๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘

พสกนิกรชาวไทยและชาวต่างประเทศได้มาร่วมรวมกันประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยความโทมนัสและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่พระองค์ได้ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยและชาวโลกตลอดระยะเวลาที่ยาวนาน พระองค์ทรงเป็นดั่งแม่แห่งแผ่นดิน ผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตาและพระปรีชาสามารถ ทรงอุทิศพระวรกาย พระสติปัญญา และพระราชหฤทัยในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อธำรงไว้ซึ่งความผาสุกและความมั่นคงแห่งชาติไทย เราประชาชนชาวไทยต้องร่วมใจสมัครสมานสามัคคีทำความดีที่ประกอบด้วยปัญญา เพื่ออุทิศบุญกุศลน้อมเกล้าถวาย เพื่อเสด็จสู่สวรรคาลัย เข้าสู่สวรรค์มรรคผลพระนิพพาน

 

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๗ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ คริสต์ศักราช ๒๐๒๕ ฮิจเราะห์ศักราช ๑๔๔๖ วันเสาร์วันอาทิตย์เป็นวันหยุดทำงานของข้าราชการทุก ๆ ประเทศ ใช้หลักการอันเดียวกัน

 

มนุษย์เรามีหลักการประพฤติหลักการปฏิบัติในการดำเนินชีวิต เพื่อเป็นการประพฤติเป็นการปฏิบัติพรหมจรรย์ พรหมจรรย์ระดับต้น ระดับกลาง ระดับสูงสุด เป็นความรู้ความเข้าใจในการดำเนินชีวิตที่มีแต่คุณมีแต่ประโยชน์ เพื่อปฏิบัติต่อธรรมชาติให้ถูกต้องเป็นโปรแกรมเมอร์สีขาวทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพด้วยความรู้ความเข้าใจ

 

เราทุกคน... ทุกคนต้องเข้าใจ แล้วให้ตั้งใจตั้งเจตนา ไม่ให้พากันตั้งอยู่ในความประมาท ไม่เอาความประมาทนำชีวิต ทุกคนต้องรู้ต้องเข้าใจ เห็นภัยในความไม่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่มีสติมีสัมปชัญญะ ไม่ไปตามผัสสะ ไม่ไปตามสิ่งแวดล้อม ไม่ไปตามกระแส มีสติมีสัมปชัญญะ สติคือความสงบ สัมปชัญญะคือตัวปัญญา สติกับสัมปชัญญะเดินทางพร้อม ๆ กันไปควบคู่กันไป ผู้มีความสงบมาก ๆ ก็ต้องเสียสละมาก ๆ ผู้มีปัญญามาก ๆ ก็ต้องสงบมาก ๆ ชีวิตของเราต้องมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตา มีฉันทะ มีความพอใจในการประพฤติในการปฏิบัติ การประพฤติการปฏิบัตินั้นอยู่ที่ปัจจุบัน อดีตก็มารวมอยู่ที่ปัจจุบัน อนาคตที่จะไปข้างหน้าก็มารวมกันอยู่ที่ปัจจุบัน ปัจจุบันถึงเป็นวาระสำคัญแห่งชาติของการประพฤติการปฏิบัติ

 

เราทุกคนจะมาทำตามใจของตัวเองนั้นไม่ได้ มาทำตามความรู้สึกนั้นไม่ได้ ต้องเอาธรรมะ เอาพระวินัยนำชีวิต พระธรรมพระวินัยที่เป็นสมมติสัจจะ ให้เรารู้ให้เข้าใจ เป็นหลักการของการประพฤติของการปฏิบัติ เพื่อไม่ให้เราคิดอะไรตามใจตามอัธยาศัย พูดอะไรตามใจตามอัธยาศัย กิริยามารยาททำอะไรตามใจตามอัธยาศัย อาชีพไม่ให้เราทำอะไรตามใจตามอัธยาศัย ต้องเป็นพระธรรมเป็นพระวินัย พระธรรมพระวินัยนั้นเป็นยานที่จะพาเราก้าวไป

 

เราทั้งหลายต้องก้าวไปด้วยพระธรรมด้วยพระวินัย พระธรรมพระวินัยนั้นถึงมีแต่คุณมีแต่ประโยชน์หาโทษมิได้เลย พระธรรมพระวินัยเป็นอุปกรณ์ที่พัฒนาใจ เพื่อใจจะได้มีสติมีสัมปชัญญะ ใจจะได้เป็นประภัสสร ใจไม่ได้ไปตามผัสสะ ไม่ไปตามสิ่งแวดล้อม สิ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้นจะจบลงที่ปัจจุบัน จบลงที่ผัสสะ จบลงที่พระธรรมพระวินัย ธรรมวินัยนั้นถึงเป็นสิ่งที่ทวนโลกทวนกระแส

 

