๑๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘

วันนี้เป็นวันอังคารที่ ๑๕ เมษายน

พุทธศักราช ๒๕๖๘ ของศาสนาพุทธ

คริสต์ศักราช ๒๐๒๕ ของศาสนาคริสต์

ฮิจเลาะห์ศักราช ๑๔๔๖ ของศาสนาอิสลาม

 

เดือนนี้เป็นเดือนเมษาหน้าแล้งฤดูร้อนประเทศไทยมี ๓ ฤดู ฤดูฝนฤดูหนาวฤดูแล้ง เดือนเมษาเป็นเดือนของศาสนาพุทธ ผู้ที่ถือศาสนาพุทธสรงน้ำพระพุทธรูป ดูแลปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม โบสถ์ วิหาร ลานเจดีย์ ห้องน้ำห้องสุขา

 

ชาวพุทธในประเทศไทยและทุก ๆ ประเทศ ได้เอาเดือนเมษาหน้าแล้งฤดูร้อนของทุก ๆ ปี ปฏิบัติสืบทอดติดต่อกันมาหลายร้อยปี  เป็นประเพณีตั้งแต่ดึกดำบรรพ์สมัยโบราณ เริ่มต้นจากวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำเดือนเมษาไปถึงวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำเดือนพฤษภา ระยะเวลาเป็นเวลา ๑ เดือน เป็นประเพณีของโบราณที่ทำสืบทอดกันมา

 

ปัจจุบันนี้ทางการทางส่วนราชการทางการปกครองประเทศ ให้วันที่ ๑๓ เมษา ถึงวันที่ ๑๕ เมษาเป็นวันหยุดทำงานของราชการ เพื่อเป็นหลักการเป็นอุดมการณ์อุดมธรรม โฟกัสเอาวันที่ ๑๓-๑๕ เป็นวันหยุด วันนี้เป็นวันที่ ๑๕ เป็นวันสุดท้ายของวันหยุดส่วนราชการ เพื่อประชาชนของประเทศไทยจะได้ประพฤติปฏิบัติ เป็นหลักการในการดำเนินชีวิตที่ประเสริฐ

 

ชีวิตของเราทั้งหลายที่เราเป็นมนุษย์น่ะ เป็นชีวิตที่ประเสริฐ

 

เราทั้งหลายต้องพากันรู้พากันเข้าใจนะ ชีวิตของเราทั้งหลายเป็นชีวิตที่ประเสริฐ ที่เรามีลมปราณมีลมหายใจ ทุกคนต้องเข้าใจว่าชีวิตนี้เป็นชีวิตที่ประเสริฐ

                    

อายุขัยของพวกเรานั้นร่วมร้อยปีนะ

 

พวกเราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ รู้คุณค่าของชีวิต รู้คุณค่าของลมปราณที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสกับพวกเราทั้งหลายว่า ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมันคือธรรมะ มันคือเหตุคือปัจจัยทั้งสิ่งที่เวียนว่ายตายเกิดทั้งสิ่งที่หยุดเวียนว่ายตายเกิด ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสว่า เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปมันถึงมีเธอทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด

 

เราต้องรู้คุณค่าในลมปราณในชีวิตของเรา พวกเราทั้งหลายถือว่าเป็นผู้ที่โชคดีเป็นผู้ที่ประเสริฐ เมื่อเรามีโอกาสที่ประเสริฐเราทุกคนน่ะ องค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้าท่านถึงบอกพวกเราทั้งหลายว่าอย่าได้ประมาท

 

การประพฤติการปฏิบัตินั้นให้มันเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อเอาชีวิตนี้มาทำประโยชน์ตนเองและประโยชน์ของบุคคลอื่นถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท อย่าไปหลง อย่าไปเพลิดเพลินในความอร่อยของโลก ในเหยื่อของโลก

 

ทุกอย่างนั้นมันไม่จบหรอก พูดถึงเรื่องรูปมันก็ไม่จบ เสียงมันก็ไม่จบ กลิ่นก็ไม่จบ รสก็ไม่จบ โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์มันก็ไม่จบ มันน่าเพลิดเพลินมันน่าหลง

 

เราทั้งหลายต้องรู้ด้วยปัญญา ด้วยสัมมาทิฐิ เพื่อเราทั้งหลายจะได้หยุดวัฏฏสงสารของตัวเองด้วยความรู้ความเข้าใจ พากันเอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิต

 

ประชาชนทั้งหลายน่ะให้พากันรักษาศีล ๕ ด้วยความตั้งใจตั้งเจตนา เพื่อจะได้ยกเลิกวัฏฏสงสารของตัวเอง ศีล ๕ จะยกเลิกวัฏฏสงสารของตัวเองนะ มันจะหยุดวัฏฏสงสารที่เป็นนิติบุคคลตัวตน ให้ตั้งใจตั้งเจตนารักษาศีล ๕

