๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๕ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ คริสต์ศักราช ๒๐๒๕ ฮิจเราะห์ศักราช ๑๔๔๖
วันนี้เป็นวันที่พสกนิกรชาวไทยได้รำลึกนึกถึงวันพ่อแห่งชาติในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ ๙ พระองค์ทรงเป็นพระบิดาแห่งชาติ ท่านประสูติตรงกับวันที่ ๕ ธันวาคม เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๗๐ ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ไทยผู้ที่เอาธรรมนำชีวิต เพื่อให้เป็นการพัฒนาใจกับวัตถุไปพร้อม ๆ กัน
พสกนิกรชาวไทยและชาวต่างประเทศได้มาร่วมรวมกันประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยความโทมนัสและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่พระองค์ได้ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยและชาวโลกตลอดระยะเวลาที่ยาวนาน พระองค์ทรงเป็นดั่งแม่แห่งแผ่นดิน ผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตาและพระปรีชาสามารถ ทรงอุทิศพระวรกาย พระสติปัญญา และพระราชหฤทัยในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อธำรงไว้ซึ่งความผาสุกและความมั่นคงแห่งชาติไทย เราประชาชนชาวไทยต้องร่วมใจสมัครสมานสามัคคีทำความดีที่ประกอบด้วยปัญญา เพื่ออุทิศบุญกุศลน้อมเกล้าถวาย เพื่อเสด็จสู่สวรรคาลัย เข้าสู่สวรรค์มรรคผลพระนิพพาน
ทางสายกลางก็ได้แก่สติและสัมปชัญญะ เป็นความสงบและปัญญา ผู้ที่มีปัญญามากก็ต้องมีความสงบมาก ๆ ผู้มีความสงบมาก ๆ ก็ต้องเสียสละมาก ๆ เพื่อให้เป็นทางสายกลาง ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป เอาปัจจุบันเป็นการประพฤติเป็นการปฏิบัติ เพราะเหตุผลว่าอดีตทั้งหมดก็มารวมกันอยู่ที่ปัจจุบัน อนาคตที่จะไปข้างหน้าก็มารวมกันอยู่ที่ปัจจุบัน ปัจจุบันนี้จึงเป็นวาระสำคัญของการประพฤติการปฏิบัติ ปัจจุบันถึงเป็นวาระแห่งชาติทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพสำคัญอยู่ที่ปัจจุบัน เป็นอริยมรรคทั้งทางกายวาจากิริยามารยาทอาชีพมารวมลงที่ใจ รวมลงที่ตั้งใจตั้งเจตนา
วันนี้จึงเป็นวันสำคัญบำเพ็ญพระราชกุศลเพื่อบูชาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เพื่อบูชาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย สู่มรรคผลพระนิพพาน
โรงพยาบาลมหาราชเป็นศูนย์รวมในการดูแลรักษาผู้ที่เจ็บป่วยเพื่อรักษาพยาบาลสรีระร่างกายของหมู่มวลมนุษย์ทุก ๆ คน มนุษย์ทุก ๆ คนที่อยู่ใกล้หรืออยู่ไกลมาใช้บริการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลมหาราชนี้ได้
บุคลากรทุก ๆ คน ทุก ๆ ท่านนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ บุคลากรทั้งหลายต้องพากันเข้าใจ เพื่อบุคลากรทุกคนนั้นจะได้ทำหน้าที่ให้ได้ดีให้มีประสิทธิภาพสูง อุปกรณ์ดีต้องบุคลากรดีไปพร้อม ๆ กัน การประพฤติการปฏิบัตินั้นต้องพร้อมทั้งกายวาจากิริยามารยาทมารวมลงที่ใจ ที่ความตั้งอกตั้งใจอย่างมีประสิทธิภาพที่เป็นทางสายกลาง ได้แก่ สติสัมปชัญญะ สติสัมปชัญญะนั้นเป็นความสงบและปัญญา บุคลากรได้รับการแต่งตั้งเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นสมมติสัจจะเพื่อให้ทำหน้าที่ เพื่อก้าวไปในทางสายกลาง ระหว่างเรื่องจิตเรื่องใจกับเรื่องวัตถุที่เป็นการพัฒนาวิทยาศาสตร์ไปพร้อม ๆ กัน
