๓๐ พฤษภาคม (สวดมาติกาคุณพ่อเลิศเดช วัดป่าตาขีดฯ)
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๓๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
วันนี้เป็นวันประชุมเพลิงของคุณพ่อเลิศเดช ภูชิตภัทรชัย ที่ละสังขารวายชนม์จากไป คณะสงฆ์ ญาติพี่น้อง ลูกหลาน ญาติธรรม เพื่อนบ้าน ได้บำเพ็ญบุญกุศลมาหลายวันแล้ว อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะได้นำสรีระร่างกายที่ปราศจากวิญญาณของคุณพ่อเลิศเดช ภูชิตภัทรชัย ไปประชุมเพลิง ณ เมรุชั่วคราวที่จัดขึ้นของวัดป่าบ้านตาขีดธรรมาราม
คุณพ่อเลิศเดช ภูชิตภัทรชัย ท่านเป็นคนที่ดีมากดีพิเศษ การดำเนินชีวิตได้เอาธรรมนำชีวิต ปฏิบัติกายวาจากิริยามารยาทอาชีพ เอาธรรมนำชีวิตเป็นผู้พัฒนาทั้งใจทั้งวัตถุทั้งวิทยาศาสตร์ไปพร้อม ๆ กัน เอาธรรมนูญนำชีวิต
มนุษย์เราที่เกิดมาได้สรีระร่างกายเป็นมนุษย์ ได้รับทรัพยากรที่ประเสริฐอายุขัยของมนุษย์อยู่ได้ร่วมศตวรรษหนึ่งคือร้อยปี พัฒนาใจให้มีความสุข พัฒนาวัตถุเครื่องอำนวยความสะดวกสบายตามหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์ให้มีความสุข มีปิติมีสุขมีเอกัคคตาไปพร้อม ๆ กัน ชีวิตนี้ก็จะอยู่ได้มากกว่าร้อยปี
เราทุกคนต้องพากันรู้พากันเข้าใจในการประพฤติในการปฏิบัติ ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ที่ยังไม่ตายให้พากันเข้าใจ เพราะตายแล้วมันประพฤติมันปฏิบัติไม่ได้ เพราะเหตุผลว่าทุกอย่างนั้นมันคือสังสารวัฏ คือการเวียนว่ายตายเกิด
มันเป็นวัฏจักรมันเป็นการเวียนว่ายตายเกิด สัมมาทิฐิตัวปัญญานี้ถึงเป็นสิ่งที่สำคัญ มนุษย์เราต้องมีปัญญาสัมมาทิฐิ เพื่อเอาธรรมะนำชีวิต เอาปัญญานำชีวิตไม่ใช่เอาความหลงนำชีวิต ต้องเอาปัญญานำชีวิต
เราจะเอาความไม่รู้ไม่เข้าใจนำชีวิตนั้นไม่ได้ ต้องเอาความรู้ความเข้าใจนำชีวิต การประพฤติการปฎิบัติของเราต้องมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ การประพฤติการปฎิบัติถ้าเราไม่มีปิติไม่มีความสุขในการประพฤติการปฎิบัติเราทั้งหลายก็จะมีความทุกข์ เราทั้งหลายก็จะเป็นโรคซึมเศร้า ด้วยเหตุผลนี้ถึงต้องมีความสุขในการประพฤติการปฎิบัติ
ข้อวัตรข้อปฏิบัติของเรา เราทั้งหลายต้องเน้นที่ปัจจุบัน เพราะปัจจุบันนั้นมันเป็นวาระแห่งชาติ
ให้พวกเราพากันเข้าใจ เห็นความสำคัญว่าเป็นวาระแห่งชาติทั้งกายวาจากิริยามารยาททั้งอาชีพทั้งใจมันเป็นวาระแห่งชาติ เพราะกายวาจากิริยามารยาทอาชีพทั้งใจนั้นมันจะเป็นกรรม เป็นกฎแห่งกรรม เป็นผลของกรรม ปัจจุบันนั้นถึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
เราทั้งหลายจะไปทำอะไรตามใจตามอัธยาศัยตามความรู้สึกนั้นไม่ได้
สมมติสัจจะทั้งหลายในโลกนี้ ชี้ให้เห็นแง่มุมทั้งหลายทั้งดีทั้งชั่วทั้งผิดทั้งถูกไม่ดีไม่ชั่วไม่ผิดไม่ถูก เพื่อให้เรามีปัญญาสัมมาทิฐิ เพื่อหยุดสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทำสิ่งที่ถูกต้อง ด้วยปัญญาสัมมาทิฐิ ชีวิตของเราก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจ อริยมรรคมีองค์แปด กายวาจากิริยามารยาทอาชีพและใจรวมกันเป็นทุกอย่างครบวงจรของการดำเนินชีวิตที่ประเสริฐ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านให้พวกเราทั้งหลายไม่ประมาทไม่ให้เพลิดเพลิน เพราะปัจจุบันนี้ถึงว่าเป็นวาระแห่งชาติในการประพฤติการปฎิบัติ เราอย่าประมาท อย่าไปหลงไปเพลิดเพลินเพราะอันนี้เป็นข้อสอบเป็นข้อปฏิบัติ
ให้พวกเรารู้นะ ความรู้กับการประพฤติการปฎิบัติมันต้องไปพร้อมกันต้องเป็นอันเดียวกัน เป็นเซทเดียวกัน ศีลกับปัญญาต้องไปพร้อมกัน สมาธิกับปัญญาต้องไปพร้อมกัน ศีลสมาธิปัญญานี้เป็นเซทเดียวกันไปพร้อมกัน ด้วยปิติด้วยความสุขด้วยเอกัคคตา ให้พวกเราที่ยังไม่ตายยังไม่ละสังขารพากันรู้อย่างนี้นะ
วันจันทร์อังคารพุธพฤหัสศุกร์เป็นวันทำงานพร้อมกับการปฏิบัติธรรมไปพร้อม ๆ กัน ให้วันทำงานกับวันปฏิบัติธรรมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เป็นเซทเดียวกัน
วันเสาร์วันอาทิตย์เป็นวันหยุดทำงานภายนอก มาเน้นเรื่องจิตเรื่องใจอย่างเดียว
ผู้ที่ถือศาสนาพุทธก็พากันไปที่วัด ผู้ที่ถือศาสนาคริสต์ก็ไปที่โบสถ์ ผู้ที่ถือศาสนาอิสลามก็ไปที่มัสยิด ผู้ที่ศาสนาพราหมณ์ฮินดูก็ไปวิหาร เทวสถาน เพื่อไปให้ทานเสียสละ ทำวัตรสวดมนต์นั่งสมาธิ เจริญภาวนา
วันเสาร์วันอาทิตย์ไม่ใช่วันหยุดให้ไปท่องเที่ยวนะ ไม่ใช่เที่ยวในประเทศต่างประเทศ ไปท่องเที่ยวในที่ต่าง ๆ
วันเสาร์วันอาทิตย์ให้เป็นวันพัฒนาใจ ถ้าไม่สะดวกไม่สบายไปที่วัดก็ประพฤติปฏิบัติที่บ้านของตัวเอง
ถ้าผู้ที่เข้าใจในการประพฤติการปฎิบัติก็ปฏิบัติอยู่ที่บ้านของตัวเองได้
คำว่าวัดหมายถึงข้อวัตรข้อปฏิบัติหมายถึงกิจวัตร
เราทั้งหลายจะสร้างบ้านสร้างเรือน ก็ต้องรู้ต้องเข้าใจถึงสร้างบ้านสร้างเรือนได้ก็ต้องมีสถาปนิก มีวิศวกร มีช่างวัดระยะสั้นระยะยาวสูงต่ำ วัดน้ำหนัก วัดความเบาความหนัก
ความรู้ความเข้าใจนี้มันเป็นสัมมาทิฐิ มันไม่ใช่ความจำมันเป็นสัมมาทิฐิ เป็นปัญญาสัมมาทิฐิ ความรู้ความเข้าใจนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
เราไปเรียนหนังสืออ่านออกเขียนได้ บวกลบคูณหารความหมายของเรียน เพื่อความรู้ความเข้าใจ การค้นคว้าหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์ผสมผสาน พัฒนาให้ทางวิทยาศาสตร์ดีขึ้นยิ่ง ๆ ขึ้นไป จากสิ่งที่ไม่ดีก็ให้ดี จากสิ่งที่มันด้อยก็พัฒนาให้ดี ความมุ่งหมายของวิทยาศาสตร์ก็เพื่อความรู้ความเข้าใจ
การฟังการบรรยายจุดมุ่งหมายคือความรู้ความเข้าใจ การฟังการบรรยายนี้ถึงต้องตั้งใจฟัง ไม่ให้คุยกัน ให้ตั้งใจฟังด้วยความเคารพ เวลาฟังการบรรยายต้องตั้งใจฟัง อย่าคุยกัน ขนาดตั้งใจฟังมันยังไม่ค่อยจะรู้ ต้องตั้งใจฟังน่ะ
เหมือนเราจะรับเอาน้ำเราก็ต้องมีภาชนะรองรับ เอาภาชนะมาตั้งไว้เพื่อรองรับน้ำ ถ้าภาชนะมันล้มหรือว่ามันคว่ำมันก็รับน้ำไม่ได้
การฟังการบรรยายถึงต้องพากันตั้งใจฟัง อย่าไปคุยกัน อย่าไปคุยโทรศัพท์ ประทับใจกับพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเราก็ไม่คุยกัน เวลาแสดงธรรม คนเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นก็ให้นิ่งเหมือนไม่มีใครสักคนหนึ่ง นี้มันเป็นความรู้เป็นความเข้าใจ
ผู้ที่ละสังขารวายชนม์ได้จากไปแล้ว ได้เกษียณไปแล้ว การจากไปหรือว่าเกษียณมันเอากลับคืนมาไม่ได้
พวกเราทั้งหลายมารู้มาเข้าใจในชีวิตที่ประเสริฐ ชีวิตที่มีลมปราณ เพื่อเราจะได้เอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิต พากันมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการดำเนินชีวิตที่ประเสริฐ
เราทั้งหลายน่ะมาเน้นที่ตัวของเราเอง พระพุทธเจ้าท่านก็เน้นที่พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ผู้ฟังพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าท่านก็เน้นที่พระอรหันต์
เราเป็นใครอยู่ที่ไหนทำอะไรก็ต้องเน้นที่เราที่ตัวเรา เพราะธรรมะนี้มันเป็นเรื่องของทุก ๆ ท่านทุก ๆ คน ให้พากันเข้าใจ
เราพึ่งพาอาศัยคนอื่นก็พึ่งพาด้วยความรู้ความเข้าใจ แต่การประพฤติการปฎิบัติเราต้องพึ่งพาอาศัยตนเองด้วยความรู้คู่กับการประพฤติการปฎิบัติทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพทั้งใจ
เราต้องพึ่งพาอาศัยตัวเอง อาศัยปลีแข้งของตัวเอง ก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจด้วยการประพฤติการปฎิบัติ เพื่อให้เป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม ต้องพากันรู้เข้าใจ
ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสบอกพวกเราทั้งหลายว่า พวกเธอทั้งหลายนั้นอย่าได้เพลิดเพลินอย่าได้ประมาท ต้องเอาใจใส่ต้องตั้งใจให้พากันมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฎิบัติ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เราทั้งหลายจะได้หยุดวัฏฏสงสารหยุดเวียนว่ายตายเกิด