 

คนไม่ได้บวช ผู้ที่เป็นข้าราชการนักการเมือง เป็นพระราชาเป็นพระมหากษัตริย์ ผู้ที่ไม่ได้บวชทั้งหลายต้องพากันรักษาศีล ๕

 

ศีล ๕ น่ะ เรารักษาด้วยความตั้งใจตั้งเจตนาเพื่อเอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญ นำชีวิตน่ะ ไม่รักษาศีล ๕ เพื่อตัวเพื่อตน รักษาศีล ๕ เพื่อธรรมเพื่อเป็นปัจจุบันธรรม ยกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิต

 

ศีล ๕ มันคือศีลของพระนิพพานนะ มันคือสิ่งที่หยุดวัฏฏสงสารด้วยความตั้งใจ ตั้งเจตนา

 

ศีล ๕ นั้นดีมากศีล ๕ เป็นพื้นเป็นฐาน ให้เราเข้าใจ

 

เราทั้งหลายก็เน้นมาที่ตัวเรานี้แหละ เน้นที่ความตั้งใจตั้งเจตนา เข้าสู่มรรคสู่อริยมรรค อันไหนไม่ดีไม่ตรึกไม่นึกไม่คิดไม่พูดไม่ทำ ตลอดถึงกิริยามารยาททั้งอาชีพต้องยกเลิกตัวตน

 

ให้เข้าถึงบริสุทธิคุณด้วยความรู้ความเข้าใจ เพื่อศีล ๕ นั้นมันจะเป็นพรหมจรรย์สำหรับประชาชนผู้ที่ไม่ได้บวช ผู้ที่เป็นข้าราชการนักการเมืองเป็นพ่อค้าประชาชนเป็นประชาชน เป็นพระราชามหากษัตริย์ ทุกคนต้องมีศีล ๕ เป็นพื้นฐาน          

 

        

ศีล ๕ นี้ไม่ใช่ธรรมดา ศีล ๕ ทำให้เราเข้าถึงพระนิพพานตั้งแต่ยังไม่ตายนะ

 

เน้นมาที่ตัวเรานี้แหละ ให้มีปิติให้มีความสุขให้มีเอกัคคตาในการประพฤติ การปฏิบัติเรารักษาศีล ๕ ไม่ใช่เอาหน้าเอาตาเอาชื่อเสียงเกียรติยศนะ รักษาศีล ๕เพื่อหยุดวัฏฏสงสาร ยกเลิกตัวตน ให้มีแต่ปิติสุขเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ

 

ให้พวกเราทั้งหลายรู้เข้าใจนะ ถ้ารู้เข้าใจแล้วมันจะเป็นความดีที่ประกอบด้วยปัญญา ปัญญาประกอบด้วยความดีชีวิตของเรามันจะสงบเย็นเป็นพระนิพพานน่ะ

 

โลกมันจะไม่มาครอบงำธรรม ต้องเอาธรรมนำชีวิตเอาธรรมนูญนำชีวิต ชีวิตของเราทุกคนจะได้มีแต่ความสุข ชีวิตของเราก็จะเป็นมรรคเป็นอริยมรรค ทั้งกายวาจากิริยามารยาททั้งอาชีพ

 

ชีวิตของเรามันจะสงบจะเย็น ชีวิตของเรามันจะไม่ไปตามผัสสะไม่ตามสิ่งแวดล้อม เพราะเรามีศีลมีธรรม มีความรู้มีความเข้าใจ

 

พวกเราทั้งหลายต้องตั้งอกตั้งใจเน้นมาที่ตัวเรานี้แหละ เพราะการกระทำของเรามันก็ทำได้ทีละอย่าง กายวาจากิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพทำได้ทีละอย่าง เมื่อเราเอาศีล ๕ นำชีวิตเอาธรรมนำชีวิตมันก็จะเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม แล้วก็มีความสุขมีปิติในการประพฤติการปฏิบัติ ความทุกข์มันก็ไม่มีเพราะความรู้ความเข้าใจ

 

ความทุกข์เรามีเพราะเราเอาตัวตนนำชีวิต ตัวตนมันมีแต่ความทุกข์นะ

 

เราเป็นคนจนก็ทุกข์เพราะไม่มี ถ้าเรามีตัวมีตน เราเป็นคนรวยก็ทุกข์ เพราะไม่รู้จัก พอสองอย่างนี้ก็ทุกข์พอ ๆ กันนี้แหละ ไม่มีใครมากกว่ากัน เพราะมีตัวตนมีตนตัวตน

 