การประพฤติการปฏิบัติต้องอาศัยการประพฤติการปฏิบัติติดต่อต่อเนื่อง เราทุกคนต้องมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อให้การประพฤติการปฏิบัติของเรามันติดต่อต่อเนื่อง ให้เรารู้ให้เข้าใจ เข้าใจอย่างไรล่ะ เข้าใจว่า ทุกอย่างนั้นมันเป็นวาระวาระ กายวาจากิริยามารยาทอาชีพมันเป็นวาระวาระไป ถ้าเรารู้เราเข้าใจ ความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัติ ด้วยมีสติคือความสงบมีสัมปชัญญะตัวปัญญา สติสัมปชัญญะนั้นจะกลั่นกรองจากปัญญาบริสุทธิคุณ ด้วยอาศัยพระธรรมพระวินัย สิกขาบทน้อยใหญ่

 

เราทุกคนใช้หลักการเดียวกันนี้หมด มนุษย์เราที่เกิดมาทุกคนใช้หลักการอันเดียวกันนี้หมด ข้าราชการนักการเมืองนักบวชใช้หลักการอันเดียวกันนี้หมด เพราะการปฏิบัติธรรมะนั้นมันเป็นสากล ความแก่ความเจ็บความตายความพลัดพรากเป็นสากล ความรู้สึกนึกคิดนั้นเป็นสากล ด้วยเหตุนี้ถึงใช้หลักการเดียวกันหมด เช่น ความรู้ความเข้าใจ ไม่ให้ตรึกในกาม ไม่ให้ตรึกในพยาบาท ก็ใช้หลักการเดียวกันนี้หมด กายวาจากิริยามารยาทก็ใช้หลักการเดียวกันนี้หมด อาชีพก็ต้องใช้หลักการเดียวกันหมด ยกเลิกตัวตน ไม่มีตัวไม่มีตน ต้องยกเลิกตัวตนให้หมด ให้ดับไม่เหลือแห่งตัวตน ไปตามโครงสร้างที่วางไว้

 

ธรรมะนั้นคือหน้าที่ หน้าที่นั้นคือธรรมะ ทุกคนมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติในการทำหน้าที่ ความดับทุกข์นั้นให้เราทุกคนพากันเข้าใจ ความดับทุกข์นั้นอยู่ที่เรามีสติมีสัมปชัญญะ ใครมีสติมีสัมปชัญญะผู้นั้นก็ย่อมมีความดับทุกข์ ใครไม่มีสติไม่มีสัมปชัญญะบุคคลนั้นก็ย่อมมีทุกข์

 

เราทุกคนต้องก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจ เราทุกคนนั้นจะประมาทไม่ได้ ความประมาทคือความผิดพลาดที่เป็นนิติบุคคลตัวตน ที่เป็นสัญชาตญาณที่เป็นตัวเป็นตน ที่มีความสำคัญมั่นหมายว่าเราว่าของเรา ว่าคนอื่นของคนอื่น ที่เป็นตัวกูของกู เราทุกคนต้องรู้เข้าใจ เพื่อเราทุกคนจะได้มีสติมีสัมปชัญญะ ทุกคนจะไม่ได้เอาความประมาทนำชีวิต จะไม่ได้เอาความผิดนำชีวิต จะไม่ได้เอาทุจริตนำชีวิต เพราะมันจะเกิดความเสียหาย มันจะเกิดการพังทลายอย่างเดียวเช่นเดียวกันกับตึก สตง. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินของเมืองไทยประเทศไทย

 

การประพฤติการปฏิบัติธรรมเพื่อให้เป็นพรหมจรรย์นั้น ต้องหยุดสัญชาตญาณ ยกเลิกสัญชาตญาณ เราจะหยุดสัญชาตญาณยกเลิกสัญชาตญาณ เราก็ต้องรู้เข้าใจ เห็นภัยในความไม่ถูกต้อง เห็นภัยในวัฏฏสงสาร เป็นผู้ละอายต่อบาปเกรงกลัวต่อบาป ทุกคนนั้นก็ต้องทวนกระแส ไม่เอาความประมาทนำชีวิต ไม่เอาความขี้เกียจขี้คร้านนำชีวิต พระธรรมพระวินัยสิกขาบทน้อยใหญ่ ตลอดข้อวัตรกิจวัตร เป็นหลักการที่ให้ผู้ประพฤติปฏิบัติได้เจริญสติเจริญสัมปชัญญะ เพื่อเป็นหลักการในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อเป็นหลักบำบัด เพื่อเป็นสติสัมปชัญญะ สมมติสัจจะที่เป็นพระธรรมเป็นพระวินัย ข้อวัตรกิจวัตรทั้งหลายถึงมีมากมาย เพื่อเป็นอุปกรณ์ในการประพฤติการปฏิบัติ คำว่าอุปกรณ์หมายถึงกรรมกร การทำงานก็ต้องอาศัยอุปกรณ์ในการทำงาน ให้เรารู้เข้าใจ ว่าพระธรรมพระวินัยนี้เป็นอุปกรณ์ในการประพฤติการปฏิบัติ เป็นอุปกรณ์ในการบำบัด กายวาจากิริยามารยาทอาชีพเป็นอุปกรณ์ของการประพฤติของการปฏิบัติ เพื่อพัฒนาทั้งใจให้เกิดปัญญา พัฒนาวัตถุไปพร้อม ๆ กัน ที่ตั้งอยู่ด้วยสติด้วยสัมปชัญญะ ตั้งอยู่ด้วยความรู้ความเข้าใจในความไม่ประมาท

