๑๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๑๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ ของศาสนาพุทธ คริสต์ศักราช ๒๐๒๕ ของศาสนาคริสต์ ฮิจเลาะห์ศักราช ๑๔๔๖ ของศาสนาอิสลาม
การประพฤติการปฏิบัติเราต้องโฟกัสมาที่ตัวของเราเองประพฤติปฏิบัติด้วยปลีแข้งของเราเอง โดยอาศัยสมมติสัจจะ อาศัยพระธรรมอาศัยพระวินัย อาศัยธรรม อาศัยธรรมนูญ เป็นหลักการในการประพฤติการปฏิบัติ
เราน่ะจะได้เป็นทั้งคนดีคนฉลาด เป็นทั้งคนฉลาดเป็นทั้งคนดี เพื่อเอาความรู้ความเข้าใจเป็นข้อวัตรเป็นปฏิบัติ
ที่เค้าเรียนหนังสือตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาเอก เป็นการวัดความรู้คู่กับการประพฤติคู่กับการปฏิบัติ ความรู้ต้องคู่การประพฤติการปฏิบัติต้องเป็นความรู้คู่กับการปฏิบัติ
ปริยัติกับการปฏิบัติต้องคู่กัน เพื่อให้เป็นวัตรเป็นข้อวัตรปฏิบัติของเราทุก ๆ คน เพื่อชีวิตของเราจะได้สมบูรณ์ด้วยความรู้ความเข้าใจ สมบูรณ์ทั้งอรรถะทั้งพยัญชนะ
ให้พวกเราเข้าใจ ให้ทุกคนรู้ข้อวัตรข้อปฏิบัติ อย่าเอาความประมาทอย่าเอาความหลงความเพลิดเพลิน
ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสกับพวกเราทั้งหลายว่า เธอทั้งหลายอย่าพากันประมาท ให้มีปิติมีความสุขมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เราไม่ต้องพึ่งใคร ต้องพึ่งปลีแข้ง พึ่งการประพฤติการปฏิบัติของตัวของเราเอง
ทุกคนมีโอกาสมีเวลาพอ ๆ กัน ให้รู้หน้าที่รู้การประพฤติการปฏิบัติ
วัดนั้นคืออริยมรรคมีองค์แปด ทั้งกายทั้งวาจาทั้งใจทั้งกิริยามารยาททั้งอาชีพ ความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัตินี้คือวัดคือข้อวัตรข้อปฏิบัติของเรา ให้เป็นวัดให้เป็นข้อวัตรข้อปฏิบัติเข้าสู่มาตรฐาน อักษรย่อเรียกว่าเข้าสู่ มอก. เข้าสู่ความเป็นมาตรฐาน
การปฏิบัติมันต้องเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม ไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไปไม่ตึงเกินไปไม่หย่อนไป มันคือความพอเพียงเพียงพอมันคือความพอดี
ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ท่านตรัสว่า เราทั้งหลายต้องเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เพราะอยากได้มากมันก็ไม่มาก อยากได้น้อยมันก็ไม่น้อย เพราะทุกอย่างมันเป็นธรรมชาติเป็นประภัสสร
เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจจะได้พากันมีความสงบมีปัญญา เข้าถึงทั้งความสงบเข้าถึงปัญญาด้วยความรู้ความเข้าใจ เราจะไม่ได้ตามสิ่งต่าง ๆ ตามสิ่งแวดล้อม ต้องเอาความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัติ เราทุกคนถึงจะเป็นผู้มีศีล เป็นผู้มีสมาธิเป็นผู้มีปัญญา เรียกว่ารู้เหตุรู้ปัจจัย รู้อริยสัจสี่ รู้ทุกข์ รู้เหตุเกิดทุกข์ รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์