บุคลากรทุกท่านได้รับการแต่งตั้งเพื่อทำหน้าที่ หน้าที่คือธรรมะ ธรรมะคือหน้าที่
สมมติสัจจะที่ได้รับการแต่งตั้งที่เป็นตำแหน่งของเราทุก ๆ คน เป็นตำแหน่งที่ทรงเกียรติทรงศักดิ์ศรี ให้ทุกท่านทุกคนเข้าใจ เพราะธรรมะนั้นคือหน้าที่ หน้าคือนั้นคือธรรมะ เราทุกคนต้องมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ ทุก ๆ คนนั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านให้เน้นที่ตัวเอง ทำหน้าที่ของตัวเราของเราเองเพื่อให้หน้าที่นั้นสมบูรณ์ อย่าให้ขาดตกบกพร่อง
ให้ทุกคนมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติในหน้าที่ที่เป็นปัจจุบัน เราจะได้ยกเลิกตัวยกเลิกตน มีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อให้สติและสัมปชัญญะทำงานไปพร้อม ๆ กัน ระบบสมองกับระบบลมหายใจจะได้ไปพร้อม ๆ กัน เอาการทำงานกับการปฏิบัติธรรมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ที่เป็นอริยมรรคทั้งกายวาจากิริยามารยาททั้งอาชีพให้มารวมลงที่ปัจจุบัน สิ่งที่เสียหายที่ผ่านมาสาเหตุมาจากเราไม่ได้เอาทางสายกลางนำชีวิต เราไม่ได้เอาสติสัมปชัญญะนำชีวิต เรายังไม่รู้ไม่เข้าใจ ความไม่รู้ไม่เข้าใจนั้นทำให้เกิดนิวรณ์ทั้ง ๕ เกิดอคติทั้ง ๔ มันเลยทำให้เราทุกคนวกไปวนมา เดินไปข้างหน้าแล้วก็ถอยกลับมาอยู่ในที่เก่าที่เดิม มันเลยไปไหนไม่ได้ มันย่ำต๊อกอยู่ที่เดิม เค้าถึงมีศัพท์ว่าคน คำว่าคนนี้ก็หมายถึงสับสนนะ วกไปวนมา เดินไปข้างหน้าแล้วก็ถอยกลับมาย่ำต๊อกอยู่ที่เดิม เขาถึงเรียกว่าคน คนโน้นคนนี้ ยังไม่ใช่ความรู้ความเข้าใจ ยังไม่ใช่ปัญญาสัมมาทิฏฐิ
โครงสร้างของหมู่มวลมนุษย์ที่ให้มีข้าราชการนักการเมืองนักบวชนั้นดีถูกต้อง ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจ โครงการสีขาวก็จะเป็นสีเทา เป็นโปรแกรมเมอร์สีเทา กายวาจากิริยามารยาทอาชีพมันเลยเป็นสีเทา มันเลยเป็นโปรแกรมเมอร์สีเทา บุคลากรของเราทุก ๆ คนต้องพากันรู้พากันมาเข้าใจ เราทุกคนจะได้มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เราทุกคนต้องเดินทางไปพร้อม ๆ กันตามโปรแกรมเมอร์สีขาว เพื่อปัจจุบันของเราจะได้มีสติมีสัมปชัญญะ เราจะได้เอาปัญหาต่าง ๆ นั้นให้เป็นปัญญา เราต้องพากันมารู้มาเข้าใจ มาสมัครสมานสามัคคี เอาความดีและปัญญาพร้อม ๆ กัน
เราพากันมาคิดดูดี ๆ ถ้าเราเป็นครวยที่สุดมีอำนาจที่สุด ถ้าเรามีปัญญาเราไม่มีความสงบนั้นจะดับทุกข์ได้ไหม มันดับทุกข์ไม่ได้ เราเป็นคนที่มีความสงบมาก ๆ ถ้าเราไม่เสียสละมันจะดับทุกข์ได้ไหม มันดับทุกข์ไม่ได้ เพราะความสงบนั้นเป็นเพียงสมาธิเป็นเพียงสมาบัติชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น ความสงบและปัญญาต้องก้าวไปพร้อม ๆ กันด้วยการพัฒนาใจพัฒนาวัตถุไปพร้อม ๆ กัน