ให้เข้าใจนะ เราทั้งหลายต้องรู้แจ้งทั้งวัตถุรู้แจ้งทั้งเรื่องจิตเรื่องใจ เราทั้งหลายจะได้รู้แจ้งโลกรู้แจ้งธรรม เราทั้งหลายจะได้หยุดกรรมหยุดเวรหยุดภัยหยุดอันตราย

 

เราทั้งหลายให้ตั้งอกตั้งใจให้พากันรักษาศีล ๕ ตามหลักการอุดมการณ์อุดมธรรม

 

๗ วันเค้ามีวันพักให้น่ะ ๒ วัน วันเสาร์วันอาทิตย์เค้ามีวันพักให้ ให้หยุดทำราชการ ให้เน้นเรื่องจิตเรื่องใจ ให้เน้นเรื่องจิตเพื่อเป็นหลักการเป็นอุดมการณ์อุดมธรรม ให้พากันถือศีลปฏิบัติธรรมยกเลิกสิ่งภายนอกหมดน่ะ

 

ศาสนาพุทธก็ไปที่วัด ศาสนาคริสต์ก็ไปที่โบสถ์ ศาสนาอิสลามก็ไปที่มัสยิด เพื่อไปถือศีลปฏิบัติธรรมกัน สมัยโบราณกาลเค้าทำอย่างนี้แหละ

 

วัน ๗ ค่ำ ๘ ค่ำถือว่าเป็นวันพระน้อยให้ไปวัดกัน วัน ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำก็ให้ไปวัดกัน ไปถือศีลปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดถือศีลอุโบสถหรือว่าศีลอด ยกเลิกสิ่งที่อำนวยความสะดวกความสบาย ไปเจริญสติสัมปชัญญะอยู่ที่วัด

 

ยกเลิกโลกธรรม อยู่กับความสงบอยู่กับปัญญา อยู่กับปัญญาอยู่กับความสงบ

 

ถ้าไม่สะดวกไม่สบายก็พากันรักษาศีลปฏิบัติธรรมอยู่ที่บ้าน ให้อยู่กับสติอยู่กับสัมปชัญญะ ยกเลิกสิ่งที่อำนวยความสะดวกความสบาย ยกเลิกการดูหนังฟังเพลง ไปเที่ยวไปเตร่ ให้อยู่กับความสงบอยู่กับปัญญาอย่างนี้ มันเป็นหลักการเป็นอุดมการณ์อุดมธรรม

 

เราทั้งหลายต้องรู้ว่าเราทั้งหลายเป็นมนุษย์เป็นผู้ประเสริฐ ต้องเอาธรรมนำชีวิตเพราะลมปราณที่เราเป็นมนุษย์เป็นผู้ประเสริฐ เราต้องมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ เอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิต ยกเลิกวัฏฏสงสารที่เป็นตัวเป็นตน เพื่อเราทั้งหลายจะได้เข้าสู่หลักการ สู่อุดมการณ์อุดมธรรมน่ะ

 

เราทั้งหลายรู้เข้าใจในชีวิตที่ประเสริฐ

 

ผู้ที่มาบวชเป็นสามเณรอยู่ที่วัดนี้ก็พากันตั้งอกตั้งใจ ผู้ที่มาบวชเป็นพระอยู่ที่วัดก็ตั้งอกตั้งใจตั้งเจตนา เพราะชีวิตของเราทั้งหลายเป็นชีวิตที่ประเสริฐ

 

นักบวชทั้งหลายยกเลิกสิ่งภายนอกหมด เพื่อมาประพฤติปฏิบัติติดต่อต่อเนื่องกัน

 

การทำอะไรติดต่อต่อเนื่องเช่นระบบความคิดคำพูด การกระทำกิริยามารยาท  ถ้ามาประพฤติปฏิบัติติดต่อต่อเนื่องกันมันเป็นศีลที่ติดต่อต่อเนื่อง ด้วยความตั้งใจ ด้วยเจตนา มันก็จะเป็นสัมมาสมาธิโดยธรรมชาติ

 

เหมือนไก่ฟักไข่นี้แหละ ใช้เวลา ๓ อาทิตย์ จะฟักด้วยแม่ของไก่หรือฟักด้วยไฟฟ้าก็ใช้เวลา ๓ อาทิตย์เหมือนกัน ตามหลักเหตุตามหลักผลตามหลักวิทยาศาสตร์     

            

การทำอะไรติดต่อต่อเนื่องกัน ๓ อาทิตย์ มันจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี เป็นสัมมาสมาธิเป็นเอกัคคตาเป็นหนึ่ง เป็นมรรคเป็นอริยมรรค มันจะเป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญา มันจะหยุดสัญชาตญาณที่เป็นนิติบุคคลตัวตน หยุดเวียนว่ายตายเกิด เราต้องรู้เข้าใจ

 

หมู่มวลมนุษย์หรือว่าสัตว์ทั้งหลายที่เป็นแผลน้อย ๆ แผลไม่ใหญ่ก็ใช้เวลารักษา  ๑ อาทิตย์ ๒ อาทิตย์ ๓ อาทิตย์อย่างนี้เป็นต้น ถ้าแผลใหญ่ ๆ ก็ใช้เวลาหลายเดือนหลายปี

 

การประพฤติการปฏิบัติต้องรู้หลักการรู้อุดมการณ์อุดมธรรมในการประพฤติการปฏิบัติ

 

ช่วงนี้เป็นหน้าแล้งฤดูร้อนน่ะ พวกนักเรียนนักศึกษาทั้งหลายพากันเป็นผู้ที่โชคดีพากันมาบวชมาปฏิบัติให้ตั้งอกตั้งใจให้ภูมิใจในการประพฤติการปฏิบัติเพื่อเข้าสู่หลักการเข้าสู่อุดมการณ์อุดมธรรม เพื่อให้ชีวิตของเรามีพระนิพพาน ที่ติดต่อต่อเนื่อง ยกเลิกตัวตนติดต่อต่อเนื่องทั้งกายทั้งวาจาทั้งกิริยามารยาทั้งอาชีพยกเลิกตัวตนด้วยความตั้งใจด้วยเจตนาอย่างนี้ การบวชของเราจะได้สมบูรณ์ทุกแง่ ทุกมุมเลย ทั้งกายวาจากิริยามารยาททั้งอาชีพ ที่ท่านตรัสว่าสมบูรณ์ทั้งอรรถะทั้งพยัญชนะก็คือความสมบูรณ์ทุกแง่ทุกมุม

 

เรารู้เข้าใจ เราทั้งหลายน่ะต้องรู้เข้าใจ  เราทั้งหลายจะได้ปรับตัวเข้าหาธรรมะปรับตัวเข้าเวลา ข้อวัตรกิจวัตร มีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ การปฏิบัติมันเป็นความดีความถูกต้อง ให้เราพากันตั้งอกตั้งใจ

 

ไม่เป็นไรหรอก เราจะบวชไม่กี่วันก็ให้มันเป็นพระธรรมเป็นพระวินัยเป็นพระศาสนา

 

 

พูดถึงเรื่องความเป็นพระน่ะก็เป็นพระได้ทุก ๆ คนนั่นแหละ

 

ผู้ที่เป็นข้าราชการก็เป็นพระได้ผู้เป็นข้าราชนักการเมืองก็เป็นพระได้ ผู้ที่เป็นพ่อค้าประชาชนก็เป็นพระได้ ผู้ที่เป็นนักบวชทุก ๆ ศาสนาก็เป็นพระได้

 

ทุกคนให้เข้าใจเรื่องความเป็นพระ พระคือพระวินัยคือธรรมนูญรัฐธรรมนูญ ตั้งใจตั้งเจตนาให้สมบูรณ์ให้เป็นบริสุทธิคุณ ไม่มีตัวไม่มีตน มีปิติสุขเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติทุกคนก็เป็นพระได้

เราคิดดูดี ๆ นะ เราคิดดี ๆ ยกเลิกตัวตนมันก็เป็นพระแล้ว เราพูดดี ๆ ยกเลิกตัวตนมันก็เป็นพระแล้ว เรามีกิริยามารยาทดี ๆ ยกเลิกตัวตนมันก็เป็นพระแล้ว เราทำอาชีพดี ๆ ที่ไม่เบียดเบียนตนเองไม่เบียนเบียนคนอื่น เป็นอาชีพที่ยกเลิกตัวตนอาชีพนั้นก็เป็นพระแล้ว

 

การเป็นนิติบุคคลตัวตนถือว่าไม่ถูกต้อง ตัวตนนั้นถือว่าทุจริต ถ้ามีตัวมีตนก็ถือว่าทุจริต ไม่มีใครยกวัน ตัวตนนั้นแหละคือความไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม ไม่ยุติธรรม ไม่มีศีลไม่มีสมาธิไม่มีปัญญาเลย มีแต่ตัวตน

 

เราคิดดูดี ๆ นะที่ตึก สตง. มันพังทลายที่กรุงเทพฯ สาเหตุก็เพราะนิติบุคคลตัวตนนี้แหละ ทำไมตึกในกรุงเทพฯปริมณฑลมันก็มีหลายสิบตึกนะเค้าไม่พังทลายเหมือนตึก สตง. เพราะตึกเหล่านี้นเค้ามีการโกงกินน้อย ไม่ใช่ไม่มีการโกงกินนะ แต่ตึก สตง.มันโกงกินมากเกินไป

 

ความไม่ถูกต้องมันรองรับแผ่นดินไหวไม่ได้ เพราะกรรมมันหนัก

 

กรรมเป็นสิ่งที่มีจริง ความถูกต้องเป็นสิ่งที่มีจริง ความไม่ถูกต้องก็เป็นสิ่งที่มีจริง

 

ความไม่ถูกต้องนี้แหละมันเป็นความทุจริต มันก็พังทลายเหมือนตึก สตง.นี้แหละ

 

ความไม่รู้ไม่เข้าใจ ประเทศไทยของเรา ใครมาเป็นรัฐบาลก็อยากจะพากันตั้งแต่บ่อนคาสิโน ผู้มีปัญญาทั้งหลายให้พากันรู้เข้าใจนะ

 

พระพุทธเจ้าน่ะท่านบำเพ็ญพุทธบารมีเพื่อมายกเลิกอบายมุขอบายภูมิมายกเลิกบ่อนคาสิโน ศาสนาทั้งหลายทุกศาสนาในโลกนี้เพื่อมายกเลิกทุจริต มายกเลิกอบายมุขอบายภูมิทั้งหลาย  มายกเลิกบ่อนคาสิโนนะ มายกเลิกความหลง เพื่อมาเอาธรรมนำชีวิตเอาธรรมนูญนำชีวิตไม่เอาความหลงนำชีวิต

 

เราอย่าไปคิดอย่างมีปัญญาน้อยเหลือเกิน เราไปคิดว่าประเทศสิงคโปร์เค้ารวยเพราะเค้าตั้งบ่อนคาสิโน มาเก๊าประเทศจีนเค้ารวยเค้าตั้งบ่อนคาสิโน                    

เราคิดดูดี ๆ นะ ประเทศเค้ามีเนื้อที่นิดเดียวน่ะ อยู่กลางน้ำเป็นเกาะเล็ก ๆ  เค้าไม่มีที่ทำมาหากิน ไม่มีที่ทำไร่ทำนาทำสวนทำเกษตรกรเกษตรกรรมอุตสาหกรรม เค้าเลยทำมาหากินด้วยการตั้งบ่อนคาสิโน

 

เพราะในโลกนี้คนในโลกนี้น่ะ คนมีปัญญาน้อยมันมีมาก การที่ตั้งบ่อนคาสิโน เพื่อหากินกับผู้ที่มีปัญญาน้อย

ที่มาเก๊าประเทศจีนก็เหมือนกัน เค้าไม่มีแหล่งทำมาหากินเค้าอยู่กลางทะเล เค้าตั้งบ่อนคาสิโนเพื่อหากินกับอบายมุขอบายภูมิ มันเป็นความเห็นแก่ตัวมากที่สุด มันไม่ใช่ธรรมะไม่ใช่ธรรมนูญ ไม่ใช่รัฐธรรมนูญมันเป็นนิติบุคคลตัว

 

เราคิดดูดี ๆ พระมหากษัตริย์ไทยเราทุก ๆ พระองค์ที่จะมาเป็นพระมหากษัตริย์ เพื่อจะมายกเลิกอบายมุขอบายภูมิ ยกเลิกบ่อนคาสิโนนี้แหละ

 

ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ท่านมีชีวิตร่วมร้อยปี ท่านพาให้เราเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ รู้จักธรรมรู้จักธรรมนูญ รู้จักรัฐธรรมนูญ มาเอาธรรมนำชีวิตเอาธรรมนำชีวิตเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอเข้าถึงเศรษฐกิจพอเพียง

 

เราคิดดูดี ๆ สิ ถ้าเราเอาความสุขนำชีวิต ไม่เอาตัวตนนำชีวิตทุกคนก็มีความสุข อยู่แล้ว เพราะความสุขความดับทุกข์มันอยู่ที่เรามีสัมมาทิฐิ มีความเห็นถูกต้อง  เข้าใจถูกต้อง ปฏิบัติถูกต้อง เข้าใจธรรมะ มีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ  ไม่ต้องเอาความหลงนำชีวิต ต้องเอาปัญญานำชีวิต เพื่อเข้าถึงความบริสุทธิที่พวกเราทั้งหลายพากันเกิดมาเป็นมนุษย์

 

เราทั้งหลายพากันเข้าใจนะ เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งเราก็เป็นทาสของอวิชชาเป็นทาสของความหลง

 

ประเทศไทยนี้ ไทยนี้แปลว่ามายกเลิกความไม่ถูกต้อง เพื่อเอาธรรมนำชีวิตเอาธรรมนูญนำชีวิต ตามรอยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านบำเพ็ญพุทธบารมีเพื่อยกเลิกทาส ยกเลิกอวิชชาความหลง

 

ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านบำเพ็ญพุทธบารมีเพื่อมายกเลิกทาส  ทาสก็หมายถึงตัวตนยกเลิกชั้นวรรรณะ