 

วันจันทร์อังคารพุธพฤหัสศุกร์เป็นวันทำงานพร้อมทั้งเป็นวันปฏิบัติธรรมไปพร้อม ๆ กัน ทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพมารวมลงที่ใจที่ความตั้งใจตั้งเจตนา เพื่อให้เกิดสติเกิดสัมปชัญญะ ด้วยเหตุผลว่ามนุษย์เราถ้ามีสติมีสัมปชัญญะความทุกข์นั้นจะไม่มี จะเป็นความดีที่ประกอบด้วยปัญญา เป็นปัญญาที่ประกอบด้วยความดี จะเป็นการยกเลิกเรื่องอดีตที่ผ่านมาทั้งหมดด้วยสติสัมปชัญญะ เป็นการประพฤติการปฏิบัติในปัจจุบันที่เป็นรากฐานของอนาคต ปัจจุบันนั้นว่างจากตัวจากตน เป็นความรู้ความเข้าใจ มีสติมีสัมปชัญญะ เป็นประโยชน์ในปัจจุบันและในอนาคต ทุกคนไม่ต้องไปลังเลสงสัยในเรื่องอนาคต เพราะเรามีธรรมมีปัจจุบันธรรมด้วยการมีสติมีสัมปชัญญะ เป็นการพัฒนากายวาจากิริยามารยาทมารวมลงที่ใจที่เจตนา มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เป็นความยึดมั่นถือมั่นที่ประกอบด้วยปัญญาสัมมาทิฏฐิ เป็นบริสุทธิคุณของตัวธรรมชาติเอง เป็นตัวของตัวเอง ไม่ถูกครอบงำด้วยอวิชชาด้วยความหลง เป็นผู้ที่ยกเลิกทาส ยกเลิกชาติชั้นวรรณะ ยกเลิกชาติยกเลิกตระกูล

 

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เพื่อมายกเลิกตัวยกเลิกตน ยกเลิกเชื้อชาติวรรณะ เมื่อเรามีสติมีสัมปชัญญะ จะเป็นสภาวธรรมที่ไม่มีความปรุงแต่งใด ๆ มาปรุงแต่งได้ ด้วยสติด้วยสัมปชัญญะ สติสัมปชัญญะนี้ถึงเป็นความพอเพียงเพียงพอ เป็นความพอดี ไม่มากเกินไม่น้อยเกิน เราต้องรู้ต้องเข้าใจ ต้องมีปิติมีความสุขมีความยึดมั่นถือมั่นที่เป็นปัญญาบริสุทธิคุณ ที่เราต้องยกเลิกความไม่ถูกต้อง ยกเลิกความทุจริต ยกเลิกโปรแกรมเมอร์สีเทาสีดำสีสกปรก

 

เราทุกคนพากันมาเน้นที่ตัวเรา ธรรมะคือหน้าที่ หน้าที่คือธรรมะ มีปิติมีความสุขมีความยึดมั่นถือมั่นในการประพฤติการปฏิบัติ ทำเหมือนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทำหน้าที่บำเพ็ญพุทธบารมี ทำหน้าที่ของพระองค์ท่าน เมื่อตรัสรู้แล้วท่านก็ทำหน้าที่สร้างบารมี เข้าถึงความเต็มเต็ม เราต้องรู้เข้าใจ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาจุติในพระครรภ์มารดาก็วันพระจันทร์วันเพ็ญ ประสูติก็วันพระจันทร์วันเพ็ญ ตรัสรู้ก็วันพระจันทร์วันเพ็ญ แสดงธัมมจักกัปปวัตนสูตร ณ ป่าอิสิปตนมฤคายวันก็วันพระจันทร์วันเพ็ญ แสดงโอวาทพระปาฏิโมกข์ก็วันพระจันทร์วันเพ็ญ ตรัสบอกมหาชนว่าอีก ๓ เดือนข้างหน้าพระตถาคตเจ้าจะเสด็จดับขันธ์สู่ปรินิพพานก็วันพระจันทร์วันเพ็ญ เสด็จดับขันธ์สู่ปรินิพพานก็วันพระจันทร์วันเพ็ญ เป็นความเต็ม ๆ ๆ เต็มทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพมารวมลงที่ใจด้วยความตั้งใจตั้งเจตนา

 

เราเป็นมนุษย์เราทุกคนต้องพากันรู้พากันเข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ ตั้งใจตั้งเจตนาในการประพฤติการปฏิบัติ ทุกคนต้องมีสติมีสัมปชัญญะรู้ตัวทั่วพร้อม รู้ทั้งดีทั้งชั่วทั้งผิดทั้งถูกด้วยการมีสติสัมปชัญญะ ยืนเดินนั่งนอนต้องมีสติรู้ตัวทั่วพร้อม มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการมีสติรู้ตัวทั่วพร้อม

 