ความสมัครสมานสามัคคีเป็นสิ่งที่สำคัญ ประเทศไหนที่มีการเรียนการศึกษา มีการพัฒนามีความขยันหมั่นเพียร ถ้าไม่มีความสมัครสมานสามัคคีกันนั้นก็ย่อมไปไม่ได้ ความสงบและความเคารพและความพอเพียงเพียงพอนั้นคืออันหนึ่งอันเดียวกัน จะเป็นความพอเพียงเพียงพอเหมือนดั่งคติธรรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ท่านตรัสเป็นคติธรรมไว้ว่า เราต้องรู้เข้าใจ สิ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้นเป็นประภัสสรของสิ่งนั้น ๆ เราอยากได้มากมันก็ไม่มากมันก็เท่าเก่าเท่าเดิม เราอยากได้น้อยมันก็ไม่น้อยมันก็เท่าเก่าเท่าเดิม
เราทุกคนต้องมีสติมีสัมปชัญญะ ต้องรู้จักพอรู้จักเพียงพอเศรษฐกิจของเราถึงจะพอเพียงเพียงพอ เราไปวิ่งตามความหลงไปวิ่งตามความฝันมันไม่จบ เราต้องรู้เข้าใจ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจ เราก็ย่อมวิ่งไปตามสิ่งต่าง ๆ วิ่งไปตามความหลง เพราะสิ่งต่าง ๆ นั้นมันมีอยู่ ให้เรารู้ให้เข้าใจ เมื่อเรามีตาก็ย่อมมีรูป เรามีหูก็ย่อมมีเสียง มีจมูกก็ย่อมมีกลิ่น มีลิ้นก็ย่อมมีรส มีกายก็ย่อมมีสัมผัส มีใจก็ย่อมมีความรู้สึกนึกคิด
เราทั้งหลายต้องพากันรู้พากันเข้าใจ เราทั้งหลายจะไม่ได้ไปวิ่งตามสิ่งแวดล้อม จะไม่ได้วิ่งไปตามผัสสะเราทุกคนจะได้จบลงที่ปัจจุบัน จบลงที่ผัสสะ ไม่เอาความหลงนำชีวิต ไม่เอาความปรุงแต่งนำชีวิต ด้วยเหตุผลนี้แหละ เราทุกคนจึงต้องมีสติมีสัมปชัญญะ
ทุกคนพากันเน้นการประพฤติการปฏิบัติในปัจจุบัน อดีตที่ผ่านมานั้นเป็นการเกษียณแล้ว ให้เราปล่อยให้เราวาง เพราะว่ามันผ่านมาแล้วมันเกษียณแล้ว เราทุกคนต้องเอาสติเอาสัมปชัญญะให้ได้อย่างเต็มที่ในปัจจุบัน ลืมไปเลยปล่อยวางไปเลย อย่าไปเก็บขยะไว้ในใจของเราทุกคน เอาเหมือนพระพุทธเจ้าเอาเหมือนพระอรหันต์ท่านจะอยู่กับสติกับสัมปชัญญะอยู่กับปัจจุบันธรรม เราจะไม่ได้มีหนี้มีสินค้างคาในอดีตที่ผ่านมา
เรามาสมัครสมานสามัคคีทำความดีที่ประกอบด้วยปัญญา เราพากันมาทำงาน เรามีความสุขในการทำงาน งานก็ออกมาดี ใจของเราก็ดี เอาปัจจุบันนี้มาทำความดีที่ประกอบด้วยปัญญา ทุกท่านทุกคนอยู่ด้วยสติด้วยสัมปชัญญะ อยู่ด้วยปิติด้วยความสุขด้วยเอกัคคตาด้วยการยกเลิกทิฏฐิมานะอัตตาตัวตน
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกให้เรารู้เข้าใจ ทิฏฐิมานะอัตตาตัวตนคือความทุกข์ที่เกิดขึ้น ทุกข์ที่ตั้งอยู่ทุกข์ที่ดับไป นอกจากทุกข์ไม่มีเลย มีแต่ทุกข์ทั้งนั้น เราทุกคนต้องมาหายพยศ ลดมานะ ละทิฏฐิ ไม่ต้องมาถือเนื้อถือตัวถือตน ตัวตนคือคนบ้าคือคนผีบ้า มันคือบักผีบ้าอีผีบ้า
ท่านหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนท่านว่าอย่างนี้ ตัวตนนี้แหละมันเน่ามันเหม็น มันไม่ใช่เหม็นธรรมดา เหม็นหลายแดนโลกธาตุ เหม็นสามแดนโลกธาตุโน้น หลวงตามหาบัวท่านว่าอย่างนั้น เราทุกคนยกเลิกตัวตนทุกคนก็สงบทุกคนก็เห็นด้วย เราต้องเอาความดีและปัญญาเพื่อมาสมัครสมานสามัคคีในการทำงาน เพื่อให้องค์กรข้าราชการนักการเมืองนักบวช ที่เป็นหลักการที่ดีเป็นอุดมการณ์อุดมธรรมที่ดีก้าวไปได้อย่างมีศักยภาพ ตามหลักการแล้วบุคคลจะทำอะไรเช่นไรที่เป็นความดีและปัญญาต้องทำติดต่อต่อเนื่องกันเพื่อเป็นสติสัมปชัญญะ ความดีและปัญญาต้องเป็นสติสัมปชัญญะ ความยึดมั่นถือมั่นที่ประกอบด้วยปัญญาสัมมาทิฏฐิ ไม่ใช่เป็นวัฏฏสงสาร เป็นการหยุดวัฏฏสงสารนะ ความยึดมั่นถือมั่นในความดีที่ประกอบด้วยปัญญาที่ยกเลิกทิฏฐิมานะอัตตาตัวตน เมื่อมันผ่านไปแล้วให้ปล่อยให้วางเพราะมันผ่านไปแล้วมันเกษียณไปแล้ว
เราพากันคิดดูดี ๆ นะ ถ้าเรายกเลิกตัวตน เรามีปิติมีความสุขมากยิ่งกว่าเราแบกภูเขาหรือว่าแบกแผ่นดินทั้งโลก พื้นดินสำหรับให้เรายืนเดินนั่งนอนไม่ใช่ให้เราแบกนะ ตามหูจมูกลิ้นกายใจมีไว้เพื่อให้เรามาใช้มาประพฤติมาปฏิบัติ เราต้องมีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ ถ้าเรายกเลิกตัวตนเอาความตั้งใจตั้งเจตนา ไม่หวังอะไรตอบแทนนี้คือความยั่งยืนนะ คือความไม่แก่ความเจ็บไม่ตายไม่พลัดพรากนะ เป็นใจที่มีสติมีสัมปชัญญะ เป็นใจที่มีปัญญา เป็นใจที่รู้วัตถุรู้เรื่องจิตใจ เป็นใจที่ประภัสสร เป็นใจที่รู้เรื่องวัตถุ รู้เรื่องใจ เราต้องมาหยุดใจด้วยความรู้ความเข้าใจ เราจะได้เอาปัญหานั้นเป็นปัญญา เราจะไม่ได้เอาปัญหานั้นมาเป็นปัญหา สิ่งภายนอกเราตัดออกหมด มาเน้นที่ตัวของเราทุกคน เน้นที่กายวาจากิริยามารยาทอาชีพเน้นที่ใจของเรา เพื่อเราทุกคนจะได้ทำหน้าที่ของเรา
ทุกคนน่ะอย่าไปแก้ภายนอก แก้ความคิดของเรา แก้คำพูดของเรา แก้อาการกิริยามารยาท แก้อาชีพ มาแก้ที่ใจของเรา ใจของเราที่มีทิฏฐิมานะอัตตาตัวตน เราทุกคนต้องมาแก้ที่ใจอย่างนี้ เราต้องรู้เข้าใจว่ากายวาจากิริยามารยาทอาชีพมันเป็นเพียงอุปกรณ์ของใจ มันเป็นเพียงกรรมกรของใจ
เรามาเป็นแพทย์เป็นพยาบาลเป็นบุคลากรของโรงพยาบาลก็จริง แต่เราต้องรู้เข้าใจ ว่าเราทุกคนคือผู้ที่ต้องมาแก้ที่ใจของตัวเอง แก้ที่กายของตัวเอง แก้ที่วาจาของตัวเอง แก้ที่วาจากิริยามารยาทของตัวเอง แก้ที่ใจของตัวเองที่ต้องยกเลิกตัวยกเลิกตน การทำงานก็จะออกมาเป็นการพัฒนาวิทยาศาสตร์พัฒนาใจไปพร้อม ๆ กัน
การแก้ปัญหานี้นะ เราต้องมาแก้ปัญหาเรื่องทุจริต ใครมีตัวมีตนบุคคลนั้นคือบุคคลทุจริต ตัวตนนั้นคือโปรแกรมเมอร์สีเทาน่ะ เราอย่าไปมองหาตั้งแต่โปรแกรมเมอร์สีเทาที่อยู่ที่ประเทศ มันไม่ได้อยู่ที่ประเทศเขมรอย่างเดียว มันอยู่ที่ตัวเราทุก ๆ คน
เราทุกคนต้องกระตือรือร้น ประพฤติปฏิบัติตนเอง ทำหน้าที่ของตนเองด้วยสติด้วยสัมปชัญญะ อย่าไปขี้เกียจขี้คร้าน เพราะความขี้เกียจขี้คร้านมันไม่ใช่สติไม่ใช่สัมปชัญญะ ให้เราตื่นอยู่ด้วยสติด้วยสัมปชัญญะ เราไปทำเหมือนแต่ก่อนที่ผ่านมานั้นไม่ได้แล้วเรามาประพฤติปฏิบัติเพื่อติดต่อต่อเนื่อง การทำอะไรติดต่อต่อเนื่องมันถึงจะได้ผลถึงจะเห็นผลในหลักการอุดมการณ์อุดมธรรม เค้าถึงให้การบริหารของนักการเมืองมีวาระ เช่นวาระการทำงานเป็นเวลา ๔ ปีที่เอาความดีและปัญญาควบคู่กันไปที่เป็นสติเป็นสัมปชัญญะ เมื่อครบ ๔ ปีแล้วให้มีการเลือกตั้งใหม่เพื่อจะได้คัดกรองด้วยสติปัญญา เอาคนที่สมองดีปัญญาดีและคนดีมาทำงาน เพื่อให้ทางวิทยาศาสตร์ส่วนทางวัตถุและทางจิตใจไปพร้อม ๆ กัน ให้เป็นทางสายกลางที่เป็นความสงบและปัญญา
เราจะไปคิดเหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้ว คิดเหมือนแต่ก่อนเช่นก่อนเป็นอย่างไร คิดว่าเรียนหนังสือก็เพราะความจำเป็น ทำงานก็เพราะความจำเป็น เป็นข้าราชการนักการเมืองก็เพราะความจำเป็น เราไปคิดอย่างนั้นไม่ได้ คิดอย่างนี้แหละมันไม่ใช่คนมีปัญญาสัมมาทิฏฐิ มันเป็นคนเห็นแก่ตัว เป็นคนเห็นแก่ตัวเห็นแก่ปากแก่ท้อง เห็นแก่ญาติพี่น้องเห็นแก่วงศ์ตระกูล
เราต้องพากันมาคิดใหม่ตั้งใจใหม่ เราไปตั้งโปรแกรมผิดนั้นไม่ได้ ให้เราถือโอกาสว่าเราเกิดมาเป็นมนุษย์เรามาสร้างความดีมาสร้างบารมีเพื่อเป็นความดีและปัญญาก้าวไปพร้อม ๆ กัน เพราะอายุขัยของเรานั้นมันจำกัด อายุขัยของเรานั้นอยู่ได้ร่วมศตวรรษหนึ่งคือร้อยปี เราเอาอายุขัยนี้มาใช้มาบำเพ็ญประโยชน์ตนและประโยชน์คนอื่น ถึงพร้อมด้วยสติด้วยสัมปชัญญะ ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เรามีโอกาสมีเวลา เราต้องตั้งอกตั้งใจประพฤติปฏิบัติพากันทำหน้าที่
ประเทศไทยของเราได้บริหารเหมือน ๆ กับทุก ๆ ประเทศ ในโลกปัจจุบันนี้ประชากรของโลกมีแปดพันกว่าล้านคน มีอยู่ ๑๙๕ ประเทศ อาศัยหลักการเดียวกันบริหาร หลักการนั้นดีแต่บุคลากรนั้นไม่ดี เรามีความรู้สึกร่วมกันด้วยเป็นสัญชาตญาณว่านี้มันคือความไม่ถูกต้อง เพราะโปรแกรมนั้นดีแต่ผลประโยชน์แอบแฝง เรามองดูเห็นหน้าข้าราชการก็เลยมองเห็นหน้าโจรมันลอยมาโดยธรรมชาติ เราเห็นหน้านักการเมืองยิ่งเป็นหน้าโจรใหญ่เป็นมหาโจรใหญ่เลย เราเห็นหน้านักบวชก็เห็นหน้าโจรมันลอยมาพร้อม ๆ กัน เราไม่มีสิทธิที่จะไปลิดรอนสิทธิเสรีภาพของคนอื่น เรามีสิทธิชอบธรรมที่จะมาแก้ไขที่ตนเองนะ ด้วยเหตุผลนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เราทุกคนมีสติมีสัมปชัญญะ ใครจะเป็นอย่างไร จะดีจะชั่วก็เป็นเรื่องของคนอื่น ให้เรามีสติมีสัมปชัญญะ ให้มีความสงบและปัญญา
เราทุกคนคิดดูดี ๆ ถ้าเรามีสติสัมปชัญญะทุกข์นั้นก็ย่อมไม่มี จะเป็นคนจนคนรวยถ้ามีสติสัมปชัญญะความดับทุกข์ก็พอ ๆ กันเช่นเดียวกัน เพราะอันนี้มันเป็นสากล เช่นความแก่ความเจ็บความตายความพลัดพรากนั้นมันเป็นสากล ถ้าใครมีสติมีสัมปชัญญะบุคคลนั้นก็จะไม่มีความทุกข์ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๐ ค่าเงินบาทเปลี่ยนแปลงจาก ๒๕ บาทเป็น ๕๐ บาท ทำให้ประเทศไทยจะล้มละลายพังทลาย ทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้ไปอาราธนาท่านหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนว่าอย่าเพิ่งละสังขารนิพพาน ให้ช่วยประเทศไทยก่อน เพราะประเทศไทยเรากำลังจะล้มละลาย เพราะเงินในคลังหลวงจะหมดแล้ว ทองคำในคลังหลวงจะหมดแล้ว ขณะนั้นเวลานั้น เงินในคลังหลวงเหลืออยู่เพียงพันกว่าล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา ทองคำมีเพียงเล็กน้อย ได้อาราธนาท่านหลวงตามหาบัวไปดูทองคำในคลังหลวง ท่านหลวงตามหาบัว ท่านเห็นแล้วเข้าใจปัญหา ท่านได้บอกว่าพระมหาบัวจะยังไม่ละสังขาร จะพาประชาชนเอาเงินเข้าคลังหลวง เอาทองคำเข้าคลังหลวง ทำผ้าป่าช่วยชาติ สาเหตุก็มาจากข้าราชการนักการเมืองนักบวชนี้แหละพากันโกงกินคอร์รัปชั่น ทำให้ประเทศไทยเสียหาย
