัจจุบัน พระธรรมพระวินัยที่เป็นความรู้ความเข้าใจ ที่จะหยุดความปรุงแต่งได้ เข้าถึงพระนิพพานตั้งแต่ปัจจุบัน ไม่ต้องรอชาติหน้า พระนิพพานต้องอยู่ที่ปัจจุบันเท่านั้น

 

-----------------------------------------

โอวาทขององค์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม

เมตตาให้ไว้ในเช้าวันเสาร์ที่ ๑๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘

ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

รายการล่าสุดที่คุณดู
Visitors: 103,026