วันหนึ่งคืนหนึ่งของเราทุกคนพากันนอนพากันพักผ่อนวันละ ๖ ชั่วโมง ๒๔ ชั่วโมงนี้เรานอนเราพักผ่อนวันละ ๖ ชั่วโมง พวกเด็กคนชราผู้อาพาธนอนมากกว่า ๖ ชั่วโมง เวลาเราตื่นอยู่นี้ทุกคนต้องมีปิติมีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติในการทำหน้าที่ เพื่อหน้าที่ของเราจะได้สมบูรณ์ ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ไม่ให้ขาดให้ด่างให้พร้อยไม่ให้เศร้าหมอง ไม่ตั้งอยู่ในความประมาท ต้องมีสติมีสัมปชัญญะ

 

ชีวิตของเราต้องอยู่ด้วยบุญด้วยกุศล ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท การดำเนินชีวิตของเราถึงเป็นอริยมรรคทั้งกายวาจากิริยามารยาทที่รวมลงมาที่ใจเป็นบุญเป็นกุศล ก้าวไปด้วยบุญด้วยกุศล การคิดดี ๆ พูดดี ๆ กิริยามารยาทดี ๆ อาชีพดี ๆ ยกเลิกตัวตน นั่นแหละคือบุญคือกุศล นั่นแหละคืออริยมรรค หนทางที่ถูกต้อง  เป็นหนทางสีขาว เป็นโปรแกรมเมอร์สีขาวทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพ เราจะมีโปรแกรมเมอร์สีขาวได้ก็เพราะเรามีสติมีสัมปชัญญะ

 

เราทุกคนต้องรู้เข้าใจ การประพฤติการปฏิบัติธรรมนั้น เราต้องมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตา มีความยึดมั่นถือมั่นกับการประพฤติกับการปฏิบัติ เพราะความยึดมั่นถือมั่นมันเป็นปัญญาบริสุทธิคุณ นี้เป็นหลักการในการบำเพ็ญบุญบำเพ็ญกุศล มนุษย์เรานี้เป็นผู้มีปัญญาสัมมาทิฏฐิ เมื่อญาติผู้ที่ร่วมเกิดแก่เจ็บตายละสังขารวายชนม์ ก็นำสรีระร่างกายนั้นมาบำเพ็ญบุญกุศล เมื่อจากไปแล้วตัวเราเองบำเพ็ญบุญกุศลก็ยังอุทิศบุญกุศลไปให้กับญาติ ๆ ให้กับบรรพบุรุษหรือผู้ที่ยังอยู่ร่วมกันในปัจจุบัน

 

เราทั้งหลายต้องพากันมาเข้าใจในพระศาสนา พระศาสนานั้นคือทางสายกลางระหว่างการพัฒนาใจกับการพัฒนาวัตถุที่เป็นไปในทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้กายกับใจมันก้าวไปด้วยบุญด้วยกุศล ถึงพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท พระศาสนานั้นเป็นปัญญาบริสุทธิคุณ เป็นโปรแกรมเมอร์สีขาวทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพมารวมลงที่ใจรวมลงที่เจตนา ที่ตั้งใจตั้งเจตนา พระศาสนานี้มีความหมายอย่างนี้ พระศาสนานี้ไม่ใช่นิติบุคคลไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน พระศาสนานี้คือธรรมะ ธรรมะคือพระศาสนา พระศาสนาทุกศาสนามีความหมายอย่างเดียวกัน ไม่ใช่อย่างอื่น มีสติมีสัมปชัญญะอย่างเดียวกัน แต่ชื่อนั้นย่อมแตกต่างกันไป จะไปใช้ชื่อเดียวกันนั้นไม่ได้

 

เราต้องเข้าใจสมมติสัจจะ สมมติทั้งหลายมีตั้งหลายล้านสมมติที่จะชี้ให้เห็นผิดถูกดีชั่ว ไม่ผิดไม่ถูกไม่ดีไม่ชั่ว มีหลายล้านสมมติ เพื่อให้หมู่มวลมนุษย์เอาสมมติสัจจะทั้งหลายมาประพฤติมาปฏิบัติมาทำหน้าที่ เพราะหน้าที่นั้นคือธรรมะ ธรรมะนั้นคือหน้าที่ ให้มองเห็นอันนี้ดี อันนี้ถูกต้อง อันนี้ไม่ดี อันนี้ไม่ถูกต้อง เราได้รับสมมติเป็นอะไรให้ทำหน้าที่อะไรก็ให้ประพฤติปฏิบัติทำหน้าที่ในสิ่งเหล่านั้นอย่างมีความสุขให้มีความสุข เพราะความสุขมันอยู่ที่เรารู้เข้าใจ ที่เราทั้งหลายได้ทำหน้าที่ เราทั้งหลายจะได้เข้าสู่หลักการเข้าสู่อุดมการณ์อุดมธรรม เพื่อทำหน้าที่ของเราอย่างมีปิติสุขเอกัคคตา เพื่อให้โปรแกรมเมอร์ที่เป็นกายวาจากิริยามารยาทอาชีพที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมมติสัจจะ เพื่อเป็นโปรแกรมเมอร์สีขาว

 