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง ไม่อ่อนแอ ตั้งอยู่ในหลักการอุดมการณ์ เพื่อไม่ให้ข้าราชการนักการเมืองนักบวชเอาความทุจริตในการดำเนินชีวิต จะเป็นเหตุให้ประเทศไทยเสียหาย จะเป็นเหตุให้ประเทศไทยพังทลายอย่างเดียวเช่นเดียวกันกับตึก สตง. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินของเมืองไทยประเทศไทย ตึกไหน ๆ เค้าก็ไม่พังทั้งที่ใหญ่กว่าสูงกว่าทั้งที่กรุงเทพฯและปริมณฑล มันไปพังเฉพาะเจาะจงตึกเดียวเฉพาะตึก สตง. เพราะว่าประมาทไป ไม่คาดคิดว่ามันจะพังทลายเสียหาย
ข้าราชการนักการเมืองนักบวชของประเทศไทยเรานี้ ปัจจุบันอยู่ในระดับเสียหายอยู่ในระดับพังทลาย ถือว่ายังไม่ใช่ข้าราชการไม่ใช่นักการเมืองไม่ใช่นักบวชที่ได้มาตรฐานได้ มอก.
โครงสร้างของข้าราชการนักการเมืองนักบวชนั้นดีแน่ ประเทศไทยเรายังไม่ได้ข้าราชการที่ได้มาตรฐานที่ได้ มอก. ยังเป็นข้าราชกินอยู่ ยังเป็นโปรแกรมเมอร์สีเทาอยู่ ประเทศไทยเรายังไม่ได้นักการเมือง มีแต่นักกินเมือง เจ้านี้เจ้านักการเมืองยิ่งเป็นเจ้าเสือร้ายเจ้าอันตรายไม่ใช่โจรธรรมดาแต่เป็นมหาโจร เพราะมีระยะ ๔ ปี นี้ทำให้ประเทศไทยเราพังทลายยิ่งกว่าตึก สตง.เสียอีก เพราะตึก สตง.ตึกเดียว นี้มันพังทั้งประเทศ
ประเทศไทยเรานี้เสียหายเพราะนักบวชทั้งหลาย นักบวชทั้งหลายเป็นสถาบันหลัก นักบวชทั้งหลายต้องพากันเข้าใจนะ คำว่าพระนั้นคือพระศาสนาคือผู้ที่ยกเลิกทิฏฐิมานะ อัตตาตัวตน คำว่าพระคือผู้ที่ยกเลิกตัวตน ไม่เอาอะไรเลย เราดูตัวอย่างแบบอย่าง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านไม่เอาอะไรเลย ท่านเป็นแต่ผู้ให้เป็นแต่ผู้เสียสละ ภายใน ๒๔ ชั่วโมงท่านไม่เอาอะไรเลย วันหนึ่งคืนหนึ่งท่านบรรทมพักผ่อน ๔ ชั่วโมงเสียสละให้สรีระร่างกาย เวลาตื่นอยู่ท่านให้แก่หมู่มวลมนุษย์เทพเทวามารพรหมสรรพสัตว์ทั้งหลายอย่างไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ ท่านเป็นผู้ให้เป็นผู้เสียสละ ท่านไม่เอาอะไรเลย ท่านถึงเป็นพระธรรมเป็นพระวินัย ถึงเป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญา ศาสนาทุกศาสนานั้นให้เราเข้าใจคือทางสายกลางที่เป็นความสงบและปัญญา ผู้ที่บวชมาคือผู้ที่มายกเลิกตัวตน ไม่มีตัวไม่มีตน มีแต่สติมีแต่สัมปชัญญะ มีแต่พระธรรมมีแต่พระวินัย
ผู้ที่เป็นนักบวชทั้งหลายให้พากันเข้าใจนะ โครงสร้างของหมู่มวลมนุษย์เค้าถึงให้มีบ้าน มีวัด มีโรงเรียน ๓ อย่างนี้เป็นสถาบันหลัก เพื่อสติเพื่อสัมปชัญญะ เพื่อพัฒนาใจพัฒนาวัตถุไปพร้อม ๆ กัน ให้มีวันจันทร์อังคารพุธพฤหัสศุกร์เป็นวันทำงานกับเป็นวันพัฒนาใจไปพร้อม ๆ กัน วันเสาร์วันอาทิตย์นั้นเป็นวันหยุดทำงานภายนอก เป็นวันพัฒนาเรื่องจิตเรื่องใจด้วยการเจริญสติเจริญสัมปชัญญะ ถือเนกขัมมะ ไม่เอาความสุขในทางวัตถุ เอาความสุขจากความสงบและปัญญา ยกเลิกนิติบุคคลตัวตน มีแต่สติมีแต่สัมปชัญญะ ทุก ๆ คนทุก ๆ ชาติทุก ๆ ศาสนาก็ใช้หลักการเดียวกันนี้ เพราะเราต้องมารู้เข้าใจ เพราะทุกอย่างนั้นคือกรรมคือกฎแห่งกรรมคือผลของกรรม กรรมนั้นเป็นการงานเป็นหน้าที่ เราทุกคนต้องมามีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการทำหน้าที่ เราทั้งหลายจะได้สว่างไสวทั้งทางวัตถุและทางจิตใจไปพร้อม ๆ กันให้มันว้าวว้าวทั้งภายนอกภายในไปพร้อม ๆ กันด้วยการกลั่นกรองมาจากปัญญาบริสุทธิคุณ ขณะนี้เวลานี้ประเทศไทยเรามีเงินในคลังหลวงมีทองคำในคลังหลวงตั้งแต่ตั้งประเทศไทยมา ปี ๒๕๖๘ มีอยู่ ๕๘๐,๓๑๑ ล้านบาท