เราเกิดมาต้องรู้ว่าเราเกิดมาทำไม ต้องรู้เข้าใจว่าเราเกิดมาทำไมต้องรู้เข้าใจเกิดเพื่อมารู้เข้าใจ รู้และเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ เราจะได้ก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจ เป็นความดีเป็นปัญญา เป็นบารมีทั้งกายทั้งวาจาทั้งใจทั้งกิริยามารยาท ทั้งอาชีพเป็นบารมี ๑๐ ทัศ ๒๐ ทัศ ๓๐ ทัศ ด้วยการประพฤติด้วยการปฏิบัติ
เราทั้งหลายต้องยกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้องน่ะ มีสัมมาทิฐิมีความเข้าใจ ต้องเอาความถูกต้องนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิต
ยกเลิกความสำคัญมั่นหมายว่าเป็นเราเป็นคนอื่น ยกเลิกสิ่งที่เป็นนิติบุคคลตัวตน
มีความสำคัญมั่นหมายว่าเราเป็นผู้หญิงผู้ชายเป็นคนหนุ่มคนสาวคนแก่คนเฒ่าคนชรา คนแก่คนตายคนพลัดพราก
สำคัญมั่นหมายว่าเราเก่งกว่าเค้าฉลาดกว่าเขารวยกว่าเขา มีเพาเวอร์มากกว่าเขา เป็นเขาเป็นเราน่ะ เราต้องรู้เข้าใจว่าทุกอย่างนั้นไม่ใช่เราไม่ใช่เขานะ มันเป็นเหตุเป็นปัจจัย ต้องรู้เหตุรู้ปัจจัย
เราทั้งหลายให้พากันมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เพราะเราจะได้เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรง ปฏิบัติเพื่อไม่มีทุกข์น่ะและปฏิบัติเพื่อหยุดทุกข์ เพื่อเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม
การประพฤติการปฏิบัติต้องอยู่ที่ปัจจุบันนี้แหละ อดีตก็มาอยู่ที่ปัจจุบัน อนาคตก็เป็นฐานอยู่ที่ปัจจุบัน เราต้องรู้เข้าใจเข้าสู่มาตรฐานเข้าสู่ มอก. ในการประพฤติการปฏิบัติ ชีวิตของเราน่ะจะได้มีแต่ปิติมีแต่ความสุขมีเอกัคคตา เมื่อมันก้าวไปแล้วล่วงไปแล้วเกษียณไปแล้วเราก็ปล่อยวาง
เราต้องมีปัญญาสัมมาทิฐิเพื่อเป็นปัญญาบริสุทธิคุณให้เราเข้าใจ ชีวิตของเราจะได้มีแต่ความสุขมีแต่ความดับทุกข์ ชีวิตของเราจะมีแต่พระนิพพานคือบ้านที่แท้จริงที่เป็นบริสุทธิคุณ
พระนิพพานเป็นบ้านของเรานะ
เราทั้งหลายต้องพากันเข้าถึงพระนิพพานตั้งแต่ยังไม่ตายนี้แหละ อย่าไปรอตายแล้วถึงไปพระนิพพานอย่างนั้นไม่ใช่ ถ้าอย่างนั้นมยังเป็นนิติบุคคลตัวตนเพราะทุกอย่างนั้นต้องรู้ว่าทุกอย่างคือเหตุคือปัจจัยไม่ใช่นิติบุคคลตัวตน
เรามีตามันถึงมีรูป มีหูถึงมีเสีย งมีจมูกถึงมีกลิ่น มีลิ้นถึงมีรส เรามีกายก็มีใจ มีใจก็มีจิต เราต้องรู้เข้าใจเรื่องเหตุเรื่องปัจจัย ความรู้ความเข้าใจเราจะเข้าถึงพระนิพพานบ้านที่แท้จริง ด้วยความรู้ความเข้าใจ ด้วยการที่มีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ ให้เข้าใจอย่างนี้