เราทั้งหลายให้มาเน้นที่เรา เราต้องเอาโปรแกรมเมอร์ที่สีขาวมาใช้มาปฏิบัติให้มีความสุข เราทุกคนให้เน้นมาที่ตัวเรานะ มาทำหน้าที่ของตัวเรา เราต้องมีสติมีสัมปชัญญะ อริยมรรคมีองค์แปดนี้ที่เป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม ให้เราจับหลักเอาสติสัมปชัญญะ นี้เป็นหลักการในการประพฤติหลักการในการปฏิบัติ เป็นหลักบำบัด

 

เหตุการณ์ที่ผ่านมา เราทุกคนอยู่ในระดับเสียหาย อยู่ในระดับพังทลายอย่างเดียวเช่นเดียวกันกับตึกสตง. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินของเมืองไทยประเทศไทย ให้เรารู้ให้เราเข้าใจนะ เพื่อจะให้โปรแกรมเมอร์สีขาวมารวมลงที่ใจด้วยความตั้งใจตั้งเจตนา เพื่อให้ข้าราชการนักการเมืองนักบวชทำหน้าที่ของตัวเองด้วยสติด้วยสัมปชัญญะ

 

ให้ทุกท่านทุกคนเข้าใจว่า ทุกคนนั้นทำได้ปฏิบัติได้ เพราะยังมีลมหายใจยังมีลมปราณอยู่

 

ให้ทุกคนนั้นมีสติมีสัมปชัญญะ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านให้หลักการในการเจริญสติสัมปชัญญะ ท่านให้เราเจริญอานาปานสติในชีวิตประจำวัน ยืนเดินนั่งนอนให้เจริญสติสัมปชัญญะด้วยการเจริญอานาปานสติ อานาปานสติได้แก่ลมหายใจของเรา ทุกคนที่มีชีวิตอยู่ มีอายุขัยก็ย่อมมีลมหายใจ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านให้เราเจริญสติสัมปชัญญะด้วยการหายใจเข้าหายใจออก ให้มีสติรู้ตัวทั่วพร้อม ให้มีความสุข ให้มีความสบาย หายใจเข้าก็ให้สติรู้ตัวทั่วพร้อม หายใจออกก็ให้มีสติรู้ตัวทั่วพร้อม หายใจสั้นหายใจยาวก็ให้มีสติรู้ตัวทั่วพร้อม ถ้ายังไม่สงบอยู่ก็ให้หายใจเข้ายาว ๆ ลึก ๆ กลั้นใจไว้สักพักหนึ่ง เพื่อเราจะได้มีสติมีสัมปชัญญะ เพื่อใจของเราจะได้หยุดฟุ้งซ่านลง เพื่อเอาออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายไปเลี้ยงร่างกาย หายใจออกเอาคาร์บอนไดออกไซด์เอาของเสียออกไปเอาของปฏิกูลออกไป

 

ให้เรารู้ให้เราเข้าใจ นี้เป็นหลักการของการเจริญสติเจริญสัมปชัญญะ เวลาเรานั่งสมาธิก็ใช้หลักการเจริญอานาปานสติอย่างเดียวกันนี้แหละ สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นภายนอกนั้นมีมากมายที่มันสัมผัสทางตาหูจมูกลิ้นกายใจมันมีมากมาย ใจของเรามันเปรียบเสมือนโทรทัศน์นั่นแหละ โทรทัศน์มันจะมีอยู่ ๖ ช่อง ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ มันมีทั้งหมดอยู่ ๖ ช่อง ช่องต่าง ๆ ก็มีรายการต่าง ๆ แล้วแต่เราจะเปิดช่องไหน เราต้องมีรายการนั้น ๆ ถ้าเรามีสติมีสัมปชัญญะอยู่กับลมหายใจ หายใจเข้าก็มีความสุขมีสติรู้ตัวทั่วพร้อม หายใจออกก็มีความสุขมีสติรู้ตัวทั่วพร้อม ก็เป็นอันว่าเราปิดช่องโทรทัศน์ทางใจของเรานะ เพราะช่องไหนมันก็สนุกสนาน มันเป็นสิ่งที่ชวนเพลิดเพลิน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงตรัสว่า อะไรทำให้ผู้ปฏิบัติธรรมะเนิ่นช้า ก็คือความเพลิดเพลินนี้แหละ ที่ตั้งอยู่ในความเพลิดเพลิน ตั้งอยู่ในความประมาท ให้เราถือเอาหลักการในการเจริญสติสัมปชัญญะด้วยลมหายใจนี้ นี้เป็นหลักการที่ดีมาก ใช้ได้กับทุกชาติทุกศาสนาเลย

 

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายกรรมฐานของเมืองไทย ให้เราเจริญอานาปานสติ มีสติสัมปชัญญะกับลมหายใจเข้าหายใจออก ท่านให้บริกรรมพุทโธกำกับไปกับลมหายใจ หายใจเข้าก็ให้ท่องพุทธ หายใจออกก็ให้ท่องโธ ให้มีปิติมีความสุขอยู่กับพุทธกับโธ พุทธโธนั้นคือสติสัมปชัญญะให้เรารู้เข้าใจ อย่าไปเถียงกันว่าอันนี้คือสมถะอันนี้คือวิปัสสนา ถ้าเรามีสติสัมปชัญญะเราก็ย่อมมีทั้งสมถะมีทั้งวิปัสสนา เพราะเราต้องรู้ต้องเข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมันไม่แน่ไม่เที่ยง มันก็ผ่านไปผ่านมาทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ ทุกอย่างนั้นเป็นเพียงอาคันตุกะที่สัญจรไปมา หาใช่นิติบุคคลตัวตนไม่

