๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘

 

วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ ของศาสนาพุทธ คริสต์ศักราช ๒๐๒๕ ของศาสนาคริสต์ ฮิจเลาะห์ศักราช ๑๔๔๖ ของศาสนาอิสลาม

หลังจากหยุดวันสงกรานต์ของส่วนราชการ วันที่ ๑๓-๑๖ เมษา  เป็นเวลา ๔ วัน

การประพฤติการปฏิบัติของเราเป็นอริยมรรคไม่มีหยุดไม่มีไป ชีวิตของเราเปรียบเสมือนธนาคารนี้แหละ เรามายืมเงินธนาคารเมื่อไหร่ดอกเบี้ยธนาคารนั้นไม่มีวันหยุด

ชีวิตของเรามันเป็นรายรับรายจ่าย ทั้งกายวาจาใจกิริยามารยาทอาชีพน่ะ ชีวิตของเราเป็นรายรับรายจ่าย ปัญญาสัมมาทิฐิที่เป็นองค์มรรค เป็นความรู้คู่กับ การประพฤติการปฏิบัติ เพื่อรายรับรายจ่ายจะได้สมดุลกัน

เราทั้งหลายมารู้แจ้งโลกมารู้แจ้งธรรม มาเข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ ตั้งใจตั้งเจตนา ไม่ประมาท ไม่หลง ไม่เพลิดเพลิน มีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อเอาความถูกต้องนำชีวิต

เน้นที่ตัวเรานี้เอง เน้นที่ปลีแข้งของเราเอง เราทั้งหลายน่ะถึงต้องเป็นทั้งคนเก่งคนฉลาดเป็นทั้งดีน่ะ มารวมอยู่ที่ตัวเรานี้เอง เป็นหนึ่งเป็นเอกในการประพฤติการปฏิบัติ

เพื่อการประพฤติการปฏิบัติของเราจะได้ชัดเจน เพื่อเราทุกคนจะได้เอาธรรมนำชีวิต เพื่อหยุดความไม่ถูกต้อง ประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง มีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ มีปิติในการประพฤติการปฏิบัติ มีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อรายรับรายจ่ายของเราจะได้สมบูรณ์

ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านบอกพวกเราทั้งหลายต้องสมบูรณ์ทั้งอรรถะทั้งพยัญชนะด้วยความรู้ความเข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ

การประพฤติการปฏิบัติน่ะถึงเป็นคู่กับเราจนกว่าจะหมดอายุขัย

อายุขัยของพวกเราสมัยปัจจุบันนี้เราพัฒนาวิทยาศาสตร์ พัฒนาเทคโนโลยีเราพัฒนาใจไปพร้อม ๆ กัน อายุขัยของเราน่ะอยู่ได้ร่วมร้อยปี หนึ่งทศวรรษนะอยู่ร่วมร้อยปี อาจจะมากกว่านั้นอีก

เราทั้งหลายน่ะพากันมามีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เพราะเรามีโอกาสมีเวลาที่สร้างความดีที่ประกอบด้วยปัญญา เป็นบารมีเบื้องต้น  อย่างกลาง อย่างสูงน่ะ เป็นบารมี ๑๐ ทัศ ๒๐ ทัศ ๓๐ ทัศ

เราทั้งหลายต้องตั้งใจตั้งเจตนาให้จิตใจเป็นหนึ่งเป็นเอกัคคตา อยู่กับความว่างจากตัวตนน่ะ หยุดด้วยความรู้ด้วยความเข้าใจ หยุดด้วยศีลด้วยสมาธิด้วยปัญญาเข้าสู่ความวิเวกด้วยความรู้ความเข้าใจ

พระธรรมพระวินัยเป็นสมมติสัจจะมีหลายล้านสมมติ ให้เราพากันมีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ เพราะว่าพระธรรมพระวินัยเป็นคุณเป็นอุปการะคุณทำให้เราหยุด ทำให้เรายกเลิกสิ่งไม่ถูกต้อง ทำให้เราทำในสิ่งที่ควรทำ ยกเลิกในสิ่งที่ควรยกเลิกด้วยความรู้ความเข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ

ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสกับพวกเราทั้งหลายว่าเธอทั้งหลายนะ อย่าได้ประมาท ต้องตั้งอกตั้งใจตั้งเจตนา ให้มีปิติมีสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติอย่าไปประมาท เพราะทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมันต้องหยุดด้วยความรู้ ความเข้าใจ ด้วยการประพฤติการปฏิบัติที่เป็นมรรคเป็นอริยมรรค

ให้พากันรู้เข้าใจ เธอทั้งหลายอย่าพากันประมาท ความประมาทมันเป็นความด่างความพร้อยคือมันเป็นปมด้อยที่เราประมาทขาดตกบกพร่อง

ต้องเอาธรรมนำชีวิตเอาพระธรรมพระวินัยนำชีวิต พากันมีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ ไม่มีอะไรจะดีจะประเสริฐยิ่งกว่าการประพฤติการปฏิบัติ

ให้พวกเราทั้งหลายเน้นมาที่ตัวของเราเองเราต้องรู้ต้องเข้าใจการประพฤติการปฏิบัติ เราทั้งหลายจะไม่ไปตามสิ่งแวดล้อม เราต้องหยุดด้วยความรู้ความเข้าใจด้วยปิติสุขเอกัคคตาด้ วยพระธรรมพระวินัยนำชีวิต

ให้พวกเราเข้าใจอย่าได้ไปเพลิดเพลิน อย่าได้ไปประมาท เพราะรูปทั้งหลายนั้นมันไม่จบ เสียงมันไม่จบ กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์สิ่งที่มากระทบทั้งหลายมันไม่จบ เราต้องรู้เข้าใจ ต้องเอาพระธรรมพระวินัยมามีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ

ให้พวกเราทั้งหลายมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ ไม่มีอะไรจะมีความสุขยิ่งกว่าความถูกต้อง

เราต้องกลับมาหาความถูกต้องด้วยปัญญาบริสุทธิคุณ เราต้องกลับมาหาความถูกต้องกลับมาหาพระนิพพานบ้านที่แท้จริง อวิชชาความหลงน่ะมันไม่ใช่ความถูกต้อง ไม่ใช่บ้านที่แท้จริงของเรานะ

เราทั้งหลายอย่าไปหลงอย่าไปเพลิดเพลินอย่าไปประมาท ให้เอารูปเอาเสียงเอากลิ่นรสโผฏฐัพพะธรรมารมณ์นี้มาเป็นข้อตอบและตอบด้วยการประพฤติการปฏิบัติ มีความสุขมีปิติมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ ต้องก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ

ปริยัติกับปฏิบัติต้องคู่กันแยกกันไม่ได้ เพราะการประพฤติการปฏิบัตินี้มันจะเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม มันจะเป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญาอยู่ในปัจจุบันนี้ เพราะอดีตก็มาที่ปัจจุบันนี้แหละ อนาคตที่ยังมาไม่ถึงก็เป็นฐานอยู่ที่ปัจจุบัน

เราต้องรู้กระบวนการแห่งการเวียนว่ายตายเกิด เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปมันถึงมี เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ

ศาสนาคือธรรมะ ธรรมะคือพระศาสนา

ในโลกนี้มีชื่อหลายชื่อนะ พระศาสนามีหลายชื่อ ชื่อศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาพราหมณ์ฮินดูอะไรต่าง ๆ นั้นคือชื่อ แต่พระศาสนาคือธรรมะ ธรรมะคือพระศาสนา

เราทั้งหลายต้องเอาธรรมนำชีวิต เอาพระศาสนานำชีวิตอย่าเอาความหลงนำชีวิตอย่าเอาตัวตนนำชีวิต เอาตัวตนนำชีวิตมันไม่ได้ มันจะพังทลายเหมือตึก สตง.นี้แหละ

รู้มั๊ยเห็นมั๊ย ตึก สตง.ของประเทศไทย แผ่นดินไหวที่ประเทศพม่าที่เมืองมัณฑะเลย์ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวมันอยู่ที่นั่น ประเทศไทยอยู่ห่างไกลร่วมพันกิโลเมตร

ตึก สตง.อยู่ห่างไกลก็ต้องพังทลายเพราะความไม่ถูกต้อง เอาตัวตนเป็นที่ตั้งคือความไม่ถูกต้อง เอาตัวตนเป็นที่ตั้งคือทุจริต ทุจริตนั้นคือตัวตน

ตึกทั้งหลายน่ะมีอยู่ในกรุงเทพฯในปริมณฑลของกรุงเทพฯ มีตั้งหลายสิบตึกสูงกว่าตึก สตง.แต่ก็ไม่พังทลาย ไม่ใช่ว่าไม่โกงกินนะ โกงกินน้อย โกงกินไม่มากเท่ากับตึก สตง.