เราทั้งหลายจะได้มีข้อวัตรข้อปฏิบัติเราจะได้ทำหน้าที่ของเราสมบูรณ์ สมบูรณ์ ทุก ๆ ท่านทุก ๆ คน
เราทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์ อย่าไปทำอะไรตามใจตามอัธยาศัย
เอาตัวตนเป็นที่ตั้งไม่ได้นะ เพราะตัวตนมันไม่ใช่พระนิพพาน
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสบอกพวกเราทั้งหลายว่า อริยสัจสี่ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านพูดเรื่องทุกข์ก่อน เพราะทุกข์นั้นคือตัวตน ถ้ามีตัวมีตนเมื่อไหร่มันมีทุกข์ทั้งนั้น มันมีแต่ทุกข์เกิดขึ้น ทุกข์ตั้งอยู่ ทุกข์ดับไป นอกจากทุกข์ไม่มี
เหมือนทะเลมันอิ่มมันพอเมื่อไหร่ล่ะ ทะเลไม่อิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่อิ่มด้วยเชื้อ
เราต้องรู้เข้าใจเราจะได้รู้เข้าใจ เราจะได้เข้าถึงความรู้แจ้ง เข้าถึงพระธรร พระวินัยด้วยความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม มีปิติมีความสขุมีเอกัคคตาอย่างนี้ด้วยความรู้ความเข้าใจ ถึงเป็นมรรคเป็นอริยมรรค
เปรียบเสมือต้นไม้นี้แหละ ต้นไม้ต้นนั้นต้องได้อาหารมาจากทุกทิศทุกทางของต้นไม้ ไม่ใช่ได้อาหารมาจากทางรากอย่างเดียว ต้องได้อาหารมาจากกิ่งทางก้านทางใบทางยอด ตลอดปริมณฑลทางแสงแดดอากาศออกซิเจน ต้องได้อาหารมาจากทุกทิศทุกทาง ด้วยความรู้ความเข้าใจ เพราะทุกอย่างจะได้เป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรมอย่าเอาเฉพาะรากนี้ไม่ได้มันจะเป็นนิติบุคคลตัวตน
เราต้องรู้เข้าใจ ธรรมะนี้มันเป็นอริยมรรคไม่เน้นเฉพาะสัมมาสมาธิ เน้นทุกแง่ทุกมุม ด้วยความรู้ความเข้าใจ
ให้รู้การประพฤติการปฏิบัติ การประพฤติการปฏิบัติมันถึงจะเป็นธรรมเป็นธรรมชาติมันจะไม่ใช่นิติบุคคลตัวตน มันจะเป็นธรรมชาติ เป็นศีลธรรมชาติ เป็นสมาธิธรรมชาติ เป็นปัญญาธรรมชาติ มันจะเป็นบริสุทธิคุณ เราทั้งหลายจะเข้าถึงพระนิพพานบ้านแท้จริงที่ปัจจุบันนี้แหละ ด้วยความรู้ความเข้าใจ
เราทั้งหลายต้องยกเลิกตัวตนน่ะ ผู้ที่มีปัญญาทั้งหลาย ปัญญาที่เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันไม่ได้ ต้องเอาธรรมนำชีวิต อย่าไปทำอะไรตามใจตามอัธยาศัย ต้องปรับเข้าหาธรรมะ เข้าหาเวลา มีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ
เราเอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้งมันจะเป็นบารมีความไม่ดีความไม่ถูกต้อง มันจะเป็นบารมีแห่งความหลงนะ
เราคิดดูดี ๆ สิ เราเอาตัวตนเป้นที่ตั้งมันก็มีบารมีเหมือนกันนะ เป็นบารมีแห่งความหลง บารมีแห่งตัวตน เหมือนข้าราชการทั้งหลายมาเป็นข้าราชการใหม่ ๆ มันขยันดีน่ะ นาน ๆ ไปเอาตัวตนเป็นที่ตั้งความขี้เกียจมันทวีคูณเพิ่มไปทุกวัน มันเป็นบารมีแห่งตัวตนเป็นบารมีแห่งความหลงนะ