 

ธรรมะนั้นคือหน้าที่ หน้าที่นั้นคือธรรมะ ให้ทุก ๆ คนมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ นี้แหละคือความดับทุกข์ด้วยความรู้ความเข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ ให้เรารู้เข้าใจ เราจะเอาแต่วัตถุ เอาความสุขความเอร็ดอร่อยจากทางวัตถุอย่างเดียวนั้นไม่ได้ เพราะทุกอย่างนั้นมันเป็นของชั่วครู่ชั่วยาม ไม่จีรังยั่งยืน เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป เราต้องมารู้แจ้งทั้งวัตถุรู้แจ้งทั้งทางจิตใจไปพร้อม ๆ กัน เป็นผู้รู้แจ้งโลกแล้วก็รู้แจ้งธรรม สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็แล้วไป เพราะได้ผ่านไปแล้วได้เกษียณไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้

 

 เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ ต้องเอาทางสายกลางนำชีวิต ต้องยึดมั่นถือมั่นตั้งมั่นใจอุดมการณ์อุดมธรรม เราจะได้เป็นมนุษย์ผู้รู้ผู้เข้าใจ ผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร เราจะได้เป็นเทวดาผู้รู้ผู้เข้าใจผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร เราจะได้เป็นพระพรหมผู้รู้ผู้เข้าใจผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร ทุกคนนั้นให้พากันรู้เข้าใจ ทุกคนนั้นก็พากันเป็นพระได้พอ ๆ กันนั่นแหละ เพราะทุกนั้นมีกายวาจากิริยามารยาทรวมลงที่ใจ ทุกคนก็เป็นพระได้พอ ๆ กันนั่นแหละ พระนั้นไม่ได้หมายถึงตัวถึงตน พระนั้นหมายถึงพระธรรมพระวินัยสิกขาบทน้อยใหญ่ที่ยกเลิกตัวตน

 

เราเกิดมาเรามารู้มาเข้าใจ มามีสติมีสัมปชัญญะ มาเป็นผู้ให้มาเป็นผู้เสียสละ มามีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการทำงาน เพราะงานคือความสุข ความสุขคืองาน เราทุกคนอย่าไปขี้เกียจขี้คร้าน เข้าสู่ระบบความคิด คำพูด การกระทำ กิริยามารยาท อาชีพ อาชีพที่ต้องยกเลิกตัวยกเลิกตน ต้องพากันหยุดโปรแกมเมอร์ชีวิตที่เป็นสีเทาสีดำสีสกปรก เพราะตัวตนมันระเบิดตัวเองไปในตัวอยู่แล้ว ตัวตนนั้นแหละคือโรคภูมิแพ้ แพ้ภูมิของตัวเอง

 

การทำลายมนุษย์ได้แก่การทำลายสติสัมปชัญญะ ผู้ใดไม่มีสติไม่มีสัมปชัญญะ คือผู้ที่ทำร้ายทำลายตัวเอง หลักการในการประพฤติการปฏิบัติธรรมมันคือการทำหน้าที่ หน้าที่คือธรรมะ การทำทุกอย่างนั้นไม่หวังอะไรตอบแทน เรามาเรียนหนังสือเพื่อความรู้เพื่อความเข้าใจ เพื่อเราจะเอามาใช้เอามาเสียสละ ให้เข้าใจอย่างนี้ ไม่ใช่เราเรียนเพื่อจะเอา ให้เราคิดดูดี ๆ นะ แม้เรารวยเรามีอำนาจ ถ้าใจของเราไม่สงบความทุกข์นั้นของเรานั้นก็ย่อมมี มันดับทุกข์ไม่ได้ แก้ปัญหาไม่ได้ นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายถึงต้องรู้ต้องเข้าใจ นักจิตวิทยาทั้งหลายถึงต้องรู้ต้องเข้าใจ ผู้ที่มีปัญญามาก ๆ ถึงต้องมีความสงบมาก ๆ ผู้มีความสงบมาก ๆ ต้องเสียสละมาก ๆ สติสัมปชัญญะนี้จึงเป็นคุณธรรมของบุญของกุศล เป็นคุณธรรมของผู้ดีประกอบด้วยปัญญา ผู้มีปัญญาประกอบด้วยความดี เป็นสมบัติที่เป็นบุญเป็นกุศล ทั้งโลกนี้และโลกหน้า

 