 

สำคัญมั่นหมาย ว่าเราเป็นนิติบุคคลตัวตน

 

สำคัญมั่นหมายว่าเราเป็นหนุ่มเป็นสาวเป็นคนแก่คนเฒ่าคนชราหรือว่าคนตาย  

 

สำคัญมั่นหมายว่าเราเก่งกว่าเค้า ดีกว่าเค้า รวยกว่าเค้า มีเพาเวอร์มากกว่าเค้าหรือสู้เค้าไม่ได้ 

 

ท่านมายกเลิกชาติชั้นวรรณะอย่างนี้ มายกเลิกอบายมุขอบายภูมิ มายกเลิกบ่อนคาสิโนนี้แหละ

 

ให้เรารู้เข้าใจ เราอย่าคิดว่าจะเอาความหลงนำชีวิต หรือเอาบ่อนคาสิโนนำชีวิต มันไม่ถูกต้อง ต้องรู้ความถูกต้องความไม่ถูกต้องต้องเอาปัญญานำชีวิต ไม่ใช่เอาความหลงนำชีวิต ต้องรู้เข้าใจในชีวิตที่ประเสริฐนะ

 

เราทุกคนต้องพากันเข้าใจ

เราต้องพากันเข้าใจนะ

พากันแจ่มแจ้งนะ

ให้มีปัญญานะ

 

เอาตัวตนเป็นที่มันก็เป็นสัญชาตญาณ เป็นนิติบุคคลตัวตน

 

ตัวตนนี้แหละมันมีแต่ทุกข์เกิดขึ้นทุกข์ตั้งอยู่ ทุกข์ดับไป นอกจากทุกข์นี้ไม่มีนะ    

         

ตัวตนเท่านั้นแหละคือความทุกข์ ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านบอกเราทั้งหลายว่า ตัวตนนั้นแหละคือทุจริต

 

ไม่ต้องไปหาทุจริตที่ไหนหรอก ถ้าเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เรานี้แหละทุจริต

 

เราทั้งหลายต้องเอาธรรมนำชีวิตเอาธรรมนำชีวิต เน้นที่ใจที่เจตนา เราทั้งหลายจะได้หยุดสัญชาตญาณที่เป็นนิติบุคคลตัวตน เราทั้งหลายรู้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้พากันเป็นพระเหมือนกันทุก ๆ คน

 

ที่เค้าแต่งตั้งให้เป็นโน่นเป็นนี่ ให้รู้เข้าใจ ว่าเป็นตำแหน่งที่เราต้องทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์ด้วยปิติสุขเอกัคคตา ให้เอาตำแหน่งหน้าที่ไปประพฤติปฏิบัติ อย่าเอาตำแหน่งนั้นเป็นนิติบุคคลตัวตน เดี๋ยวมันจะพังทลายเหมือนตึก สตง.นี้แหละ

 

เราจะเสียชาติเกิดที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ เราไม่ได้ทำหน้าที่ของความเป็นมนุษย์ไม่ได้เอาธรรมธรรมนูญนำชีวิต เสียชาติเกิด

 

เราต้องรู้เข้าใจทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์ทุกแง่ทุกมุมเราต้องเอายศเอาตำแหน่งที่เค้าแต่งตั้งให้เราทำหน้าที่

 

เค้าแต่งตั้งให้เราเป็นอะไร ก็ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์

 

เหนื่อยกายไม่เป็นไรให้ใจเข้าถึงบริสุทธิคุณ เพื่อจะยกเลิกตัวตน เราทั้งหลายจะได้ทำหน้าที่ของเราสมบูรณ์

 

เราทั้งหลายก็เน้นมาที่ตัวเรานี้แหละ

 

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เน้นที่พระพุทธเจ้าทำพุทธกิจของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ได้ฟังพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าท่านก็เน้นที่ตัวของท่าน

 

เราทุกคนก็เน้นมาที่ตัวเรานี้แหละเน้นมาที่การประพฤติการปฏิบัติ

 

ชีวิตของเราทั้งหลายต้องก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจตั้งใจตั้งเจตนา

 

เราทั้งหลายอย่ามาอาศัยแบรนด์เนมที่เป็นข้าราชนักการเมือง เป็นนักบวชเพื่อมาหาอยู่หาหลง เราต้องรู้เข้าใจแล้วเอาตำแหน่งนั้นมาเสียสละ

 

ตำแหน่งที่เค้าแต่งตั้งให้มันไม่ใช่ตำแหน่งของเรานะ

 

ตำแหน่งของเราต้องรู้เข้าใจต้องเข้าสู่ภาคประพฤติปฏิบัติ เพื่อให้ตำแหน่งนั้นสมบูณ์นั้นถึงจะเป็นตำแหน่งที่เป็นบริสุทธิคุณ ชีวิตของเราถึงจะได้มีปิติสุขเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ

 

ความทุกข์ทั้งหลายมีไม่ได้หรอก ถ้าเรารู้เข้าใจ เพราะชีวิตของเรามันจะเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม มันจะมีแต่ปิติสุขเอกัคคตา

 

เราทั้งหลายต้องเอาความสงบนำชีวิตเอาปัญญานำชีวิต เอาความไม่สงบนำชีวิต ก็คือเอาตัวตนนำชีวิต เพราะตัวตนคือความไม่สงบความวุ่นวาย ต้องเอาธรรมนำชีวิต เอาความสงบนำชีวิต 

สงบด้วยความรู้ความเข้าใจมีปิติสุขเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติอย่างนี้

 

ต้องรู้เข้าใจชีวิตของเรามีความสงบยังไม่พอต้องมีความสุขน่ะ เพราะความสงบ มันเป็นเพียงสมาบัติน่ะ อย่างนี้แหละ

 

ความสงบมันก็ยังเป็นตัวเป็นตนอยู่นะ

 

เราต้องเอาปัญญาบริสุทธิคุณนำชีวิต ชีวิตของเราถึงจะเป็นมรรค เป็นอริยมรรคอย่างนี้แหละ

 

ความสงบหรือว่าความรู้ความเข้าใจในธรรมในธรรมนูญรัฐธรรมนูญ ถ้าเรามีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องมันจะเป็นความสงบอยู่ทุกแง่ทุกมุมน่ะ

 

เพราะความสงบมันก็มี ๓ ระดับ ความสงบจากศีลด้วยตั้งใจตั้งเจตนา ความสงบจากสมาธิยกเลิกนิวรณ์ทั้ง ๕ อคติทั้ง ๔ ยกเลิกสิ่งภายนอกหมด อยู่กับความสงบกับปัญญา อยู่กับปัญญาที่เหนือความสงบ อย่างนี้แหละเรียกว่าปัญญาบริสุทธิคุณ ไม่มีอะไรที่จะเป็นปรุงแต่งได้

 

เราต้องรู้เข้าใจในความสงบ ความสงบมันก็มีหลายระดับ ความสงบระดับพื้นฐานก็คือศีล ระดับกลางได้แก่สมาธิ ระดับสูงสุดรวมกันทั้งศีลทั้งสมาธิทั้งปัญญาด้วยความรู้ความเข้าใจในการประพฤติ

 

การประพฤติปฏิบัติ เราทั้งหลายต้องรู้จักว่าความรู้ความเข้าใจมันเป็นอริยมรรค จะยกเลิกสิ่งที่วุ่นวายด้วยความรู้ความเข้าใจ

 

เราทั้งหลายมารู้เรื่องโลกเรื่องธรรมเราจะเอาศีล เอาสมาธิเอาปัญญานำชีวิต ชีวิตของเราจะได้มีความสงบมีปัญญา มีปัญญาความสงบ ด้วยความรู้ความเข้าใจ อย่างนี้ เราทั้งหลายจะไม่ได้เอาศีลเอาสมาธิเอาปัญญาเป็นนิติบุคคลตัวตน

 

เอาศีลสมาธิปัญญาเป็นบริสุทธิคุณเรียกว่าทำความดีเพื่อความดี รักษาศีลก็เพื่อศีล ทำสมาธิเพื่อสมาธิ เจริญปัญญาเพื่อปัญญาเพื่อความถูกต้อง

 

เพราะทุกสิ่งทุกอย่างนั้นให้เข้าใจทุกอย่างนั้เนป็นประภัสสร ไม่ได้เอามาเพิ่ม ไม่ได้เอามาตัด รู้เข้าใจมีปิติสุขเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ

 

ชีวิตของเราน่ะจะได้ก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจ เรียกว่าก้าวไปด้วยศีลด้วยสมาธิด้วยปัญญา ไม่ไปตามสิ่งแวดล้อม

 

เหมือนว่าสงกรานต์เป็นการก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจ ไม่ใช่ด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้เข้าถึงพระนิพพานตั้งแต่ยังไม่ตาย พระนิพพานคือบ้าน ของเรานะ คือบ้านที่แท้จริงของทางจิตใจ

 

เราทั้งหลายมีบ้านที่อยู่ที่อาศัยทางภายนอกคือบ้านเคหะสถาน บ้านภายนอก

 

ความรู้ความเข้าใจบ้านของเราคือพระนิพพานคือศีลบริสุทธิคุณ สมาธิบริสุทธิคุณ ปัญญาบริสุทธิคุณ

เราทั้งหลายเป็นมนุษย์เป็นผู้ที่ประเสริฐน่ะต้องเอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิต

เหมือนท่านพุทธทาสภิกขุ ท่านเป็นคนดีของโลกของประเทศไทย หรือว่าเป็นพระดีของโลกของประเทศไทย ท่านพูดจากใจจากพระนิพพานว่า เราทั้งหลายต้องเอาพระนิพพานนำชีวิต เอาความถูกต้องนำชีวิต เอาความบริสุทธิคุณนำชีวิต เราทั้งหลายจะเป็นมนุษย์ได้เพราะความรู้ความเข้าใจ

 

เป็นมนุษย์  เป็นได้  เพราะใจสูง     

เหมือนหนึ่งยูง  มีดี  ที่แววขน

ถ้าใจต่ำ  เป็นได้  แต่เพียงคน        

ย่อมเสียที  ที่ตน  ได้เกิดมา

 

ใจสะอาด  ใจสว่าง  ใจสงบ           

ถ้ามีครบ  ควรเรียก  มนุสสา

เพราะทำถูก  พูดถูก  ทุกเวลา       

เปรมปรีดา  คืนวัน  ศุขสันติ์จริง

 

ใจสกปรก  มืดมัว  และร้อนเร่า      

ใครมีเข้า ควรเรียก  ว่าผีสิง

เพราะพูดผิด  ทำผิด  จิตประวิง     

แต่ในสิ่ง นำตัว กลั้วอบาย

 

คิดดูเถิด  ถ้าใคร  ไม่อยากตก                  

จงรีบยก  ใจตน รีบขวนขวาย

ให้ใจสูง  เสียได้  ก่อนตัวตาย                  

ก็สมหมาย  ที่เกิดมา อย่าเชือน เอย ฯ

 

การประพฤติการปฏิบัตินี้ให้เอาธรรมนูญเป็นหลัก ทุก ๆ ศาสนานั้นก็มีหลักการ ไปทางเดียวกันนี้แหละคือธรรมนูญชีวิตศาสนาก็มีมรรคผลนิพพานพอ ๆ กันนั่นแหละ ชื่อมันต่างกันเฉย ๆ น่ะ แต่หลักการของพระศาสนาก็คือธรรม ธรรมนูญ รัฐธรรมนูญ นี้แหละ

 

เรารู้เข้าใจเรายกเลิกตัวตนถึงจะมีพระศาสนามีพระนิพพานเป็นบ้านอยู่อาศัย

พระนิพพานคือบ้านที่แท้จริงให้รู้เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ  พวกเราทั้งหลายให้เน้นมาที่ตัวเรา

เหมือนหลวงปู่ชา สุภัทโท ท่านตรัสกับพระภิกษุสามเณร ตรัสกับประชาชนทั้งหลายว่า ผมนี้นะรู้ธรรมะ เข้าใจธรรมะ ปฏิบัติธรรมะ เน้นที่ของท่านเอง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ บอกสอนบุคคลอื่น ๕ เปอร์เซ็นต์เท่านั้นนะมันถึงพอไปได้             

 

เราทั้งหลายอย่าไปแก้แต่คนอื่น อันนั้นมันปลายเหตุ เราต้องแก้ที่เรานี้แหละ เพราะการประพฤติการปฏิบัติมันอยู่ที่เรา อยู่ที่ความตั้งใจตั้งเจตนา

 

ให้รู้เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ

 

ให้ระลึกถึงโอวาทของหลวงปู่มั่น ที่ตรัสกับพวกเราทั้งหลายว่า

ความไม่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และแน่นอน

ความยิ่งใหญ่ คือความไม่ยั่งยืน

ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ คือชีวิตที่อยู่ด้วยทาน ศีล เมตตา และกตัญญู

ชีวิตที่มีความดี อาจมิใช่ความยิ่งใหญ่ แต่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ต้องอาศัยคุณธรรมความดีเท่านั้น

 

ขออนุโมทนากับท่านทั้งหลายนะ ที่เป็นทั้งคนดีคนมีปัญญา เป็นคนมีปัญญา เป็นคนดีเป็นผู้ที่ประเสริฐมาก

ให้ระลึกถึงโอวาทพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ท่านเป็นห่วงพวกเราทั้งหลายท่านจึงตรัสโอวาทในวาระสุดท้ายก่อนที่จะละธารุวางขันธ์ เสด็จดับขันธ์สู่ปรินิพพานไว้ว่า

 

“สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา

ท่านทั้งหลายจงยังประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด”

การบรรยายพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องในวันสงกรานต์สุดท้ายของวันหยุดราชการของประเทศไทย ก็เห็นสมควรแก่เวลา ขอยุติไว้เพียงเท่านี้ เอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้

----------------------------------

โอวาทขององค์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม

เมตตาให้ไว้ในเช้าวันที่ ๑๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘

ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

รายการล่าสุดที่คุณดู
Visitors: 91,926