พวกที่มาบวชเหมือนกันน่ะ บวชถูกต้องตามพระธรรมพระวินัย ให้เป็นพระธรรมพระวินัย แต่ไม่รู้ไม่เข้าใจ ไปพออกพอใจ ไม่เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ มันก็เป็นพระได้แต่พระแต่งตั้งอย่างนี้แหละ
บวชนานไปบารมีแห่งความหลงมันพอกพูนน่ะ กลายเป็นนิติบุคคลตัวตน กลายเป็นคนขี้เกียจขี้คร้านไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เอาอะไรมาวัดเป็นบรรทัดฐานล่ะ ก็เอาที่ไหนวัดน่ะ
ก็วัดที่ห้องน้ำมันก็สกปรก ศาลามันก็สกปรก โบสถ์วิหารลานเจดีย์ก็สกปรกเอาสิ่งที่มองเห็นภายนอกมาวัด ถ้าเรายกเลิกตัวตนกายวาจาใจกิริยามารยาทอาชีพ มันจะสะอาด มันจะสว่างจะสงบน่ะ มันจะไม่สกปรก เราเอาสิ่งที่มองเห็นทางตาทางหูทางจมูกทางกายนี้แหละมาวัด ว่าเอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันก็สกปรกอย่างนี้แหละ
ทั้งที่เนื้อที่ของวัดมันก็ไม่มากดูแล้วก็ไม่มาก วัดป่าวัดกรรมฐานมีมากกว่าส่วนใหญ่ พวกวัดป่าอยู่ห่างไกลจากหมู่บ้าน มีเนื้อที่กว้างขวาง นี้วัดบ้านวัดอยู่ในเมืองเนื้อที่ไม่กี่ไร่แต่วัดนั้นก็สกปรก ให้เข้าใจ ตัวตนมันก็สกปรกอย่างนี้แหละ
ท่านหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านถึงตรัสกับพระภิกษุสามเณรทั้งหลายว่า เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งไม่ได้นะ ตัวตนนี้แหละมันสกปรก ตัวตนนี้มันรกรุงรัง ตัวตนนี้มันเหม็นนะ มันเหม็นมากเหม็นหลายแดนโลกธาตุ สามแดนโลกธาตุ เพราะตัวตนคือความสกปรก คือความไม่ถูกต้องคือความเหม็น เอาตัวตนเป็นที่ตั้งน่ะไม่ได้หรอก
พวกเราต้องเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจเราก็จะไม่ได้เป็นพระกัน มันจะเป็นนิติบุคคลตัวตน เพราะทุกคนก็เป็นพระได้ผู้ ที่มาบวชก็เป็นพระได้ ผู้ที่เป็นข้าราชการนักการเมืองก็เป็นพระได้ ผู้ที่เป็นพ่อค้าประชาชนก็เป็นพระได้ เพราะพระอยู่ที่เรารู้เข้าใจ
เราพากันมาเน้นการประพฤติการปฏิบัติเป็นวัตรเป็นข้อวัตรปฏิบัติ เป็นหน้าที่ของเราทุก ๆ คน ต้องรู้เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ
ให้เราทุกคนรู้จักข้อวัตรข้อปฏิบัติ เราอย่าไปทำอะไรตามใจตามอัธยาศัยน่ะ
เราจะเอาความถูกใจเหนือความถูกต้อง เราต้องไม่เอาความถูกใจเหนือความถูกต้อง
ให้เข้าใจในข้อวัตรข้อปฏิบัติ จะทำให้เราไม่เสียเวลาในการประพฤติการปฏิบัติ
ถ้าอย่างนั้นไม่ได้ ทำให้เราเสียเวลา ไม่รู้จักการประพฤติการปฏิบัติ
เป็นมนุษย์ก็ไม่ได้เป็นมนุษย์เพราะเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เราก็เป็นได้แต่เพียงคน เป็นได้แต่เพียงความหลง ย่ำต๊อกอยู่ในอวิชชาความหลง เค้าถึงเรียกเราทั้งหลายว่าคนหรือความหลง วกวนอยู่ที่เก่า ไปไหนไม่ได้ อยู่ในวงกลมอยู่ในที่เก่า เป็นอบายมุขอบายภูมิ
ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านมาตรัสรู้ด้วยความรู้ความเข้าใจ ท่านเน้นที่ตัวของพระพุทธเจ้าเอง เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ
ตำแหน่งที่เค้าแต่งตั้งให้เราเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นประธานาธิบดี เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นข้าราชการนักการเมือง เป็นนักบวชเป็นพ่อค้าประชาชนเป็นตำแหน่งที่เค้าแต่งตั้งนะ
ให้เราเข้าใจตำแหน่งของเราว่าเราต้องมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติเข้าสู่ภาคประพฤติการปฏิบัติ เราทั้งหลายจะได้มีข้อวัตร ข้อปฏิบัติ เพราะวัดคือที่อยู่ที่อาศัยของผู้ที่มาเป็นนักบวช เป็นศูนย์รวมแห่งความดีที่ประกอบด้วยปัญญา ไม่ใช่ศูนย์รวมแห่งความหลงนะวัดน่ะ
วัดของศาสนาพุทธ โบสถ์ของศาสนาคริสต์ มัสยิดของศาสนาอิสลาม
เราต้องรู้เข้าใจนี้มันเป็นศูนย์กลางแห่งความดีที่ประกอบด้วยปัญญาศูนย์รวมแห่งปัญญาที่ประกอบด้วยความดี
พวกเรานี้มาประพฤติมาปฏิบัติเป็นทีมเวิร์คทำอะไรพร้อมเพียงกัน เข้าสู่มาตรฐาน เข้าสู่ มอก. ทำอะไรพร้อมกัน พร้อมกันทำพร้อมกันเลิกอย่างนี้ เพราะการประพฤติการปฏิบัติ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ต้องไปทางเดียวกัน
เมื่อเรายกเลิกตัวตน เราทำอย่างเดียวมันก็จะมีพลังอย่างนี้ มีเพาเวอร์สูงด้วยความรู้ความเข้าใจ
วัด โบสถ์ มัสยิดจึงเป็นศูนย์รวมแห่งความดี เป็นศูนย์รวมแห่งปัญญาศูนย์รวมยกเลิกแห่งความหลงนะ เข้าสู่มาตรฐานเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ
เราทั้งหลายต้องเข้าสู่มาตรฐานเข้าสู่มอก. ในการประพฤติการปฏิบัติ มีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ
เราอย่าไปทำอะไรตามใจตามอัธยาศัย เราอยู่ที่บ้านเราก็เอานิติบุคคลตัวตนนำชีวิต เพราะว่าพ่อแม่เราทุกคนส่วนใหญ่ก็เป็นสามัญชนไม่ใช่พระพุทธเจ้าไม่ใช่พระอรหันต์ อยู่ที่บ้านมันยังเป็นทีมใจอ่อน เป็นทีมไปกับสิ่งแวดล้อม
เรามาอยู่ที่วัด หรือว่ามาอยู่ที่โบสถ์ อยู่ที่มัสยิด เราต้องมีจิตใต้สำนึกว่าที่นี่คือสถานที่ประพฤติปฏิบัติ
เราต้องปรับใจเข้าหาธรรมะเข้าหาเวลา อย่าไปทำอะไรตามใจตามอัธยาศัย มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในกาประพฤติการปฏิบัติ
ให้ถือว่าสถานที่นี้เป็นสถานปฏิบัติสถานบำบัด
เราต้องรู้เข้าใจ มาประพฤติปฏิบัติกันเป็นทีมเวิร์คเลยยกเลิกตัวตน อย่าไปสำคัญมั่นหมายว่าเป็นตัวเป็นตน เราเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ
การประพฤติการปฏิบัติเพื่อให้มันติดต่อต่อเนื่อง เป็นกระแสน้ำ กระแสไฟ กระแสลม มันจะเป็นกระบวนการ มันจะหยุดสัญชาตญาณ ด้วยการประพฤติการปฏิบัติ เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ
ทำเหมือนกันไก่ฟักไข่ ไก่ฟักไข่ก็ต้องใช้เวลา ๓ อาทิตย์ จะฟักด้วยแม่ของไก่ หรือฟักด้วยไฟฟ้า มันจะเป็นไปตามหลักการ ไปตามอุดมการณ์อย่างนี้
ต้องเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ
ผู้มาประพฤติปฏิบัติเข้าถึงตั้งเวลาตั้งกติกากัน ทำอะไรเป็นทีมเวิร์ค เข้าสู่การประพฤติการปฏิบัติ ไม่ให้ทำอะไรตามใจตามอัธยาศัย
เราต้องอยู่ด้วยพระธรรมพระวินัยด้วยข้อวัตรกิจวัตร มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ
หมู่มวลมนุษย์ ถ้ายกเลิกตัวตนมันก็ไม่มีทุกข์อะไร
เราคิดดูดี ๆ นะ เรามีตัวมีตนถึงจะมีความรู้มาก ถ้าเราไม่มีความเห็นถูกต้อง เอาตัวตนนำชีวิตเราก็เป็นโรคจิตโรคประสาทมาก
เราคิดดูดี ๆ นะ พวกที่เรียมากเรียนสูง เป็นผู้มีอำนาจทางราชการนักการเมือง พวกนี้ยิ่งใช้สารเคมี ใช้ยานอนหลับมากกว่าผู้ที่ไม่มีการเรียนการศึกษา
เราคิดดูดี ๆ นะ พวกสัตว์บ้านสัตว์ป่านานาพันธุ์ ถ้ามันมีอาหารอิ่ม อาหารเพียงพอมันพากันนอนหลับสบายนะ
พวกที่เรียนมากพวกมีความรู้มากพวกที่รวยมาก ก็เป็นโรคจิต โรคประสาท โรคซึมเศร้ามากกว่านะ
เรารู้เข้าใจจะได้เอาธรรมนำชีวิตเอาธรรมนูญนำชีวิต เราทั้งหลายจะได้ไม่ตามใจตามอารมณ์ ตามความรู้สึก จะได้เอาธรรมนำชีวิต เราทั้งหลายจะได้ไม่เสียเวลา
พวกนักเรียนนักศึกษาทั้งหลายหน้าแล้งปิดเทอม ดีแล้วถูกต้องแล้ว พากันมาอยู่วัด มาเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ
ใจไม่สงบก็ให้วาจามันสงบน่ะ ใจไม่สงบก็ให้กายมันสงบ รู้เข้าใจอย่างนี้ต้องเอาสิ่งที่มองเห็นด้วยตานี้ก่อนน่ะ
เราต้องรู้เข้าใจ ต้องอยู่กับธรรมะให้ได้ อย่าอยู่กับตัวตน เราต้องเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ ไม่มีใครเหนือกรรมเหนือกฎแห่งกรรม ต้องเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ
เราต้องรู้คุณค่าในการมาประพฤติมาปฏิบัติ
เค้าจะทำอะไรเป็นทีมเวิร์ค มันถึงมีพลังน่ะ
นักเรียนอนุบาลเค้าก็ต้องไปอยู่ในทีมเวิร์คของนักเรียนอนุบาล
นักเรียนประถมก็ไปอยู่ในทีมเวิร์คของประถม
มัธยมอุดมศึกษาก็เข้าสู่ทีมเวิร์คเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ มีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อให้สมบูรณ์ทั้งอรรถะทั้งพยัญชนะ เราจะได้เข้าสู่หลักการอุดมการณ์อุดมธรรม
เราต้องบวชทั้งกายทั้งวาจาทั้งใจ รู้การประพฤติการปฏิบัติ เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มันก็ไม่ได้ประพฤติไม่ได้ปฏิบัติ เราก็ไม่ได้เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ จะทำให้เราเสียโอกาสเสียเวลาเสียทรัพยากร เพราะการเป็นอยู่ใช้สอยของเราต้องใช้สอยทรัพยากร