เราทั้งหลายต้องรู้ข้อวัตรข้อปฏิบัติ ถ้าเราไม่รู้ข้อวัตรข้อปฏิบัติ เวลามันก็จะกลืนกินเรา ทำให้เราเสียเวลา เสียเวลาไปเป็นวัน ๆ เพราะเวลานี้มันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ปัจจุบันถึงเป็นวาระสำคัญ
ให้พวกเรารู้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้ไม่เสียเวลา ไม่เสียกาลเสียเวลา ชีวิตของเรามันจะได้เป็นธรรมเป็นธรรมนูญ มันจะได้มีแต่ธรรมมีแต่ธรรมนูญ เราทั้งหลายจะไม่ วกไปวนมา เป็นได้แต่เพียงความหลง เป็นได้แต่เพียงคน
คำว่าคนนี้ให้เข้าใจนะ มันเป็นศัพท์ที่ยังไม่ใช่สัมมาทิฐิ มันเป็นได้แต่เพียงคน คำว่าคนมีทั้งหมด ๓๑ ภพภูมินะ
เดี๋ยวนี้เราเป็นมนุษย์ก็ยังกำลังอยู่ในภพภูมิหนึ่งน่ะ ร่างกายเป็นมนุษย์เป็นภพภูมิหนึ่ง
เราทั้งหลายต้องเข้าสู่ความเป็นมนุษย์ ที่เราพากันมาบวชหรือว่าไปบวชนี้จะมีขั้นตอนในการบวช กรรมวาจาจะตรัสถามผู้ที่จะมาบวชในพิธีนั้นว่า “มนุสโสสิ” เป็นภาษาไทยก็แปลว่าเธอเป็นมนุษย์หรือเปล่าน่ะ
เราก็รู้กันอยู่แล้วทุกคนร่างกายเป็นมนุษย์แต่ทำไมยังมาถามว่าเป็นมนุษย์มั๊ย เพราะว่าเป็นมนุษย์ต้องเป็นทั้งกายวาจากิริยามารยาทเป็นทั้งใจด้วยความตั้งใจตั้งเจตนา
ผู้ที่มาบวชหรือไปบวชนั้นถึงตอบว่า “อามะภันเต” ว่าเป็นมนุษย์
เป็นมนุษย์ผู้เอาธรรมนำชีวิตเอาธรรมนูญนำชีวิตมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฎิบัติไม่ทำตามความไม่รู้ไม่ทำตามความไม่เข้าใจถึงตอบว่าเป็นมนุษย์ ที่ตอบว่า “อามะภันเต”
เราทั้งหลายต้องพากันมารู้มาเข้าใจ สิ่งที่มันผ่านมาแล้วถือว่าเป็นความสิ้นไป
การที่ผ่านมาแล้วกับการตายมันก็คืออันเดียวกัน สิ่งไหนผ่านมาแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้ ปัจจุบันน่ะถึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
ปัจจุบันพวกเราถึงเอาความชอบไม่ชอบนำชีวิตไม่ได้
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านบอกว่าเราจะออกจากวัฏฏสงสาร ต้องรู้เข้าใจ
อย่าไปตรึกในกาม กามนั้นคือความอร่อย ในรูปในเสียงในกลิ่นในรสโผฏฐัพพะธรรมารมณ์ เพราะกามมันอร่อย รูปมันก็อร่อย เสียงมันอร่อย กลิ่นรสโผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์มันอร่อย มันหรอยมันแซบมันลำมันนัว มันเป็นกาม
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านบอกว่าให้เรารู้เข้าใจ เราอย่าไปตรึกในกาม เราต้องมีสติหยุดด้วยความรู้ความเข้าใจ
ใจของเราน่ะถ้าเราไม่หยุดใครจะมาหยุดให้เรา เราทุกคนต้องหยุด หยุดที่ใจ เห็นภัยในวัฏฏสงสารด้วยความรู้ความเข้าใจ ถึงมันจะอร่อยจะแซบจะลำจะนัว จะหรอยเราก็ต้องหยุดน่ะ มามีสติรู้ตัวทั่วพร้อม ถ้าเราไม่หยุดมันก็ไปเรื่อย
ความเร็วความแรงของพลังงานแห่งความหลงถึงต้องมีข้อวัตรข้อปฏิบัติ เพื่อหยุดความแรงความเร็ว เพื่อเข้าสู่การดำเนินชีวิตที่ประเสริฐ
โชเฟอร์ขับรถก็ต้องมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มีความสงบมีปัญญา มีปัญญา มีความสงบ กัปตันจะขับเครื่องบินก็ต้องมีความสงบมีปัญญา ความสงบกับปัญญานี้คือศีลคือสมาธิคือปัญญาให้เรารู้เข้าใจ
เราทั้งหลายน่ะจะเดินทางไกลปลอดภัยทั้งบนบกทั้งอากาศทั้งก็ต้องมียานนำพาเรา ถ้าเราไปทางทะเลทางมหาสมุทรก็ต้องมียานนำเราไป
ให้เรารู้เข้าใจถ้าไม่มียานมันไปไม่ได้ ถ้าเรามีความรู้ไม่มีการประพฤติการปฎิบัติเค้าเรียกว่ามันก็อยู่ที่เก่ามันย่ำต๊อกอยู่ที่เก่า มีร่างกายเป็นมนุษย์แต่ไม่มีธรรม ไม่มีการปฏิบัติของมนุษย์ มันก็ย่ำต๊อกอยู่ที่เก่า
สัตว์เดรัจฉานทั้งหลายอยู่ได้มีชีวิตอยู่ได้ด้วยสัญชาตญาณ เอาความหลงนำชีวิตนี้รักความสุขหลงความสุข ระแวงภัย เอาความหลงนำชีวิต ไม่มีข้อวัตรกิจวัตร เพื่อพัฒนาใจพัฒนาวิทยาศาสตร์เหมือนหมู่มวลมนุษย์
เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ ถ้าไม่รู้เข้าใจ เราทั้งหลายจะพากันเป็นได้แต่เพียงคน เป็นได้แต่เพียงความหลง ย่ำต๊อกอยู่ที่เก่า คนย่ำต๊อกอยู่ที่เก่าก็หมายถึงคนที่ไม่ได้เรียนหนังสือ หมายถึงคนไม่ได้พัฒนาวิทยาศาสตร์มันก็ย่ำต๊อกอยู่มันไปไหนไม่ได้
ที่การเรียนการศึกษาเค้ามีเทอมต้นเทอมกลางเทอมปลาย เพื่อจะวัดระดับความรู้คู่กับการประพฤติการปฎิบัติของเรา
ถ้าเราไม่ประพฤติไม่ปฏิบัติ หลายปีตามที่เค้าตั้งกติกาไว้เค้าก็ต้องรีไทร์เพราะชีวิตของเรามันย่ำต๊อกอยู่ในความหลง เพราะมนุษย์เราเค้าก็ต้องมีวีซ่าแห่งความเป็นมนุษย์
มนุษย์เราต้องมีวีซ่าแห่งความเป็นมนุษย์นะ เราจะต่อวีซ่าแห่งความเป็นมนุษย์ ต้องเอาธรรมนูญนำชีวิตไม่ใช่เอาตัวตนนำชีวิต ถ้าเอาตัวตนนำชีวิตมันจะหมดวีซ่าแห่งความเป็นมนุษย์นะ เป็นมนุษย์มันต้องเอาธรรมนูญนำชีวิต
เหมือนท่านพุทธทาสภิกขุ เป็นผู้รู้ผู้เข้าใจเรื่องใจเรื่องวิทยาศาสตร์ท่านถึงพูดจากใจจากพระนิพพานว่า เราทั้งหลายน่ะจะเป็นมนุษย์ได้เพราะมีธรรมแห่งความ เป็นมนุษย์นะ ไม่ใช่ทำอะไรตามใจตามอัธยาศัยไม่ใช่ทำอะไรตามความรู้สึก ต้องพัฒนาทั้งใจทั้งวัตถุไปพร้อม ๆ กันเป็นทางสายกลาง ทางวัตถุเราก็ไม่ย่อหย่อนทางใจเราก็ไม่ย่อหย่อนไปพร้อม ๆ กัน
ท่านกล่าวว่า เราเป็นมนุษย์ได้ก็ต้องมีปัญญาสัมมาทิฐิ จิตใจของเราถึงจะไม่ตกต่ำ ถึงจะก้าวไปด้วยการวีซ่าแห่งความเป็นมนุษย์
เป็นมนุษย์ เป็นได้ เพราะใจสูง เหมือนหนึ่งยูง มีดี ที่แววขน
ถ้าใจต่ำ เป็นได้ แต่เพียงคน ย่อมเสียที ที่ตน ได้เกิดมา
ใจสะอาด ใจสว่าง ใจสงบ ถ้ามีครบ ควรเรียก มนุสสา
เพราะทำถูก พูดถูก ทุกเวลา เปรมปรีดา คืนวัน ศุขสันติ์จริง
ใจสกปรก มืดมัว และร้อนเร่า ใครมีเข้า ควรเรียก ว่าผีสิง
เพราะพูดผิด ทำผิด จิตประวิง แต่ในสิ่ง นำตัว กลั้วอบาย
คิดดูเถิด ถ้าใคร ไม่อยากตก จงรีบยก ใจตน รีบขวนขวาย
ให้ใจสูง เสียได้ ก่อนตัวตาย ก็สมหมาย ที่เกิดมา อย่าเชือน เอย ฯ
เราทั้งหลายต้องพากันมารู้มาเข้าใจ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจ ชีวิตของเรานี้ มันไปไม่ได้นะ มันจะได้แต่เพียงคนเป็นได้แต่เพียงความหลง เราจะไม่ได้รับสิ่งที่ประเสริฐที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์
สิ่งที่แล้ว ๆ ก็แล้วไป เพราะว่ามันผ่านไปแล้วมันเกษียณแล้ว อย่าพากันเสียอกเสียใจ ให้ถือว่าเป็นประสบการณ์ของชีวิต
สิ่งที่เราว่ามันได้มันเสียล้วนแต่เป็นตัวตนทั้งนั้น สิ่งที่ว่ามันมีมันเป็นมันได้มันเสียล้วนแต่เป็นตัวตนทั้งนั้น
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงบอกว่าอย่าไปตรึกนึกคิดอย่าวิตกกังวลในตัวในตน อย่าไปตรึกในพยาบาท จะทำให้ความผิดพลาดที่ผ่านมานั้นมันเผาเรา ความไม่รู้ไม่เข้าใจมันเผาเรา มันน้อยเนื้อต่ำใจมันเผาเรา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ของเมืองไทย ท่านให้เรารู้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เพื่อพวกเราจะได้ เข้าสู่ความรู้ความเข้าใจ จะได้เข้าสู่ความเป็นประภัสสร เราอยากได้มากมันก็ไม่ได้มากมันก็เท่าเก่า เราอยากได้น้อยมันก็ไม่น้อยมันก็เท่าเก่า
เราต้องรู้เข้าใจ เราจะได้เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอเข้าถึงความสงบเข้าถึงปัญญา
เราต้องเข้าใจนะ ความไม่รู้ไม่เข้าใจเราไม่มีก็ทุกข์เพราะไม่มี ความไม่รู้ไม่เข้าใจน่ะ เรามีอยู่แล้วเราไม่รู้จักพอมันก็มีทุกข์เหมือนกัน สองคนน่ะคนไม่มีกับคนไม่รู้จักพอ มันก็เป็นทุกข์เพราะความไม่พอ ความไม่รู้ไม่เข้าใจนี้มันจะเป็นทะเลไม่อิ่มด้วยน้ำ เป็นไฟที่ไม่อิ่มด้วยเชื้อนะ
มนุษย์เราต้องรู้เข้าใจ จะไม่ได้เผาตัวเอง จะไม่ได้เผาคนอื่น
เราคิดดูดี ๆ น่ะอย่างเทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ตรุษจีนหรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์เราเดินทางด้วยรถยนต์หรือเครื่องบินอย่างนี้ เราก็ต้องไปพร้อม ๆ กัน เพราะมันเป็นวันหยุด เครื่องบินมันก็เต็มรถมันก็ติด เพราะมันไปพร้อมกันมันก็ติด
เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ ถ้าไม่รู้ไม่เข้าใจแล้ว ความไม่รู้ไม่เข้าใจมันจะเผาเรานะ ความไม่รู้ไม่เข้าใจนั้นเราอยากให้เร็วมันก็ช้า อยากให้ช้ามันก็เร็ว
เหมือนหลวงปู่ชาท่านตรัสว่า มนุษย์เรามีความทุกข์เพราะความไม่รู้ไม่เข้าใจ อยากให้สั้นก็ว่ามันยาว อยากให้มันยาวก็ว่ามันสั้น
เราต้องรู้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้มีความสงบมีปัญญา เพราะทุกสิ่งทุกอย่างนั้น มันเป็นธรรมะเป็นประภัสสร รูปทั้งหลายทั้งปวงนั้นมันก็เป็นประภัสสร เสียงทั้งหลายทั้งปวงนั้นมันเป็นประภัสสร ความแก่ความเจ็บความตายความพลัดพราก มันก็เป็นประภัสสรของมัน
เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ เราจะไม่ได้ลิดรอนสิทธิ ก้าวก่ายความเป็นประภัสสรน่ะ เราทั้งหลายจะได้เข้าถึงธรรมเข้าถึงธรรมนูญเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เข้าถึงความพอดี
ให้พวกเรารู้เข้าใจเรื่องธรรมเรื่องธรรมนูญ ประชาธิปไตยก็ต้องปรับเข้าหาธรรมนูญ สังคมนิยมก็ต้องปรับเข้าหาธรรมนูญ ใจก็ต้องปรับเข้าหาวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ก็ต้องปรับเข้าหาใจ เราทุกคนถึงจะเข้าถึงความเป็นมนุษย์นะ
เรามีชีวิตอยู่เราต้องรู้เข้าใจมีปิติมีสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เมื่อมันผ่านไปแล้วก็ต้องปล่อยต้องวางไม่บริโภคความหลงไม่ต้องมีหนี้มีสินอะไร ให้มันเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม ให้เข้าใจนะ
ให้เข้าใจเหมือนนางวิสาขามหาอุบาสิกา นางวิสาขามหาอุบาสิกาได้กล่าวกับพระภิกษุที่ไปภิกขาจารบิณฑบาตรว่านิมนต์ท่านจาริกบิณฑบาตที่อื่นเถิด เพราะที่นี่พ่อปู่พ่อผัวของนางวิสาขาเค้าไม่ถวายภัตตาหารบิณฑบาต เพราะเค้ากำลังบริโภคของเก่าอยู่ พ่อปู่ได้ฟังแล้วโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ก็ได้ขับไล่นางวิสาขาออกจากเรือน เพราะความไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่องการบริโภคของเก่าน่ะ
ของเก่าหมายถึงความเป็นนิติบุคคลตัวตน เอาตัวตนเป็นที่ตั้งเค้าเรียกของเก่า มีความยึดมั่นถือมั่นมีความหลงน่ะ เอาความหลงนำชีวิตเอาตัวตนนำชีวิต เค้าเรียกบุคคลเช่นนี้ว่าบริโภคของเก่าบริโภคความหลง
ต้องเข้าใจนะ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งเค้าเรียกว่าเป็นบุคคลที่บริโภคของเก่า บริโภคความหลง
นางวิสาขาพูดให้พ่อผัวรู้เข้าใจ พ่อผัวก็รู้เข้าใจโอเค พออกพอใจ มีปิติมีความสุข มีเอกัคคตาในการดำเนินชีวิตที่ประเสริฐถึงได้เรียกนางวิสาขาว่า แม่วิสาขามหาอุบาสิกา
ความไม่รู้ไม่เข้าใจ ชีวิตของเรามันจะพังทลายเหมือนตึก สตง.นี้นะ
ตึก สตง.อยู่ที่กรุงเทพมหานคร ตึก ๓๐ กว่าชั้น ตึก สตง.ด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ เอาความหลงนำชีวิตเอาทุจริตนำชีวิต ชีวิตมันเลยพังทลาย ชีวิตมันพังทลายนะ ตึกสตง.มันพังทลายด้วยนิติบุคคลตัวตนพังทลายด้วยทุจริตมันจะไปแก้ไขตั้งแต่ภายนอกมันจะไปพัฒนาตั้งแต่วิทยาศาสตร์จะไปเอาความสุขบนความหลงชีวิตเลยพังทลายนะ
เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งน่ะ เราคิดดูดีๆ นะ ตึกใหญ่กว่าสูงกว่าตึก สตง.ตั้งหลายสิบตึกที่กรุงเทพมหานครที่ปริมณฑล เค้าไม่พังทลายเหมือนตึกสตง. เพราะพอที่จะรับน้ำหนักได้ ไม่ใช่ไม่โกงกินคอร์รัปชั่นนะ แต่เค้าโกงกินคอร์รัปชั่นน้อยพอที่จะรับแผ่นดินไหวจากมัณฑะเลย์ประเทศพม่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ประเทศพม่าห่างไกลกันตั้งนับพันกิโล
นี้ให้เรามองเห็นในแง่มุมความไม่ถูกต้องน่ะ ชีวิตที่เอาความไม่ถูกต้องนำชีวิตมันก็ต้องพังทลายเหมือนตึก สตง.นี้แหละ
เราทั้งหลายถึงต้องเป็นผู้ละอายต่อบาปเกรงกลัวต่อบาป เห็นภัยในวัฏฏสงสาร รู้จักความคิดรู้จักอารมณ์เหมือนท่านพระอาจารย์ลี ธัมมธโร สมุทรปราการท่านรู้จักความคิดการปรุงแต่งของตัวเอง
เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ชีวิตของเราทั้งหลายมันก็ต้องพังทลาย เพราะมันไม่ถูกต้อง มันก็ต้องพังทลายเหมือนตึก สตง. นี้แหละ
ตึก สตง.ที่อยู่กรุงเทพมหานครอยู่เมืองหลวงอยู่เมืองกรุง เป็นศูนย์รวมของประเทศ เหมือนสมองเป็นศูนย์รวมของร่างกาย เหมือนหัวใจเป็นศูนย์รวมของสรีระร่างกาย
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่บริหารประเทศ บริหารแผ่นดินไม่เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ เอาแต่ความรู้เอาแต่วิทยาศาสตร์เอาแต่ตัวเอาแต่ตนไปแก้แต่สิ่งภายนอก ไม่ได้แก้ตัวเองไปพร้อม ๆ กัน
การพัฒนาวิทยาศาสตร์มันต้องพัฒนาใจไปพร้อม ๆ กันมันถึงถูกต้องนะ พัฒนาทั้งภายนอกภายในด้วยความรู้ความเข้าใจให้ครบวงจร อริยมรรคองค์แปด ถึงเป็นความรู้ความเข้าใจ เพื่อการประพฤติการปฏิบัติมันจะได้สมบูรณ์ สมบูรณ์ทั้งกายวาจาใจกิริยามารยาทอาชีพด้วยความถูกต้อง
มันต้องรู้ธรรมรู้ปัจจุบันธรรม รู้ธรรมธรรมนูญน่ะ ถ้าเราไปจัดการแต่สิ่งภายนอก เราไม่ได้จัดการตัวเองมันก็ต้องพังทลายเหมือนตึก สตง.นี้นะ
การบริหารตัวเองบริหารบุคคลอื่น มันต้องรู้เข้าใจแล้วมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์
ถ้าเรามีปิติมีสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติมันก็ไม่มีความทุกข์อยู่แล้ว ด้วยความรู้ความเข้าใจ
เราต้องรู้จักการประพฤติการปฏิบัติ ทั้งกายวาจาใจกิริยามารยาทอาชีพ เราต้องเน้นมาที่ตัวเราในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อทำหน้าที่ของตัวเองให้มันสมบูรณ์ เราทั้งหลายจะไม่ได้พังทลายเหมือนตึก สตง.
ถ้าใครมีตัวมีตนบุคคลนั้นคือทุจริตนะ เราทั้งหลายจะได้รู้ว่าทุจริตนั้นคือตัวตนน่ะ ใครเอาตัวตนนำชีวิตบุคคลนั้นคือบุคคลที่ทุจริต เราต้องรู้จักธรรมรู้จักธรรมนูญ ปัญหาต่าง ๆ นั้นมันอยู่ที่ทุจริตนะ
การที่จะบริหารตัวเองบริหารบุคคลอื่นต้องยกเลิกทุจริต ถึงจะเป็นนักบริหารตัวเองนักบริหารคนอื่นด้วยการรู้เข้าใจในการบริหารในการปฏิบัติ
ตำแหน่งที่เค้าแต่งให้เราเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นตำแหน่งที่ให้เรามาเสียสละ มารับผิดชอบโฟกัสในการประพฤติการปฏิบัติ ไม่ใช่ตำแหน่งที่ให้พวกเราทั้งหลายมาทุจริตนะ
ให้ถือว่ามันเป็นตำแหน่งที่ทรงเกียรติมีเกียรติมีศักดิ์ศรี เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มันจะมีเกียรติมีศักดิ์ศรีได้อย่างไร ถึงพวกเราทั้งหลายจะพากันใส่สูทผูกเนคไท เป็นผู้ทรงเกียรติมันก็ไม่เป็นผู้ทรงเกียรตินะ มันเป็นผู้ทรงความหลงต่างหาก ทรงความโง่ความหลงงมงายต่างหากล่ะ
เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจเราจะเข้าถึงบริสุทธิคุณ เข้าถึงธรรมนูญเข้าถึงรัฐธรรมนูญไม่ได้ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันเป็นอบายมุขอบายภูมินะ มันตกอยู่ในภพภูมิของ ๓๑ ภพภูมิ
ในภพภูมิของวัฏฏสงสารนี้มีอยู่ ๓๑ ภพภูมิ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจมันก็จะอยู่ในระนาบของ ๓๑ ภพภูมินี้แหละ
เค้าถึงมีศัพท์ว่าคน คนนี้หมายถึงตัวถึงตน หมายถึง ๓๑ ภพภูมินี้แหละ ภพภูมิที่เวียนว่ายตายเกิดมีทั้งหมด ๓๑ ภพภูมิ
เราต้องรู้เข้าใจ เราจะได้ประพฤติปฏิบัติ เราจะไม่ได้ย่ำต๊อกกับความหลงที่มีศัพท์ว่า “คน” คนนี้ความหมายหมายถึงความไม่รู้ไม่เข้าใจ ความไม่รู้ไม่เข้าใจนั้นมันจะวกวนอยู่ที่เก่า มันจะเป็นผู้ไม่มีศีลไม่มีสมาธิไม่มีปัญญา สัมผัสกับอะไรก็ไปกับสิ่งนั้น ๆ อยู่ในภพภูมินั้น ๆ
เรารู้เราเข้าใจเราจะได้หยุดภพภูมินั้น ๆ ด้วยความรู้ความเข้าใจด้วยการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อเราทั้งหลายจะได้ว่างจากสิ่งที่มีอยู่ด้วยความรู้ด้วยความเข้าใจ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจเค้าเรียกว่ามันหลง มันวกวนในความหลงอย่างนั้น จิตใจวกวน อย่างนั้นมันจะไปไหนไม่ได้ มันจะเป็นได้แต่เพียงคนเป็นได้แต่เพียงความหลง หัวใจของบุคคลนั้นมันจะอยู่ในระนาบแห่งความหลงหรือว่าหัวใจบ่อนคาสิโน เอาตัวตนเป็นที่ตั้งคือหัวใจบ่อนคาสิโน หัวใจบ่อนทำลายความถูกต้อง หัวใจบ่อนความหลง
ให้เรารู้เข้าใจ เราจะได้เห็นภัยในความไม่ถูกต้องเห็นภัยในวัฏฏสงสารด้วยปัญญาบริสุทธิคุณ ด้วยเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ พอใจยินดีมีปิติมีความสุข มีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อเอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิต หัวใจของเราทั้งหลายจะได้หยุดอบายมุขอบายภูมิ
เราทั้งหลายถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจ เราทั้งหลายจะพากันคิดว่า ความสุขทั้งหลายได้มาจากสิ่งที่อำนวยความสุขความสะดวกความสบายด้วยการพัฒนาวิทยาศาสตร์ อันนี้จริงอันนี้ถูกต้อง ความสุขทั้งหลายมันอยู่พัฒนาหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์
เราทั้งหลายต้องมีสัมมาทิฐิเราต้องมีความรู้ความเข้าใจพัฒนาวิทยาศาสตร์ ก็ต้องพัฒนาใจไปพร้อม ๆ กัน ถ้าเราพัฒนาวิทยาศาสตร์มันก็ยังเป็นนิติบุคคลตัวตนอยู่
เราต้องพัฒนาใจไปพร้อม ๆ กันด้วยความรู้ความเข้าใจเราทั้งหลายน่ะ ถึงเป็นการพัฒนาครบวงจรด้วยความรู้ความเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจก็จะเอาความหลงนำชีวิตเอาวิทยาศาสตร์นำชีวิต
เราต้องเอาทั้งวิทยาศาสตร์เอาทั้งจิตใจไปพร้อม ๆ กันนะ
เราอย่าไปคิดว่าประเทศสิงคโปร์นั้นน่ะประเทศเล็ก ๆ เท่าอำเภอหนึ่งของเมืองไทยก็ไม่ได้ เค้าพัฒนาหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์เป็นหนึ่งของเอเชียเพราะเค้าตั้งบ่อนคาสิโน มาเก๊าส่วนหนึ่งของประเทศจีนเค้าก็รวยเพราะเค้าพัฒนาตามหลักเหตุตามหลักวิทยาศตร์
พวกเราทั้งหลายเมื่อมีปัญญาแล้วต้องรอบคอบนะ มีปัญญาแล้วต้องรอบคอบ อย่าลืมว่าชีวิตของเรามันเป็นรายรับรายจ่ายนะ เราไปจับหางงูเดี๋ยวงูมันจะมากัดเรา งูพิษมันจะมากัดเรานะ การที่เราเอาหลักการอุดมการณ์มันดีแล้วถูกต้องแล้ว เราต้องมีหลักการมีอุดมการณ์แล้วก็มีอุดมธรรมนะ หลักการอุดมการณ์มันดีแล้วถูกต้องหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์น่ะ แต่ต้องไม่ทิ้งอุดมธรรมนะ
เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งเอาความรู้สึกที่เอาตัวเป็นที่ตั้งมันเป็นหลักการเป็นอุดมการณ์แล้วอุดมด้วยความหลงนะ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านให้เราเอาทั้งหลักการอุดมการณ์ แล้วก็ยกเลิกอุดมหลงนะ
ให้เอาอุดมธรรมให้เอาธรรมเอาธรรมนูญมันถึงจะสมบูรณ์เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอเข้าถึงความพอดี เราอยากได้มากมันก็ไม่มาก เราอยากได้น้อยมันก็ไม่น้อย เราต้องรู้จักความพอดีเข้าสู่ความสมดุลทั้งรายรับรายจ่าย
เหมือนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอเข้าถึงความพอดี การประสูติของพระพุทธเจ้าถึงเป็นวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ ตรัสรู้ก็เป็นวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานก็วันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ
เราต้องรู้เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ เราทั้งหลายจะได้รู้หลักการรู้อุดมการณ์แล้วก็อุดมธรรม เราอยู่ที่ไหนก็พากันปฏิบัติได้ เมื่อเรามีลมปราณ มีอายตนะภายใน ๖ ภายนอก ๖ มีธาตุทั้ง ๔ ขันธ์ทั้ง ๕ อยู่ที่ไหนก็ปฏิบัติได้
ให้รู้เข้าใจมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ
อย่าไปคิดด้วยอวิชชาความหลงเอาแต่หลักการอุดมการณ์เอาแต่วิทยาศาสตร์น่ะ ถ้าเรารวย รวยความหลงมันไม่ดีนะ รวยความโง่หลงงมงายเรียกว่ารวยไสยศาสตร์มันไม่ดีนะ ไม่ใช่ความดีมันไม่ใช่บารมีไม่ใช่ปัญญาบริสุทธิคุณนะ มันเป็นความหลงนะ
ให้เรารู้เข้าใจ อย่าไปคิดว่าทำไมเราโง่ไปตั้งหลายปี ประเทศสิงคโปร์ประเทศ เค้าเล็กนิดเดียวเค้าตั้งบ่อนคาสิโนเค้ารวยกัน ประเทศมาเก๊าก็เหมือนกันเค้ารวยกัน
ประเทศสิงคโปร์เค้ามีหลักเหตุผลมีหลักวิทยาศาสตร์น่ะ เค้าคิดว่าประเทศสิงคโปร์มันเล็กนิดเดียว จะทำเกษตรกรรมก็ไม่ได้ จะทำอุตสาหกรรมก็ไม่ได้ ถ้าเราตั้งบ่อนคาสิโนด้วยหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์ก็รวยได้ เพราะคนในนี้โลกนี้มันคนมีความไม่ฉลาด เอาความหลงนำชีวิต เอาตัวตนนำชีวิตมันมีมาก ถ้าเราตั้งบ่อนคาสิโน เราสามารถรวยได้ทางวัตถุ ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ เค้าถึงพากันตั้งบ่อนคาสิโน จะเรียกบ่อนคาสิโนก็ได้หรือเรียกบ่อนแห่งความหลงก็ได้ มันคืออันเดียวกัน
ให้เรารู้เข้าใจ ประเทศไทยเราแผ่นดินกว้างใหญ่ไพศาลเราต้องรู้เข้าใจว่า เราทั้งหลายอย่ายินดีในการเอาความหลงนำชีวิต อย่าไปยินดีในการเอาบ่อนคาสิโน นำชีวิตนะ
พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ศาสดาทุกศาสนาเค้ามายกเลิกบ่อนคาสิโน มายกเลิกอบายมุขอบายภูมิ ให้เรารู้เข้าใจ ถ้าเรารู้เข้าใจ ทุกอย่างน่ะไม่มีปัญหา ปัญหาอยู่ที่เราไม่รู้ไม่เข้าใจนะ
ให้พวกเราทั้งหลายที่มีลมปราณที่เป็นผู้ประเสริฐเกิดมาเพื่อรู้เข้าใจ
สิ่งที่มันผ่านมาแล้วถือว่าเป็นบทเรียนถือว่าเป็นประสบการณ์ อย่าเข้าใจว่าเราเสียเวลา เวลามันไม่เสียหรอก เวลาก็อยู่อย่างนั้นแหละ ที่มันสัญจรไปมา มันก็เนื่องมาจากผัสสะ มันสัญจรไปมา
ทุกอย่างน่ะมันเป็นความว่าง ความว่างจากนิติบุคคลตัวตนเราเค้า
ทุกอย่างมันเป็นความว่างแต่อาคันตุกะเท่านั้นสัญจรไปมา เรามีตามันก็มีรูป เรามีหูก็มีเสียง มีจมูกก็มีกลิ่น มีลิ้นก็มีรส เรามีกายก็มีสัมผัส เรามีใจก็มีเรื่องจิตเรื่องใจทุกอย่างมันสัญจรไปมา
เราต้องเข้าใจเรื่องธรรมเรื่องสภาวธรรม เราทั้งหลายจะได้สร้างความดีที่ประกอบด้วยปัญญา ปัญญาประกอบด้วยความดีเอาทั้งใจทั้งวิทยาศาสตร์ไปพร้อม ๆ กันเราจะได้เข้าถึงพระนิพพานคือความดับไม่เหลือในปัจจุบัน
ก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจ รู้โจทย์รู้ข้อสอบในวาระกายวาจากิริยามารยาทและใจในปัจจุบัน เพื่อชีวิตของเราจะได้เป็นพระนิพพานทั้งกายวาจากิริยามารยาท ทั้งอาชีพที่เป็นพระนิพพาน
พระนิพพานคือบ้านของเรานะ ศีลสมาธิปัญญาที่เป็นหนึ่งเป็นเอกัคคตา จะก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจ เราทั้งหลายต้องเข้าถึงพระนิพพานในปัจจุบันนี้
ปัจจุบันนี้แหละเราคิดดูดี ๆ นะ เราไม่มีพระนิพพาน เมื่อเราตายไปแล้ว เราจะได้พระนิพพานได้อย่างไร
เราคิดดูดี ๆ นะ พระพุทธเจ้าน่ะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก็ทรงเผยแผ่ธรรมะไปอีก ๔๕ ปี ๔๕ พรรษาก็อยู่ที่ปัจจุบันไม่ใช่อยู่ที่อนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเทอญ การปฏิบัติธรรมต้องเน้นที่ปัจจุบัน ถ้าเราไม่เน้นที่ปัจจุบันนี้ไม่ได้ การปฏิบัติธรรมถึงไม่มีต่อหน้าและลับหลัง ไม่มีลับหลังและต่อหน้า ต้องตั้งใจตั้งเจตนา นี้เป็นความดี นี้เป็นบารมีให้กับตัวเองเพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับผู้วายชนม์
ด้วยความดีด้วยบารมีด้วยปลีแข้งลำแข้งในการประพฤติการปฏิบัติของเราเองนะ
----------------------------------
โอวาทขององค์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
เมตตาให้ไว้ในงานสวดมาติกาก่อนประชุมเพลิง คุณพ่อเลิศเดช ภูชิตภัทรชัย
ณ วัดป่าตาขีดธรรมาราม ตำบลตาขีด อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์
วันศุกร์ที่ ๓๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