ให้ทุกท่านทุกคนตระหนักด้วยการเจริญสติสัมปชัญญะ ตั้งใจตั้งเจตนาเพื่อให้ปฏิปทามันเกิดติดต่อต่อเนื่องเป็นขบวนการของกระแสปฏิจจสมุปบาท การทำอะไรที่จะต้องให้ผลเห็นผล มันต้องติดต่อต่อเนื่องกันเป็นขบวนการ ด้วยความรู้ความเข้าใจ ด้วยความตั้งมั่น ด้วยความยึดมั่นถือมั่นที่มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ ในหลักการบริหารตนบริหารคนอื่นเค้าถึงให้มีหลักการ ผู้ที่จะเป็นนักการเมืองต้องใช้วาระเวลาเป็นเวลา ๔ ปี ผู้ที่รับราชการระดับสูงถึงให้มีวาระ ๔ ปีนี้ คัดกรองผู้ที่มีปัญญาและคนดีเพื่อพัฒนาใจพัฒนาวิทยาศาสตร์ไปพร้อม ๆ กันเป็นทางสายกลาง ที่ผ่านมาหลักการอุดมการณ์ของเราดี แต่หลักการอุดมการณ์นั้นเอาไปใช้ผิดทางมันเป็นโปรแกรมเมอร์สีเทาสีดำสีสกปรก

 

เราทั้งหลายรู้ว่ามันใช้ไม่ได้มันผิดมันไม่ถูกต้อง เราถึงมีสัญชาตญาณร่วมรวมกัน เราระลึกถึงหน้าข้าราชการเมื่อไหร่ก็ระลึกถึงหน้าโจรขึ้นมาเลย เราระลึกถึงนักการเมืองเมื่อไหร่ก็ยิ่งระลึกถึงหน้าโจรหน้ามหาโจร โจรมากจริง ๆ โจรใหญ่จริง ๆ มันลอยมาในใจอย่างนี้ เรามองดูหน้านักบวชด้วยสัญชาตญาณมันเป็นหน้าโจรหน้ามหาโจรลอยขึ้นมาเป็นอัตโนมัติเลย สถาบันหลักนี้ ข้าราชการนักการเมืองนักบวชนี้ถือว่าเสียหาย ถือว่าพังทลายมากยิ่งกว่าตึก สตง.สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ประเทศไทยเรานี้อยู่ในระดับโกงกินคอร์รัปชั่น ๑๐๗ ของโลก ปีที่แล้วที่ผ่านมาอยู่ระดับ ๑๐๘ ของโลก ปีนี้ดีขึ้นมาหน่อย อยู่ในระดับ ๑๐๗ ของโลก โลกนี้มีทั้งหมด ๑๙๕ ประเทศ ประเทศเราอยู่ในระดับโกงกินคอร์รัปชั่น ๑๐๗ ถือว่าอยู่ในระดับเสียหายระดับพังทลายยิ่งกว่าตึก สตง.

 

เหตุการณ์ที่ผ่านมาค่าเงินบาทเปลี่ยนแปลงเมื่อปี ๒๕๔๐ ค่าเงินบาทเปลี่ยนแปลงจาก ๒๕ บาท ขึ้นเป็น ๕๐ บาท ทำให้ประเทศไทยเราเกือบจะล้มละลาย ทางผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จึงได้ไปอาราธนาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อย่าเพิ่งละสังขารนิพพาน ให้ช่วยประเทศไทยเสียก่อน ได้ไปกราบเรียนท่านหลวงตามหาบัว ได้อาราธนาหลวงตามหาบัวเข้าไปดูเงินในคลังหลวง ดูทองคำในคลังหลวง หลวงตาฯได้ไปดูไปเห็น ท่านหลวงตามหาบัวถึงบอกว่า พระมหาบัวจะยังไม่ลาละสังขาร จะพาประชาชนเอาเงินเข้าคลังหลวง เอาทองคำเข้าคลังหลวงด้วยอาศัยหลักการสมัครสมานสามัคคีทอดผ้าป่าช่วยชาติ สมัยนั้นเงินในคลังหลวงเหลืออยู่แปดพันกว่าล้านดอลล่าร์ ทองคำเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย ท่านหลวงตามหาบัว ได้พาประชาชนเอาทองคำเข้าคลังหลวง ๑๓ ตันเกือบถึง ๑๔ ตัน พร้อมทั้งเงินบาทเงินดอลล่า ทางผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยมีความเข้มแข็ง มีระเบียบมีวินัยในการคลัง ไม่ปล่อยให้ข้าราชการนักการเมืองใช้เล่ห์เพทุบายในวิธีต่าง ๆ เพื่อที่จะโกงกินคอร์รัปชั่น ปัจจุบันนี้ประเทศไทยเราโชคดี โชคดีมาก ทองคำในคลังหลวงและเงินบาทในคลังหลวงมีมากเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ตั้งประเทศไทยเป็นเมืองไทย ให้ทุกคนพากันเข้าใจ เพื่อจะได้สมัครสมานสามัคคี เอาความดีและปัญญา เพื่อเป็นธรรมนูญชีวิต

 

ทุกคนต้องรู้ต้องเข้าใจ ว่าสติสัมปชัญญะเท่านั้นถึงจะแก้ปัญหาได้ ที่อาศัยหลักการที่เป็นอุดมการณ์อุดมธรรมในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ มนุษย์เราต้องพัฒนาจิตใจให้มีปัญญา เอาปัญญานั้นมาพัฒนาวัตถุพัฒนาวิทยาศาสตร์เพื่อให้เป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม วันจันทร์อังคารพุธพฤหัสเป็นวันทำงานกับการพัฒนาใจ วันเสาร์วันอาทิตย์นั้นเป็นวันหยุดงานภายนอกเป็นวันพัฒนาใจ เพื่อเนกขัมมะบารมี เอาความดีและปัญญามาเจริญสติเจริญสัมปชัญญะ เพื่อความรู้ความเข้าใจ เราจะได้สมัครสมานสามัคคีกัน ทุกคนไม่ต้องไปแก้ที่คนอื่น ต้องแก้ที่ตัวเรา มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ

 

ให้เราทั้งหลายมาระลึกถึงปัจฉิมโอวาทของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านตรัสให้เราทั้งหลาย ไม่ให้ประมาท ต้องมีสติมีสัมปชัญญะ มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เป็นความยึดมั่นถือมั่นที่ประกอบด้วยปัญญา เพื่อที่จะยกเลิกนิวรณ์ทั้ง ๕ ยกเลิกอคติทั้ง ๔ ด้วยสติด้วยสัมปชัญญะ ด้วยเอาความดีและปัญญาที่เป็นปัญญาบริสุทธิคุณ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้ตรัสปัจฉิมโอวาทไว้ว่า

 

“วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ” แปลว่า “สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจง (ยังประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่น) ให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด”

 

โอวาทของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ความไม่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และแน่นอนนะ

ความยิ่งใหญ่ คือความไม่ยั่งยืนนะ

ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ คือชีวิตที่อยู่ด้วยทาน ศีล เมตตา และกตัญญู

ชีวิตที่มีความดี อาจมิใช่ความยิ่งใหญ่ แต่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ต้องอาศัยคุณธรรมความดีเป็นปัญญาบริสุทธิคุณเท่านั้น การระงับสังขารทั้งหลายด้วยความรู้ความเข้าใจเป็นความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัตินั่นแหละคืออริยมรรค เป็นหนทางที่ประเสริฐมีพระนิพพานตั้งแต่ในปัจจุบัน ไม่ต้องรอพระนิพพานเมื่อตายแล้ว ปัจจุบันไม่มีพระนิพพาน อนาคตจะมีพระนิพพานได้อย่างไร

 

ให้เรารู้เข้าใจเรื่องพระธรรมพระวินัย พระธรรมพระวินัยที่เป็นสัมมาทิฐิ เพื่อหยุดวัฏฏสงสารนั่นแหละคือพระนิพพาน ให้พวกเรารู้เข้าใจในเรื่องพระนิพพาน ให้พวกเรารู้เข้าใจในเรื่องพระนิพพาน ให้เข้าใจนะว่าสิ่งเดิมนั้นคือความว่างเปล่า สิ่งที่สัญจรไปมาเป็นเพียงอาคันตุกะ เราจะได้เอาหลักการอุดการณ์ที่เป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญาเป็นมรรคเป็นอริยมรรคที่ตรงกันข้ามกับโลกธรรมมาประพฤติมาปฏิบัติ ให้รู้เข้าใจ เพราะไม่มีใครอยู่เหนือกรรมเหนือกฎแห่งกรรมเหนือผลของกรรม พระนิพพานความรู้ความเข้าใจในเรื่องกระบวนการปฏิจจสมุปบาท กระบวนการของปฏิจจสมุปบาทจะได้จบลงเพียงผัสสะ จะได้เป็นปัญญาเป็นความสงบ จะเป็นความสงบเป็นปัญญา เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหตุเหนือผล หยุดความปรุงแต่ง นี้เป็นขบวนการที่ติดต่อต่อเนื่อง เป็นบารมีเป็นความดีที่ประกอบด้วยปัญญา เป็นพระนิพพานบ้านของเรา ไม่ใช่อวิชชาความหลงเป็นบ้านของเรานะ พระนิพพานคือบ้านของเรา ความสงบและปัญญาถึงเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม เราจะหยุดวัฏฏสงสารได้ด้วยความรู้ความเข้าใจ ด้วยพระธรรมด้วยพระวินัย เป็นขบวนการของกระแสในการประพฤติการปฏิบัติที่ได้นำเอาพระธรรมพระวินัยมาประพฤติมาปฏิบัติในปัจจุบันให้ติดต่อต่อเนื่อง

 

 ความสงบและปัญญาที่เป็นพระธรรมพระวินัยถึงหยุดความปรุงแต่งได้ ด้วยปัญญาสัมมาทิฏฐิคู่กับการประพฤติการปฏิบัติในปัจจุบัน พระธรรมพระวินัยที่เป็นความรู้ความเข้าใจ ที่จะหยุดความปรุงแต่งได้ เข้าถึงพระนิพพานตั้งแต่ปัจจุบัน ไม่ต้องรอชาติหน้า พระนิพพานต้องอยู่ที่ปัจจุบันเท่านั้น

 

-----------------------------------------

โอวาทขององค์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม

เมตตาให้ไว้ในเช้าวันอาทิตย์ที่ ๗ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘

ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

 

 

รายการล่าสุดที่คุณดู
Visitors: 103,789