แม้แต่ร่างกายที่เป็นมนุษย์ก็เป็นทรัพยากรอย่างหนึ่ง
อายุขัยของมนุษย์ร่างกายของมนุษย์นั้นพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีก็อยู่ได้ร่วมร้อยปีหรือมากกว่าร้อยปี เอาตัวตนเป็นที่ตั้งไม่ได้ มันเสียดุลเสียทรัพยากร ให้เข้าใจ
เห็นคุณเห็นประโยชน์ในการทำข้อวัตรกิจวัตร
ให้ทุกคนพากันมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตา
บางคนมองดูหน้าดูตามันก็สงบดีแต่ว่ามันไม่มีความสุข มันต้องทั้งมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติอย่างนี้ เพราะความสุขความปิตินั้นแหละ มันจะหยุดโรคซึมเศร้า
ตัวตนนั้นเค้าเรียกว่าโรคซึมเศร้า ใครมีตัวมีตนคือบุคคลที่มีเป็นโรคซึมเศร้านะ
โรคทางกายนาน ๆ ถึงเป็น โรคทางจิตใจเอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันเป็นความทุกข์ เป็นโรคซึมเศร้านะ ตัวตนให้เข้าใจมันถึงโรคซึมเศร้า
มีความสุขในการเรียนการทำงานในการพูดจาวาจากิริยามารยาท ยกเลิกตัวตน เราจะได้เป็นทั้งคนดีเป็นคนลาดเป็นคนฉลาดเป็นคนดี
ชีวิตของเราต้องมีศักยภาพ เราจะได้พึ่งพาอาศัยแห่งความรู้ความเข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ
เราทั้งหลายอย่าบริโภคความเป็นนิติบุคคลตัวตน อย่าบริโภคความหลง เราบริโภคความสงบบริโภคศีลปัญญา ชีวิตของเราถึงจะมีพระนิพพานบ้านแท้จริง ถ้าอย่างนั้นมันจะเอานิติบุคคลตัวตนเป็นบ้านที่แท้จริงอย่างนั้นไม่ดีไม่ถูกต้อง
พวกเราทั้งหลายต้องยกเลิกความเป็นนิติบุคคลตัวตน ไม่ต้องอาศัยใคร ไม่ต้องอาศัยคนอื่น มาอยู่กันเป็นทีมเวิร์คในครอบครัว
บ้านนั้นคือครอบครัวที่เป็นทีมเวิร์คทีมแห่งความดีทีมแห่งปัญญา ครอบครัวต้องเป็นธรรมะ เป็นธรรมนูญรัฐธรรมนูญ
เอาตัวตนเป็นที่ตั้งเค้าเรียกว่าไม่มีบ้าน ไม่มีพระนิพพาน ไม่มีครอบครัว ไม่มีปัญญาบริสุทธิคุณ เป็นครอบครัวแตกแยก เป็นนิติบุคคลตัวตนเป็นทุจริต เค้าเรียกว่าเป็นชีวิตที่ล้มละลายพังทะลาย เหมือนตึก สตง. ให้พวกเราทั้งหลายรู้เข้าใจ
ถ้าไม่รู้เข้าใจมันจะเป็นอบายมุขอบายภูมิ ตกต่ำด้วยอวิชชาความหลง หัวใจของเราจะเป็นอบายมุขอบายภูมิ หัวใจของเรามันจะตั้งอยู่ในความไม่ถูกต้องหัวใจของเราจะเป็นบ่อนคาสิโน บ่อนคาสิโนก็คือตัวตนนี้แหละ
เราทั้งหลายต้องมายกเลิกอบายมุขอบายภูมิยกเลิกนิติบุคคลตัวตน ยกเลิกบ่อนคาสิโน หัวใจของเราต้องไม่มีบ่อนคาสิโน
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านบำเพ็ญพุทธบารมีมาหลายอสงไขย เพื่อมายกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