ด้วยเหตุด้วยปัจจัยเอาตัวตนเป็นที่ตั้งชีวิตของเรามันก็พังทลายเหมือนตึก สตง.นี้นะ

ให้พวกเราทั้งหลายรู้เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านถึงบอกให้พวกเราทั้งหลายว่า

เราอย่าไปหลงอย่าไปเพลิดเพลินอย่าไปประมาท เพราะทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมันหมุนเป็นวงกลมเหมือนดวงอาทิตย์หมุนรอบตัวเอง เป็นกลางวัน ๑๒ ชั่วโมง กลางคืน ๑๒ ชั่วโมง หมุนรอบตัวเอง เราต้องรู้เข้าใจ เราจะไม่ได้ไปตามอวิชชา ไปตามความหลงน่ะ

เราทั้งหลายจะได้หยุดอวิชชาความหลงด้วยความรู้ความเข้าใจ ด้วยการประพฤติการปฏิบัติ เพราะการประพฤติการปฏิบัติไม่มีใครทำให้เราได้ ปฏิบัติให้เราได้ เราต้องปฏิบัติด้วยปลีแข้งของเราเอง ด้วยการประพฤติการปฏิบัติของเราเอง

เราทั้งหลายมีโอกาสมีเวลาพอ ๆ กันนั่นแหละ ให้รู้เข้าใจ

วันหนึ่งคืนหนึ่งมนุษย์เราทั้งหลายนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะว่าการนอนการพักผ่อนต้องให้เพียงพอ อย่างอยู่ในชนบทมีโอโซนดีมีอากาศดี พักผ่อนน้อยนอนน้อยก็เพียงพอ ถ้าอยู่ในปริมณฑลอยู่ที่เมืองหลวงผู้คนไปรวมกันมาก เพราะศูนย์กลางแห่งความเจริญอยู่ที่นั่น มีประชากรเยอะ รถเยอะ ค่าพีเอ็มสูง การนอนการพักผ่อนก็ต้องมากกว่าที่มันไม่เจริญน่ะ เพราะอากาศไม่ดี ถึงจะพัฒนาเทคโนโลยีติดแอร์คอนดิชั่นแต่โอโซนมันไม่ดี ค่าพีเอ็มสูงน่ะ

มนุษย์ของเราต้องพากันมีสัมมาทิฐิ มีความเห็นถูกต้องมีความเข้าใจถูกต้อง ปฏิบัติถูกต้อง เพื่อเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ พากันรู้ความจริง พากันรู้สิ่งที่ถูกต้องและสิ่งไม่ถูกต้อง ต้องรู้จักเวลารู้จักการประพฤติการปฏิบัติ

เน้นมาที่ตัวของเรานี้แหละ ไม่ต้องไปเน้นที่คนอื่น เน้นมาที่ตัวของเราเองเข้าสู่ความว่างจากตัวจากตน มีความสงบให้มากให้เพียงพอ มีความสุขให้เต็มที่มีปัญญาให้เต็มที่ ต้องเป็นทั้งคนเก่งคนฉลาดและเป็นคนดีไปพร้อม ๆ กันอยู่ในทุกหนทุกแห่งทุกกาลทุกสถานที่ นี้มันเป็นความดีเป็นบารมีของเราทุก ๆ คนนะ เราทั้งหลายต้องเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ

เราทั้งหลายอย่าไปทิ้งความถูกต้องอย่าไปทิ้งความดี ต้องก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ อยู่ที่ไหนก็พากันปฏิบัติที่นั่น

ให้เข้าใจเรื่องการประพฤติการปฏิบัติ ต้องเน้นที่ปัจจุบัน มีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ

ผู้ที่เรียนหนังสือก็ต้องมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติให้เต็มที่

ผู้ที่ทำงานก็ต้องมีความสุขในการทำงานให้เต็มที่

ถ้าเราไม่มีความสุขในการเรียนหนังสือเราก็มีความทุกข์ ความทุกข์ก็คือความซึมเศร้า โรคซึมเศร้ากับโรคตัวโรคตนมันคืออันเดียวกันนะ ตัวตนนี้คือความทุกข์ตัวตนนี้คือความซึมเศร้าตัวตน คือความเศร้าหมอง คือความไม่ผ่องใส ตัวตนคือไม่ใช่ความเป็นประภัสสร คือความเศร้าหมองคือซึมเศร้า ความซึมเศร้าโศรกเศร้าน่ะ

เราทั้งหลายเอาตัวตนนำชีวิตทุกคนก็เป็นโรคซึมเศร้านะ 

เราจะมีประโยชขน์อะไรการเรียนการศึกษาเพื่อความทุกข์น่ะ การทำงานเพื่อความทุกข์ เพื่อซึมเศร้าเพื่อเป็นโรคซึมเศร้า

เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ จะได้มีความสุขในการเรียนหนังสือในการทำงาน จะได้มีความสุขในการคิดดี ๆ พูดดี ๆ กิริยามารยาทดี ๆ อาชีพที่ต้องยกเลิกตัวตน

ทุกคนน่ะรู้แก่ใจของตัวเองอยู่แล้ว การประพฤติการปฏิบัตินี้ท่านถึงให้เน้นเรื่องจิตเรื่องใจเน้นที่เจตนา

เราเอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้งนั่นคือความไม่ถูกต้อง  

เราต้องมีความสุขในการยกเลิกตัวตนด้วยความรู้ความเข้าใจ ถึงมันจะอร่อยมันจะแซบจะลำจะนัวจะหรอย เราก็ต้องยกเลิก ต้องหยุดต้องปล่อยต้องวาง เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ มีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อเราจะได้มีความสุขกันในการดำรงชีพดำรงธาตุดำรงขันธ์ดำรงอายตนะ ด้วยความรู้ความเข้าใจ

เราทั้งหลายจะได้รู้จักข้อสอบเราจะได้รู้จักข้อตอบด้วยการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อก้าวไปด้วยความสงบด้วยปัญญา

ชีวิตของเราจะได้ผ่านไปด้วยความรู้ความเข้าใจ เราจะไม่ได้หลงไหลไปตามอายตนะ ตาหูจมูกลิ้นกายใจ เราจะไม่ได้หลงไหลไปตามสิ่งแวดล้อม เราจะได้เข้าสู่ข้อสอบข้อตอบ มีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ

เรานอนเราพักผ่อนให้พอ มนุษย์เราต้องมีความสุขนะ สุขด้วยปัญญา ไม่ได้สุขเพราะความหลงน่ะ เรามีตามันก็เป็นธรรมดาน่ะ ให้เรารู้เข้าใจ เมื่อเรามีตามันก็มีรูป เมื่อเรามีหูก็มีเสียง มีจมูกก็มีกลิ่น เรามีลิ้นก็มีรส เราก็มีกายก็มีสัมผัส เรามีกายก็มีจิตเราต้องรู้เข้าใจ

เราทั้งหลายต้องรู้ว่าอันนี้เป็นธรรมเป็นสภาวธรรมเป็นประภัสสรของสิ่งภายนอกภายใน

เราต้องเข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ

เราทั้งหลายจะได้ยกสิ่งเหล่านี้เข้าสู่พระไตรลักษณ์ ว่าอันนี้คือผัสสะภายนอกภายในกระทบกันสัมผัสกัน

เรามีตาหูจมูกลิ้นกายใจ เราต้องมีปัญญา เราทั้งหลายจะได้บริโภคทุกสิ่งทุกอย่างด้วยสติด้วยปัญญา เราทั้งหลายจะไม่ได้บริโภคทุกอย่างนั้นด้วยความหลง

เราทุกคนพากันมาเน้นที่ตัวเรานี้แหละ

การประพฤติการปฏิบัติให้เข้าใจเรื่องการประพฤติการปฏิบัติ ถ้าอย่างนั้นมันก็จะพลัดถิ่นไปตามอายตนะ ไปตามตาหูจมูกลิ้นกายใจเค้าเรียกว่าพลัดถิ่น

เป็นคนทิ้งบ้านที่แท้จริงคือทิ้งพระนิพพาน เป็นคนพลัดถิ่น เป็นคนโฮมเลสเป็นคนไม่มีบ้าน เป็นผู้ไม่มีพระนิพพาน

เราต้องรู้จักบ้านรู้จักพระนิพพาน รู้จักบ้านที่แท้จริง

เราคิดดูดี ๆ สิ ความไม่รู้ไม่เข้าใจเราทิ้งความถูกต้องน่ะ เรามองภายนอกเราไม่รู้ไม่เข้าใจ เราก็เป็นคนพลัดถิ่น เราก็ทิ้งความถูกต้อง ทิ้งสถานที่ ทิ้งบ้าน ทิ้งพ่อทิ้งแม่ที่แก่เฒ่าชรา ทิ้งคนพิกลพิการ พลัดถิ่นไปหากินต่างแดน

เราทั้งหลายต้องเข้าใจนะว่าเราเอาความหลงนำชีวิต เรามีความสุขในการเอาตัวตนนำชีวิต เราเป็นคนพลัดถิ่น ชีวิตอยู่กับความวุ่นวาย ชีวิตไม่ได้อยู่กับความสงบน่ะ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านบอกเราทั้งหลายว่า  สิ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้นมันมีอยู่ ให้เรารู้เข้าใจ เราจะได้เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ เราจะได้เป็นผู้มีศีลเป็นพื้นเป็นฐานน่ะ ศีลนี้ถึงเป็นกรรมเป็นกฎของกรรมเป็นกฎแห่งกรรมน่ะ

เราต้องเข้าสู่ฐานคือธรรมะ คือพระธรรมคือพระวินัย เพราะทุกอย่างนั้นคือเหตุคือปัจจัย เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ ทำความสงบของเราให้เพียงพอ การพักผ่อนของเราให้เพียงพอ เมื่อความสงบของเราเพียงพอการพักผ่อนของเราเพียงพอให้เรารู้เข้าใจด้วยปัญญา

ความสงบคือการพักผ่อนน่ะ ปัญญาคือการทำงาน

เราทั้งหลายถึงอย่าไปติดแค่ความสงบ อย่าไปติดแค่สมาธิ อย่าไปติดแค่สมาบัติ

เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ ถ้าไม่อย่างนั้นเราจะเอาตัวตนนำชีวิต หรือว่าเอาสมาธิเป็นพระนิพพานไป เอาสมาบัติเป็นพระนิพพานไปมันจะเป็นนิติบุคลตัวตน

เราคิดดูดี ๆ นะ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันจะติดอยู่หลงอยู่ที่เราทุกคนมีตัวมีตนมันเลยติด มันติดในความสุขติดในความเป็นนิติบุคคลตัวตน ตัวตนน่มันจะมีความเกียจคร้าน ตัวตนมันถึงไม่มีศีลไม่มีสมาธิไม่มีปัญญา ตัวตนนั้นแหละมันทำให้เราทุกคนไม่เสียสละ

เราคิดดูดี ๆ น่ะ ตำแหน่งเค้าแต่งตั้งให้เป็นนักบวชก็ดี ให้เป็นข้าราชการนักการเมืองก็ดี ใหม่ ๆ มันก็ขยันน่ะ เมื่อเอาตัวตนเป็นที่ตั้งหลายวันหลายปีทุกคนก็ล้วนแต่เป็นคนขี้เกียจขี้คร้านไม่เสียสละ

เราคิดดูดี ๆ นะ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านทรงบรรทมพักผ่อนวันหนึ่ง ๔ ชั่วโมง ท่านเสียสละเพื่อบุคคลอื่น เพื่อเป็นผู้ให้ผู้เสียสละวัน ๒๐ ชั่วโมงนะ

ท่านรู้แจ้งท่านไม่ติดในความสะวดกความสบายท่านเสียสละ ท่านก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจ

เราพากันคิดดูดี ๆ นะข้าราชการทั้งหลายที่มาเป็นข้าราชการใหม่ ๆ ก็ขยันดีแต่นาน ๆ ไปขี้เกียจทุกคนเลย

ผู้ที่มาบวชทั้งหลายใหม่ ๆ นี้ดี นาน ๆ ไปหลายปีขี้เกียจทุกคนเลย

เรามองดูสิ วัดไหนก็สกปรกน่ะ ห้องน้ำห้องสุขาที่อยู่ที่อาศัยก็สกปรก ส่วนราชการส่วนอะไรต่าง ๆ ก็สกปรกน่ะ มันแก้ที่ปลายเหตุ ไปจ้างภารโรงไปจ้างอะไรต่าง ๆ ไปจ้างกรรมกร

ที่จริงแล้ว หมู่มวลมนุษย์ถ้ารู้เข้าใจเรื่องศีลเรื่องสมาธิเรื่องปัญญา มันจะไม่มี    ความขี้เกียจนะ มันจะไม่มีชนชั้นระหว่างกรรมกรกับนายทุนนะ มันจะพอดีลงตัวกันน่ะ เพราะมนุษย์เราเป็นผู้ที่มีสัมมาทิฐิมีความเห็นถูกต้อง เข้าใจถูกต้อง ปฏิบัติถูกต้อง มีความสุขในการทำงานในการเสียสละไม่เอาความหลงนำชีวิต เพราะเรายกเลิกตัวตน สิ่งภายนอกมันก็สะอาด กายวาจากิริยามารยาทอาชีพมันก็สะอาด ยกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้องมันเป็นบริสุทธิคุณทั้งกายวาจากิริยามารยาททั้งอาชีพ มันเป็นความสะอาดสว่างสงบ ไม่ฝ้าไม่ฟาง สว่างจ้าสว่างไสวทั้งภายนอกภายใน

 

ให้พวกเรารู้เข้าใจ ว่าเราเป็นคนเก่งคนฉลาดเราต้องเป็นคนดีอย่าเป็นนิติบุคคลตัวตน เดี๋ยวมันจะขี้เกียจขี้คร้าน มันจะไปเอาความสุขจากผู้อื่น ไปเอาของคนอื่นเราไม่ได้เป็นผู้ให้ไม่ได้เป็นผู้เสียสละ

เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ ความสงบน่ะมันดีมันเป็นพื้นฐาน เราต้องรู้เข้าใจในการพักผ่อน เรามีความจำเป็นที่จะต้องพักผ่อน เพราะการเดินทางชีวิตของเรามันเดินไปทั้งทางกายทั้งทางใจไปพร้อม ๆ กัน เราต้องเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ รู้เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ

เราคิดดูดี ๆ นะ พวกที่ติดสมาธิหรือติดตัวตนพวกนี้จะขี้เกียจขี้คร้าน พวกนี้จะสมองช้า พวกนี้จะไม่เสียสละ พวกนี้จะเป็นตัวเป็นตน เรียกว่าพวกนี้จะเป็นพรหมลูกฟัก

ความสงบ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจมันจะเป็นหินทับหญ้าหรือเป็นพรหมลูกฟัก มันเป็นนิติบุคคลตัวตน พรหมลูกฟักก็หมายถึงเอาแต่ความสงบไม่เอาปัญญา เอาแต่ความสงบไม่เอาปัญญา มันก็ไม่ใช่มรรค ไม่ใช่อริยมรรค มันเป็นมรรคสมาธิแต่มันไม่ใช่สัมมาสมาธิมันเป็นนิติบุคคลตัวตนให้ทุกคนเข้าใจ

เราทั้งหลายต้องเอาทั้งความสงบเอาทั้งปัญญา

เราคิดดูดี ๆ สิความสงบกับปัญญามันต้องเสมอกันนะ อย่างเอาปัญญามากมันก็ไม่ได้ ปัญญาก็ให้เต็มที่ ความสงบก็ให้เต็มที่ไปพร้อม ๆ กัน

เราคิดดูดี ๆ น่ะ มีปัญญามากก็ไม่เอาความสงบไปพร้อม ๆ กัน เพราะความสงบมันเป็นความว่าง ว่างจากอดีตอนาคต ปัจจุบันก็ว่างจากตัวตน ความสงบที่เป็นสัมมาทิฐิ

พวกที่คงแก่เรียนทั้งหลายพวกนี้ถึงพากันใช้ยานอนหลับใช้สารเคมีกันมาก เพราะปัญญากับสมาธิไม่สมดุลกัน มันเอาตัวตนนำชีวิตไม่เอาปัญญานำชีวิต ไม่เอาธรรมะนำชีวิต

เราต้องมีบ้านก็คือพระนิพพานต้องมีความสงบมีปัญญา มีปัญญามีความสงบ

เรามีรถก็มีที่จอดรถ เรามีเครื่องบินเราก็ต้องมีสนามบินเป็นรันเวย์ เราต้องมีที่จอดน่ะ เราต้องรู้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้มีทั้งปิติมีความสงบมีเอกัคคตามีปัญญาก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ

เราหยุดราชการสงกรานต์น่ะ เราเข้าสู่ภาคปฏิบัติภาคทำงาน พวกเราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ เราจะได้พากันประพฟติพากันปฏิบัติธรรมกัน เพราะชีวิตของเราคือการล่วงไป ก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจด้วยการประพฤติการปฏิบัติเพื่อจะเข้าถึงประโยชน์ของตัวเองประโยชน์ของส่วนรวมประโยชน์ของมหาชน

เราทั้งหลายไม่ต้องเอาความสุขจากคนอื่นให้เข้าใจอย่างนี้ เราเน้นมาที่ตัวเรานี้แหละ ให้เข้าถึงความพอดีความพอเพียง

เราคิดดูดี ๆ นะ ตัวตนน่ะเป็นคนมีความทุกข์ใจก็เพราะเอาตัวตนเป็นที่ตั้งไม่มีความสุขในการเรียนหนังสือ ไม่มีความสุขในการทำงาน มันเลยทุกข์ทั้งทางกายทุกข์ทั้งทางใจ ด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ

เป็นคนรวยทำการทำงานเรียนหนังสือก็เพื่อตัวเพื่อตน ความรวยคนเก่งคนฉลาดมีตัวมีตนมันก็มีความทุกข์พอ ๆ กันนั่นแหละ ถ้าเอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันไม่อิ่มไม่เต็มอย่างที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสกับพวกเราทั้งหลายว่า ไม่อิ่มไม่พอ  ไม่เต็ม มันบกพร่องอยู่เป็นนิจ เพราะตัวตนนั้นมีแต่ทุกข์เกิดขึ้นทุกข์ตั้งอยู่ทุกข์ดับไปนอกจากทุกข์ไม่มี

เราทั้งหลายต้องพากันรู้เข้าใจแล้วพากันเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ เพื่อเข้าสู่ความสมดุลรายรับรายจ่ายในการประพฤติการปฏิบัติเพื่อไม่ให้ขาดตกบกพร่อง

เน้นที่ปัจจุบันเป็นการประพฤติการปฏิบัติ

ตำแหน่งความถูกต้อง ตำแหน่งพระรัตนตรัย อย่าเอาความหลงนำชีวิต อย่าเอาความฟุ้งซ่านนำชีวิต รู้จักอันไหนถูกต้องอันไหนไม่ถูกต้อง

เราต้องรู้ว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่มันดีมาก เราต้องรู้เข้าใจ ที่อำนวยความสะดวกเรื่องโทรศัพท์เรื่องคอมพิวเตอร์ไอทีอะไรต่าง ๆ เราต้องรู้เข้าใจ เพื่อเราจะได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ เราอย่าไปหลงอย่าไปเพลิดเพลินให้พากันเจริญสติสัมปชัญญะ เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติพากันตั้งมั่นในพระรัตนตรัยกัน อย่าเอาแต่วัตถุ เอาแต่วิทยาศาสตร์ต้องเอาเรื่องจิตเรื่องใจไปพร้อม ๆ กันด้วยความรู้ความเข้าใจ

พากันยกเลิกตัวตนมีความสุขในการทำงาน เราจะได้เข้าสู่ความว่างจากตัวตนพากันนั่งสมาธิเช้าเย็น เพื่อจิตใจของเรามันจะได้ว่างจากอดีต อนาคตปัจจุบันก็ว่างจากตัวตน เพราะเราจะพัฒนาพระนิพพานบ้านที่แท้จริงของเราทุกค เพื่อการประพฤติการปฏิบัติของเรามันติดต่อต่อเนื่องกัน

เพราะไม่มีใครเหนือความถูกต้องเหนือกฎของกรรมเหนือกฎแห่งกรรม เราทุกคนมีกรรมเป็นผู้ให้ผลมีกรรมเป็นแดนเกิดเราต้องรู้เข้าใจ

ขออนุโมทนากับท่านทั้งหลายที่เป็นทั้งคนดีคนมีปัญญา คนมีปัญญาคนดี

Visitors: 91,926