เนื่องมาจากทีมทำงานธนาคารแห่งชาติได้เข้มแข็งแข็งแรง ตั้งมั่นในหลักการอุดมการณ์ที่ไม่ให้ข้าราชการนักการเมืองนักบวชที่เขียนโครงการขอใช้งบประมาณแผ่นดิน เพื่อหวังผลประโยชน์ตอบแทนจากการทำงาน
โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาปัจจุบันนี้มีหนี้อยู่พันกว่าล้าน ไม่เป็นไร ถ้าเรามีความสงบและปัญญานั้นย่อมไม่มีปัญหา เราต้องรู้เข้าใจ สติสัมปชัญญะนั้นเป็นสิ่งที่หยุดปัญหาไม่มีปัญหา เอาปัญหาให้เกิดปัญญา ให้เราทุกคนมีความสมัครสมานสามัคคี ทำความดีที่ประกอบด้วยปัญญา เราต้องมาเป็นข้าราชการเป็นบุคลากรของโรงพยาบาลมหาราชด้วยการมีศักยภาพมีประสิทธิภาพ เอาปัจจุบันเป็นวาระสำคัญของการประพฤติการปฏิบัติด้วยความสมัครสมานสามัคคีกัน ความสามัคคีเป็นสิ่งที่สำคัญ เราดูโลกนี้ ดูหลาย ๆ ประเทศ ความสมัครสมานสามัคคีความดีและปัญญาเท่านั้นถึงจะเอาตัวรอดในทางที่รอด
การปฏิบัติของเราต้องครบวงจรทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพมารวมลงที่ใจให้ครบวงจร เพราะการประพฤติการปฏิบัติมันเป็นอริยมรรค ไม่เลือกกาลเลือกเวลาสถานที่ อยู่ที่ปัจจุบัน เราต้องมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการทำงานในการทำหน้าที่
เราอย่าไปคิดว่า โอ้...การงานมาก การงานรัดตัว คิดอย่างนั้นไม่ได้ คิดอย่างนั้นมันเป็นคนเห็นแก่ตัว มันเกิดมาเพื่อความทุกข์ เกิดมาเพื่อตัวเพื่อตนมันจะมีประโยชน์อะไร ถึงจะมีชีวิตชีวาอยู่เป็นล้านปีหลายล้านปีมันจะมีประโยชน์อะไร เราต้องเข้าใจ เราต้องขอบใจการงานต่าง ๆ สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่จะทำให้เราเกิดสติเกิดสัมปชัญญะเกิดปัญญา ด้วยเหตุนี้เราทุกคนต้องมีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ ธรรมะนั้นเป็นความยึดมั่นถือมั่นที่ประกอบด้วยปัญญานะ
เราคิดดูดี ๆ สิ ถ้าเราเดินทางไกลถ้าเราไม่ก้าวไปด้วยขาซ้ายขาขวามันจะไปได้ไหม ถ้าเราไม่มียานได้แก่รถเครื่องบิน ทางน้ำก็ได้แก่เรือมันจะไปได้มั๊ย เราเอาความเห็นผิดเข้าใจมันผิดแย่มากเลยนะ มันเห็นแก่ตัวมากเกิน เราต้องขอบใจธุรกิจหน้าที่การงาน มีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ เรามาระลึกถึงพระธรรมคำสั่งสอนที่ประเสริฐขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านบำเพ็ญมาตั้งหลายล้านชาติหลายล้านปีเป็นบริสุทธิคุณทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพที่ให้เราเป็นหลักการในการประพฤติการปฏิบัติมีแต่คุณมีแต่ประโยชน์หาโทษมิได้ ให้เราเข้าใจ พร้อมทั้งเรามาระลึกถึงว่าความหลงความเพลิดเพลินความยืดเยื้อเนิ่นช้าตั้งอยู่ในความไม่ประมาท มันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายเกิดความพังทลายอย่างเดียวเช่นเดียวกับตึก สตง.
เรามาระลึกถึงปัจฉิมโอวาทของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านได้ตรัสโอวาทสำคัญครั้งสุดท้ายไว้ว่า
“วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ” แปลว่า “สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจง (ยังประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่น) ให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด”
โอวาทของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ความไม่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และแน่นอนนะ
ความยิ่งใหญ่ คือความไม่ยั่งยืนนะ
ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ คือชีวิตที่อยู่ด้วยทาน ศีล เมตตา และกตัญญู
ชีวิตที่มีความดี อาจมิใช่ความยิ่งใหญ่ แต่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ต้องอาศัยคุณธรรมความดีเป็นปัญญาบริสุทธิคุณเท่านั้น การระงับสังขารทั้งหลายด้วยความรู้ความเข้าใจเป็นความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัตินั่นแหละคืออริยมรรค เป็นหนทางที่ประเสริฐมีพระนิพพานตั้งแต่ในปัจจุบัน ไม่ต้องรอพระนิพพานเมื่อตายแล้ว ปัจจุบันไม่มีพระนิพพาน อนาคตจะมีพระนิพพานได้อย่างไร
ให้เรารู้เข้าใจเรื่องพระธรรมพระวินัย พระธรรมพระวินัยที่เป็นสัมมาทิฐิ เพื่อหยุดวัฏฏสงสารนั่นแหละคือพระนิพพาน ให้พวกเรารู้เข้าใจในเรื่องพระนิพพาน ให้พวกเรารู้เข้าใจในเรื่องพระนิพพาน ให้เข้าใจนะว่าสิ่งเดิมนั้นคือความว่างเปล่า สิ่งที่สัญจรไปมาเป็นเพียงอาคันตุกะ เราจะได้เอาหลักการอุดการณ์ที่เป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญาเป็นมรรคเป็นอริยมรรคที่ตรงกันข้ามกับโลกธรรมมาประพฤติมาปฏิบัติ ให้รู้เข้าใจ เพราะไม่มีใครอยู่เหนือกรรมเหนือกฎแห่งกรรมเหนือผลของกรรม พระนิพพานความรู้ความเข้าใจในเรื่องกระบวนการปฏิจจสมุปบาท กระบวนการของปฏิจจสมุปบาทจะได้จบลงเพียงผัสสะ จะได้เป็นปัญญาเป็นความสงบ จะเป็นความสงบเป็นปัญญา เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหตุเหนือผล หยุดความปรุงแต่ง นี้เป็นขบวนการที่ติดต่อต่อเนื่อง เป็นบารมีเป็นความดีที่ประกอบด้วยปัญญา เป็นพระนิพพานบ้านของเรา ไม่ใช่อวิชชาความหลงเป็นบ้านของเรานะ พระนิพพานคือบ้านของเรา ความสงบและปัญญาถึงเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม เราจะหยุดวัฏฏสงสารได้ด้วยความรู้ความเข้าใจ ด้วยพระธรรมด้วยพระวินัย เป็นขบวนการของกระแสในการประพฤติการปฏิบัติที่ได้นำเอาพระธรรมพระวินัยมาประพฤติมาปฏิบัติในปัจจุบันให้ติดต่อต่อเนื่อง
ความสงบและปัญญาที่เป็นพระธรรมพระวินัยถึงหยุดความปรุงแต่งได้ ด้วยปัญญาสัมมาทิฏฐิคู่กับการประพฤติการปฏิบัติในปัจจุบัน พระธรรมพระวินัยที่เป็นความรู้ความเข้าใจ ที่จะหยุดความปรุงแต่งได้ เข้าถึงพระนิพพานตั้งแต่ปัจจุบัน ไม่ต้องรอชาติหน้า พระนิพพานต้องอยู่ที่ปัจจุบันเท่านั้น
------------------------------------------
โอวาทขององค์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
เมตตาให้ไว้ในเช้าวันที่ ๕ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