พระเยซูพระอัลเลาะก็เหมือนกัน ศาสนาทั้งหลายมายกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้องยกเลิกบ่อนคาสิโน
เห็นมั๊ยรัฐบาลไหนมาเป็นรัฐบาลก็จะมาตั้งแต่บ่อนคาสิโน
เราดูประเทศสิคงโปร์เค้าตั้งบ่อนคาสิโน เห็นประเทศเค้าร่ำรวย มาเก๊าประเทศจีนเห็นเค้าตั้งบ่อนคาสิโนประเทศเค้าร่ำรวย ให้เรารู้เข้าใจ
ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศเล็ก ๆ ไม่มีที่ทำมาหากินไม่มีที่ทำเกษตรกรรมอุตสาหกรรม มาเก๊าอยู่กลางเกาะกลางทะเล เค้าคิดว่าหมู่มวลมนุษย์มีความโง่เป็นส่วนมาก มีความโลภมีความหลงเยอะ อยากมีอยากเป็นอยากเด่นอยากดัง มีตัวมีตน พวกนี้มีมากกว่าคนที่มีปัญญา เค้าจึงตั้งบ่อนคาสิโน
ให้เรารู้เข้าใจ ถ้าเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ถึงรวยเป็นมหาเศรษฐีมันก็เป็นทุกข์ เพราะไม่รู้จักพอ ความหลงเป็นทุกข์นะ เอาตัวเป็นตนที่ตั้งมันเป็นทุกข์นะ เพราะมีความหลงในการเรียนการทำงาน มีความทุกข์ในการเรียนการทำงาน เค้าเรียกว่าโรคซึมเศร้านะ ไม่รู้ว่าการเรียนหนังสือการทำงานมันต้องเป็นความสุขมันเลยขี้เกียจขี้คร้าน มันเลยยากจนนะ
ทุกอย่างมันแก้ปัญหาได้ ฝนไม่ตกก็ทำให้ตกได้ ที่แห้งแล้งก็ทำให้เขียวชอุ่มได้ น้ำท่วมก็แก้ปัญหาได้ ด้วยความรู้ความเข้าใจ เอาตัวตนมันไม่รู้ไม่อิ่ม เอาตัวตนเหมือนทะเลไม่อิ่มด้วยน้ำเหมือนไฟไม่อิ่มด้วยเชื้อ เรารู้เข้าใจ
เราทั้งหลายต้องยกเลิกสิ่งที่ไม่ถูตก้อง เราทั้งหลายต้องยกเลิกอบายมุขภอบายภูมิ ต้องเข้าสู่ภาคประพฤติการปฏิบัติ ก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจด้วยความสงบด้วยปัญญา
ขออนุโมทนากับท่านทั้งหลายนะ ท่านทั้งหลายที่มีลมปราณเป็นคนดีคนมีปัญญา เป็นผู้มีปัญญาเป็นคนดี เอาธรรมนูญนำชีวิต มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ ปฏิบัติติดต่อต่อเนื่องให้มีความสุข
พากันเข้าถึงพระนิพพานบ้านที่แท้จริงตั้งแต่ยังไม่ตายนี้แหละ เพราะตายไปแล้วมันยังไม่แน่นอนน่ะ ปัจจุบันเราไม่ได้พระนิพพานอนาคตจะได้พระนิพพานได้อย่างไร คิดดูแล้วมันก็เป็นไปไม่ได้น่ะ เพราะทุกอย่างนั้นมันมาสัมผัสกับเราตาหูจมูกลิ้นกายใจเท่านั้นเอง ทุกอย่างมันเป็นปัจจุบัน
ถ้าเราไม่รู้เข้าใจมันจะเป็นพระนิพพานได้อย่างไร มันเป็นแต่ความหลง
เราต้องรู้จักว่าการประพฤติการปฏิบัติมันต้องอยู่ที่ปัจจุบันเราจะได้ไม่เสียโอกาสไม่เสียเวลา เรียกว่าการประพฤติการปฏิบัติมันจะไม่เลือกกาลไม่เลือกเวลา เราจะได้ไม่ให้กาลเวลากลืนกินเรา เราต้องเอาพุทธะนำชีวิต
-------------------------
โอวาทขององค์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
เมตตาให้ไว้ในเช้าวันที่ ๑๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา