๒๑ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๒๑ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘  ศาสนาพุทธ คริสต์ศักราช ๒๐๒๕ ศาสนาคริสต์ ฮิจเลาะห์ศักราช ๑๔๔๖ ศาสนาอิสลาม

 

ให้ทุกท่านทุกคนพากันนั่งให้สบาย ๆ หายใจเข้าให้สบาย หายใจออกให้สบาย ให้พากันนั่งฟังการบรรยายพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยความสงบด้วยความเคารพ เพื่อความรู้ความเข้าใจ

 

ความรู้ความเข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญ มนุษย์เราต้องรู้ต้องเข้าใจเพื่อเป็นหลักการ เป็นหลักวิชาการในการดำเนินชีวิต เป็นอุดมการณ์ในการประพฤติการปฏิบัติ เป็นความสมดุล ทั้งความรู้ทั้งความเข้าใจทั้งการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อเป็นอุดมธรรม เป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม เป็นการทำที่สุดแห่งความดับทุกข์ทั้งกายวาจากิริยามารยาททั้งใจ ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป เป็นความพอเพียงเป็นความเพียงพอ เป็นความพอดี เป็นทางสายกลางระหว่างเรื่องจิตเรื่องใจ ระหว่างทางวัตถุที่เราพัฒนาวิทยาศาสตร์ ทางวัตถุทางวิทยาศาสตร์กับทางเรื่องจิตเรื่องใจต้องไปพร้อม ๆ กันเป็นทางสายกลาง วัตถุก็สบาย ใจก็ไม่มีปัญหา

 

มนุษย์เราต้องมีหลักการ มีอุดมการณ์อุดมธรรม เพื่อทำที่สุดแห่งความดับทุกข์ในปัจจุบัน เป็นประโยชน์ในปัจจุบัน เป็นประโยชน์ในอนาคต เป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้และชาติต่อไป มนุษย์เราในปัจจุบันนี้ อยู่ในโลกนี้โลกที่หมุนรอบตัวเอง หมุนรอบดวงอาทิตย์ เป็นกลางวัน ๑๒ ชั่งโมง เป็นกลางคืน ๑๒ ชั่วโมง มีประชากรของโลกขณะนี้เวลานี้ประมาณแปดพันกว่าล้านคน มีประเทศน้อยใหญ่ ทั้งหมด ๑๙๕ ประเทศ

 

มนุษย์เราทุกคนต้องใช้หลักการอันเดียวกันนี้แหละ พัฒนาใจพัฒนาวัตถุไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้เป็นทางสายกลาง เพื่อให้ดับทุกข์ได้ในปัจจุบัน เพื่อดับทุกข์ได้ในอนาคต ได้ทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์ของผู้อื่น

 

การดำรงชีวิตของมนุษย์ต้องเอาปัจจุบัน เอาปัจจุบันธรรมนำชีวิต เพราะอดีตก็มารวมกันอยู่ที่ปัจจุบันแล้ว อนาคตที่จะไปข้างหน้าก็อยู่ที่ปัจจุบันนี้เอง ปัจจุบันถึงเป็นวาระแห่งชาติของการประพฤติการปฏิบัติ เราทั้งหลายต้องพากันรู้เข้าใจ ปัจจุบันเป็นการประพฤติการปฏิบัติของเรา อริยมรรคมีองค์แปด กายวาจากิริยามารยาทอาชีพรวมลงที่ใจ ที่เจตนา

 

เราทั้งหลายต้องมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ ให้เรารู้เข้าใจว่ากายวาจากิริยามารยาทอาชีพเป็นเพียงอุปกรณ์ของใจเท่านั้น การประพฤติการปฏิบัติเราถึงเน้นเรื่องจิตเรื่องใจ เน้นที่เจตนา

 

เราทั้งหลายต้องหยุดใจของเราให้ได้ด้วยความตั้งใจตั้งเจตนา ด้วยการสมาทาน เราต้องสมาทานด้วยปัญญาสัมมาทิฏฐิ อันไหนไม่ดีไม่คิดไม่พูดไม่ทำ กิริยามารยาทอันไหนไม่ดีไม่คิดไม่พูดไม่ทำ อาชีพอันไหนไม่ดีไม่คิดไม่พูดไม่ทำ

 

เราตั้งใจตั้งเจตนา คุณสมบัติของผู้ดีของคนดี เราต้องรู้เราต้องเข้าใจ ว่าพระธรรมพระวินัยที่ประกอบไปด้วยกายวาจากิริยามารยาทอาชีพนี้ที่เรามีความตั้งใจตั้งเจตนา ที่เราสมาทาน เรามีความตั้งมั่น เรารู้เราเข้าใจ ไม่หวั่นไหวไปตามผัสสะ ไปตามสิ่งแวดล้อม ไม่ไปตามกระแส ความตั้งมั่นความตั้งใจ การสมาทานที่เป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญา ความรู้ความเข้าใจคู่กับการประพฤติการปฏิบัติ สิ่งที่มากระทบมาผัสสะนั้นจะจบลงไปเพียงผัสสะ ด้วยความรู้ความเข้าใจที่เป็นปัญญาสัมมาทิฏฐิ

 

เราทั้งหลายรู้เข้าใจในเหตุในปัจจัย สิ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้นจะจบลงเพียงผัสสะ เพราะเรารู้เข้าใจ ความปรุงแต่งของเรานั้นก็ปรุงแต่งต่อไปอีกไม่ได้ เพราะรู้เข้าใจจะจบลงเพียงผัสสะด้วยความรู้ความเข้าใจ ความเข้าใจอย่างนี้จะเป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญา ศีลสมาธิปัญญาถึงเป็นอุปกรณ์เพื่อมาหยุดสัญชาตญาณแห่งการเวียนว่ายตายเกิดของเราทุก ๆ คน การเรียนการศึกษาถึงเป็นหลักการอุดมการณ์อุดมธรรม

 

มนุษย์เราเกิดมาในโลกนี้มีการเรียนการศึกษาทั้งหมด ๑๘ ศาสตร์ เบื้องต้น ๑๘ ศาสตร์ ท่ามกลาง ๓๖ บั้นปลาย ๕๔ เป็นบารมีเป็นความดีอย่างต้นอย่างกลางอย่างละเอียด เป็นบารมี ๑๐ ทัศ ๒๐ ทัศ ๓๐ ทัศ ๑๘ ศาสตร์ก็มารวมลงที่ปัญญาสัมมาทิฏฐิ ด้วยความรู้ความเข้าใจ

 

มนุษย์เราเกิดมาถึงมีการเรียนการศึกษา เพราะการเรียนการศึกษานี้เป็นแสงสว่างทางปัญญา เราเรียนเราศึกษาเราจะได้มีปัญญาสัมมาทิฏฐิ เพื่อเราจะเอาทั้งเรื่องจิตเรื่องใจ เอาทางวัตถุวิทยาศาสตร์ไปให้เป็นทางสายกลาง การเรียนการศึกษาเป็นความรู้ความเข้าใจ เราต้องให้รู้ให้เข้าใจ ไม่ใช่ไปเรียนเพื่อจำ เรียนเพื่อเข้าใจ ถ้าเป็นความรู้ความเข้าใจนี้มันจะไม่ลืม ถ้าเป็นความจำนี้มันลืม เพราะความรู้ความเข้าใจนี้มันจะเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม มันจะเป็นมรรคเป็นอริยมรรค จะเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม ปัจจุบันถึงเป็นวาระสำคัญในการประพฤติการปฏิบัติของเราทุก ๆ คน

 

ให้เรารู้เข้าใจ เพราะทุกอย่างนั้นมันคือกรรมคือกฎแห่งกรรมคือผลของกรรม ธาตุทั้ง ๔ ขันธ์ทั้ง ๕ อายตนะ ๑๒ มันเนื่องมาจากกรรม มาจากกฎแห่งกรรม มาจากผลของกรรม เราทั้งหลายต้องมารู้เรื่องกรรม เรื่องกฎแห่งกรรม เรื่องผลของกรรม กรรมทางกายทางวาจากิริยามารยาททางอาชีพ ทุกอย่างเราต้องรู้หมดว่า นั้นคือกรรมคือกฎแห่งกรรมคือผลของกรรม

 

ปัจจุบันถึงเป็นวาระสำคัญของเราทุก ๆ คน ปัจจุบันเราถึงเป็นทั้งคนดีเป็นทั้งคนมีปัญญา รวมกันอยู่ในตัวของเราเอง ความสงบและปัญญานี้จะแยกกันไม่ได้ความรู้กับการประพฤติการปฏิบัตินี้จะแยกกันไม่ได้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงตรัสไว้กับพวกเราทั้งหลายว่า ปัจจุบันนี้เป็นวาระสำคัญของการประพฤติการปฏิบัติ

 

เราทั้งหลายอย่าพากันหลง อย่าพากันเพลิดเพลินอย่าพากันประมาท ปัจจุบันเป็นวาระสำคัญแห่งชาติในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อให้ความดีให้บารมีมันติดต่อต่อเนื่อง ด้วยความตั้งใจตั้งเจตนา เพื่อให้ศีลให้สมาธิให้ปัญญามันเกิดติดต่อต่อเนื่องเป็นกระบวนการไม่ขาดสาย วาระกายวาจากิริยามารยาทใจนี้มันคิดได้ทำได้ทีละอย่าง ให้เรารู้เข้าใจ ถ้าเราตั้งใจตั้งเจตนา มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ

 

การปฏิบัติของเราก็จะติดต่อต่อเนื่องไม่มีใครอะไรมาคั่นรายการ การประพฤติการปฏิบัติถึงเป็นอริยมรรคทั้งกายวาจากิริยามารยาททั้งใจตั้งอยู่ที่เจตนา มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ ปัจจุบันนี้ต้องมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตา มีความยึดมั่นถือมั่นในความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัติเพื่อไม่ทิ้งหลักการทิ้งหลักวิชาการ ทิ้งอุดมการณ์อุดมธรรม เอาปัจจุบันที่เป็นวาระสำคัญเป็นวาระแห่งชาติในการประพฤติการปฏิบัติ เมื่อมันผ่านไปแล้วเราก็ต้องปล่อยต้องวาง เพราะมันผ่านไปแล้วมันเกษียณไปแล้ว เราจะเอากลับคืนมาอีกไม่ได้

 

 เราต้องรู้เข้าใจ เราเป็นมนุษย์เป็นผู้ที่ประเสริฐ เราต้องรู้เข้าใจในเรื่องกรรม เรื่องกฎแห่งกรรม เรื่องผลของกรรม เราต้องรู้เข้าใจ เห็นภัยในความผิด เห็นภัยในความไม่ถูกต้อง เห็นภัยในวัฏฏสงสาร อย่าไปทำทั้งผิดทั้งถูกทั้งดีทั้งชั่ว

 

เราต้องมีหลักการอุดมการณ์อุดมธรรม เราจะได้เอาตัวรอดในทางที่จะต้องรอดด้วยความรู้ความเข้าใจ ด้วยปัญญาสัมมาทิฏฐิ เราอย่าไปทำทั้งผิดทั้งถูก ถ้าเราทำทั้งผิดทั้งถูก เราทั้งหลายจะไม่ได้เป็นมนุษย์นะ เราทั้งหลายจะเป็นได้แต่เพียงคน ศัพท์คำว่าคนหมายถึงวกวนอยู่ที่เก่า มันไปไหนไม่ได้ มันวกวนอยู่ที่เก่า เดินไปข้างหน้าก็ถอยกลับมาอยู่ที่เดิม เค้าถึงมีศัพท์คำว่าคน คนโน้นคนนี้ ไปไหนไม่ได้ก็ตกอยู่ในสัญชาตญาณที่มันเป็นตัวเป็นตน เป็นบุคคลไม่รู้อริยสัจสี่ไม่รู้ทุกข์ไม่รู้เหตุเกิดทุกข์ ไม่รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ หาเรื่องหาราวให้กับตัวเอง หาเรื่องหาราวให้กับคนอื่น

 

มนุษย์เราต้องพากันมารู้เข้าใจนะ ว่าเราเกิดมาทำไม ว่าเราเรียนหนังสือทำไม ว่าเราทำการทำงานทำไม เป็นข้าราชการเป็นนักบวชทำไม เราต้องรู้เข้าใจนะ เราพากันมาทำที่สุดแห่งความดับทุกข์ทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพทั้งใจที่ตั้งใจตั้งเจตนา มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เราทั้งหลายจะได้มีความสุขในการทำหน้าที่ เราจะได้ทั้งวัตถุที่เป็นวิทยาศาสตร์ เราจะได้ทั้งเรื่องจิตเรื่องใจไปพร้อม ๆ กันเป็นทางสายกลางระหว่างความสงบและปัญญา

 

เราทั้งหลายจะได้เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เข้าถึงความพอดี เปรียบเสมือนสายพิณนี้แหละ สายพิณสายกีต้าร์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสว่าสายพิณสายกีต้าร์นั้นก็จะขาดนะ ถ้าหย่อนเกินไปเสียงก็ไม่ไพเราะ

 

เราต้องเข้าถึงทางสายกลางคือความพอเพียงเพียงพอ เหมือนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ของเมืองไทยท่านตรัสกับพสกนิกรชาวไทยและชาวโลกว่า เราต้องรู้เรื่องทุกข์ เรื่องเหตุเกิดทุกข์ ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ เราจะได้เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เศรษฐกิจพอเพียงเพียงพอ เราอยากได้มากมันก็ไม่มากมันก็เท่าเก่านั้นเราจะไปอยากมันทำไม อยากได้น้อยมันก็ไม่น้อยมันก็เท่าเก่าเราจะเป็นทุกข์มันทำไม

 

เราต้องเข้าใจเรื่องความเป็นจริง เรื่องอริยสัจสี่ เราจะได้รู้ทุกข์รู้เหตุเกิดทุกข์รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ วันจันทร์อังคารพุธพฤหัสศุกร์เป็นวันทำงานพร้อมกับการปฏิบัติธรรมไปพร้อม ๆ กัน การทำการทำงานที่เป็นกายวาจากิริยามารยาทอาชีพกับการปฏิบัติธรรมต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่าไปแยกจากกัน ถ้าแยกจากกันแล้วมันจะเสียหาย มันจะพังทลายอย่างเดียวเช่นเดียวกับตึก สตง.นี้แหละ ตึกสตง.สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินของเมืองไทย สำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพมหานคร ตรวจเงินแผ่นดินค่าใช้จ่ายให้กับข้าราชการนักการเมืองนักบวช พัฒนาประเทศ ไปตรวจตั้งแต่คนอื่น ไปแก้ไขตั้งแต่คนอื่น มันต้องตรวจทั้งคนอื่นแก้ไขคนอื่นตรวจทั้งตัวเราเองแก้ไขทั้งตัวเราเองไปพร้อม ๆ กันถึงจะเป็นความสงบเป็นปัญญา ถึงจะเป็นทางสายกลาง ความไม่รู้ไม่เข้าใจมันไปแก้ไขสิ่งภายนอกไม่ได้แก้ไขกายวาจากิริยามายาทอาชีพไม่ได้แก้ไขทางจิตทางใจไปพร้อม ๆ กันชีวิตที่ประเสริฐนี้ก็ย่อมพังทลายอย่างเดียวเช่นเดียวกันกับตึกสตง.ของเมืองไทย

 

ให้พวกเรารู้เข้าใจนะ เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจเราจะได้มีปิติมีความสุขในการเรียนการศึกษาในการทำงานในการทำธุรกิจหน้าที่การงาน ถ้าเอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้งให้เรารู้เข้าใจนะตัวตนเป็นอบายมุขอบายภูมิที่ตกต่ำ ต่ำสุด ๆ ต่ำกว่าภพภูมิของมนุษย์ มันเป็นอบายมุขอบายภูมิ

 

เราทั้งหลายต้องเป็นมนุษย์ผู้มีปัญญาสัมมาทิฏฐิ เป็นมนุษย์ที่เข้าใจในเรื่องกรรมเรื่องกฎแห่งกรรมผลของกรรม เป็นมนุษย์ผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร เป็นเทวดาผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร เป็นพระพรหมผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร เป็นพระอริยเจ้าผู้ห่างไกลจากกิเลสเหมือนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร เป็นผู้เข้าถึงความสงบ เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เข้าถึงความเต็มเต็มเต็ม ไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่เพิ่มไม่ตัด เป็นความพอดีความพอเพียงเพียงพอ

 

มนุษย์เราต้องรู้เข้าใจ ต้องมีความสุขในการเรียนการศึกษาการทำธุรกิจหน้าที่การงาน เราทั้งหลายอย่าไปคิดว่าเราเรียนหนังสือก็เพราะเรามีความจำเป็น ทำงานก็เพราะจำเป็น เป็นข้าราชการเป็นนักการเมืองเป็นนักบวชก็เพราะความจำเป็น ถ้าความรู้ความเข้าใจอยู่ในระดับนี้ ให้เรารู้เข้าใจ ความรู้ความเข้าใจในระดับนี้มันจะเป็นโรคซึมเศร้า โรคซึมเศร้ารู้มั๊ยมีแต่ทุกข์เกิดขึ้นทุกข์ตั้งอยู่ทุกข์ดับไปนอกจากทุกข์ไม่มีเลย  

 

เราทั้งหลายต้องมีความสุขในการเรียนในการทำงาน เพราะเราต้องรู้เข้าใจ เราต้องก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจ ต้องเอาความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัติ มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ ชีวิตของเราจะได้ว้าว ว้าว ว้าว สว่างไสวทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพด้วยความรู้ความเข้าใจ เราจะได้เป็นคนทันโลกทันสมัยเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม พ่อแม่ต้องเป็นแบบเป็นตัวอย่าง คุณครูต้องเป็นแบบเป็นตัวอย่าง ข้าราชการนักการเมืองนักบวชต้องเป็นตัวอย่างแบบอย่าง เพราะการบอกการสอนหลายร้อยหลายพันหลายหมื่นหลายแสนไม่เท่ากับเป็นตัวอย่างแบบอย่าง อย่างองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านเป็นตัวอย่างแบบอย่างทั้งกายวาจากิริยามารยาททั้งใจเป็นตัวอย่างแบบอย่าง

 

ให้รู้เข้าใจ เขาจะทำอะไรเขาถึงมีแบบมีพิมพ์มีสถาปนิก มีวิศวกร มีแบบมีตัวอย่าง แก้ไขปรับปรุงสิ่งที่มันบกพร่องไม่ให้บกพร่อง สิ่งที่ดีๆ แล้วให้มันดียิ่ง ๆ ขึ้นไป เราถึงจะได้เป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์เป็นครูบาอาจารย์เป็นข้าราชการนักการเมืองเป็นนักบวช

 

ให้เรารู้เข้าใจนะ ธรรมะคือหน้าที่ หน้าที่คือธรรมะ ความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัติ มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติในปัจจุบันนะ เราทั้งหลายถึงจะได้หยุดโรคซึมเศร้า เราทั้งหลายจะได้หยุดโรคไบโพล่าที่อารมณ์มันเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา เราต้องรู้เข้าใจ ให้ความรู้ความเข้าใจนี้ดับลงได้ด้วยการประพฤติการปฏิบัติ ดับลงได้เพียงผัสสะ เพื่อจะหยุดสัญชาตญาณด้วยการเห็นภัยในวัฏฏสงสารด้วยความรู้ความเข้าใจ

 

เราต้องรู้เข้าใจว่าทุกอย่างนั้นมันไม่จบ รูปก็ไม่จบเสียงก็ไม่จบ กลิ่นรสโผฏฐัพพะธรรมารมณ์มันไม่จบ มันต้องจบด้วยความรู้ความเข้าใจ เราทั้งหลายจะได้จบลงได้เพียงผัสสะ ด้วยรู้หลักการ ข้าราชการนักการเมืองนักบวชนี้ เป็นสถาบันหลักของประเทศ สถาบันหลักต้องเข้าสู่หลักการอุดมการณ์อุดมธรรม มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อความมั่นคงของชาติ ศาสน์ กษัตริย์

 

เราต้องสมัครสมานสามัคคี เอาความดีพร้อมด้วยปัญญา เพื่อให้เกิดความสงบเกิดปัญญามาใช้เป็นหลักการอุดมการณ์ในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อเราทั้งหลายจะได้เป็นพ่อเป็นแม่เป็นข้าราชการเป็นนักการเมืองเป็นนักบวช ปัจจุบันนี้แหละ ประเทศไทยได้รับความเสียหายอยู่ในระดับพังทลายอย่างเดียวเช่นเดียวกับตึก สตง. เพราะเราได้เอาความผิดนำชีวิต เราได้เอาทุจริตนำชีวิต เอานิติบุคคลตัวตนนำชีวิต ไม่ใช่ความสงบไม่ใช่ปัญญา แต่มันเป็นความผิดมันเป็นทุจริต ชีวิตที่เราเกิดมาถึงมีแต่ทุกข์เกิดขึ้น ทุกข์ตั้งอยู่ทุกข์ดับไปชีวิตนี้มันเลยพังทลายอย่างเดียวเช่นเดียวกันกับตึกสตง.เมืองไทยประเทศไทย

 

เราทั้งหลายต้องมาสมัครสมานสามัคคีเช่นเดียวกันอย่างเดียวกันอย่างวันนี้ ที่เรามาร่วมรวมกันสมทบทุนเสียสละพร้อมเพรียงกัน เราทั้งหลายต้องพากันมาแก้ที่ตัวเรา ความดีที่เป็นบารมีเป็นความสงบและปัญญา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็แก้ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านบำเพ็ญพุทธบารมีหลายล้านชาติหลายล้านปีท่านก็เน้นที่ตัวท่าน พระอรหันต์ขีณาสพผู้ฟังพระธรรมเทศนาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็เน้นที่พระอรหันต์ เราเป็นใครเราก็เน้นที่คนนั้น

 

ให้เรารู้เข้าใจ เราสมัครสมานสามัคคีกันด้วยปิติด้วยความสุขด้วยเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เพียงแต่ทุกคนทำพร้อมกันไปหมด มีศีลเสมอกัน มีสมาธิเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน พัฒนาทางสายกลางระหว่างจิตใจกับวัตถุไปพร้อม ๆ กัน ภายในนาทีเดียวพร้อมกันทั้งโลกก็แก้ไขได้ทั้งโลก การปฏิบัติธรรมะนั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านให้เราประพฤติปฏิบัติติดต่อต่อเนื่องเพื่อเป็นกระบวนการของเหตุของปัจจัย เป็นกระบวนการของเหตุปัจจัย ภาษาบาลีเรียกว่าปฏิจจสมุปบาท เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปมันถึงนี้

 

ให้เรารู้เข้าใจเรื่องกระบวนการเพื่อไม่ให้สิ่งต่าง ๆ มันมาคั่นรายการเหมือนสถานีวิทยุโทรทัศน์เค้าออกอากาศมีรายการมีโฆษณาต่าง ๆ เยอะแยะเลย เราต้องทำติดต่อต่อเนื่องเป็นกระบวนการ การทำอะไรติดต่อต่อเนื่อง ๓ อาทิตย์ขึ้นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ถึงจะเห็นผลถึงจะได้ผล อย่างไก่ฟักไข่ก็ใช้เวลา ๓ อาทิตย์ขึ้นไปมันถึงจะได้ผลเห็นผล จะฟักด้วยแม่ของไข่หรือฟักด้วยไฟฟ้าก็ใช้เวลา ๓ อาทิตย์ขึ้นไปถึงจะได้ผลเห็นผล สิ่งเหล่านี้มันจะเป็ชิฟฝังอยู่ในขันธ์ในสัญญาขันธ์ เหมือนคอมพิวเตอร์สมัยใหม่มันจะมีชิฟฝังอยู่ในหน่วยความจำ การปฏิบัติถึงมีปัญญาเป็นพื้นฐานมีสติเป็นพื้นฐานเรียกว่าสติปัฏฐานทั้ง ๔ กายวาจากิริยามารยามอาชีพรวมทั้งจิตใจ เราต้องมีปัญญาเป็นพื้นฐานมีสติเป็นพื้นฐาน

 

วันหนึ่งคืนหนึ่งเราต้องไม่เอาความชอบความไม่ชอบ เพราะความชอบไม่ชอบนี้เป็นวาระของการประพฤติการปฏิบัติ เราต้องรู้เข้าใจ ความชอบความไม่ชอบนี้มันเป็นขั้วบวกขั้วลบเหมือนกระแสไฟฟ้า ศีลสมาธิปัญญานี้เป็นการหยุดขั้วบวกขั้วลบให้รู้เข้าใจ เราทั้งหลายต้องหยุดขั้วบวกขั้วลบจะได้จบลงเพียงผัสสะ

 

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้รู้เข้าใจว่าสิ่งต่าง ๆ เป็นเพียงอาคันตุกะสัญจรไปมาเท่านั้น มันเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปชั่วครู่ชั่วยาม เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจเราจะได้ผ่านไปด้วยความรู้ความเข้าใจ ให้เราเข้าใจว่า เรามีตาถึงมีรูป มีหูถึงมีเสียง มีจมูกถึงมีกลิ่น มีลิ้นถึงมีรส มีกายถึงมีสัมผัส

 

เราต้องรู้เข้าใจ เราต้องผ่านด้วยรู้เข้าใจ เราจะหยุดสิ่งต่าง ๆ ได้เพียงผัสสะ ถือว่าเราเป็นหนี้เราก็ต้องใช้หนี้ เป็นหนี้ก็ต้องไม่สร้างหนี้ ต้องรู้เข้าใจ เรายอมรับว่าเรามีความแก่เป็นธรรมดา มีความเจ็บเป็นธรรมดา มีความตาย มีความพลัดพรากจากไปเป็นธรรมดา อันนี้เป็นหนี้เป็นสินเป็นกรรมเป็นกฎแห่งกรรมเป็นผลของกรรม ไม่มีใครเหนือกรรมเหนือกฎแห่งกรรมไปได้ ยกตัวอย่างอย่างพระโมคคัลลานะผู้มีอิทธิปาฏิหารย์มากเป็นอัครสาวกฝ่ายซ้ายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยบุพกรรมของท่านในปางก่อน ด้วยความรู้ความเข้าใจท่านก็ยอมรับกรรม ท่านไม่หนีกรรม ใจของท่านถึงเข้าสู่นิโรธความดับทุกข์ได้ด้วยรู้ทุกข์

 

ให้เรารู้เข้าใจเรื่องกรรม เรื่องกฎแห่งกรรมเรื่องผลของกรรม เราจะไม่ได้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ การลิดรอนสิทธิเสรีภาพนี้มันคือความไม่ถูกต้องให้รู้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้มีความสงบจะได้มีปัญญา การพัฒนาประเทศไทยของเราหรือทุกประเทศได้มาจากภาษีอากรของประชาชนทุก ๆ คนที่อยู่ในประเทศนั้น ๆ ทุก ๆ คนต้องเสียภาษีอากรเพื่อพัฒนาประเทศเพื่อบริหารประเทศ เพื่อไม่ให้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ เพื่อให้อยู่ในความสงบในความเพียงพอในความพอดี ถ้าเราเอาตัวตนนำชีวิตเรียกว่าลิดรอนสิทธิเสรีภาพให้เข้าใจอย่างนี้นะ ข้าราชการนักการเมืองนักบวชคือบุคคลที่ใช้ภาษีอากรในการบริหารประเทศ จากงบประมาณของแผ่นดินนะ ประเทศไทยเราอยู่ในระดับโกงกินปัจจุบันนี้แหละ ประเทศในโลกนี้มีอยู่ ๑๙๕ ประเทศ ประเทศไทยเราอยู่ในระดับ การโกงกินคอร์รัปชั่นในปี พ.ศ.๒๕๖๘ อยู่ระดับ ๑๐๗ ของโลกนะ อยู่ในระดับพังทลายเช่นเดียวกับตึกสตง.เป็นความเสียหายมาก

 

เดี๋ยวนี้ความรู้สึกของประชาชน เราจะมองดูเห็นเองด้วยปัญญา ก็เห็นตัวเราเป็นโจรเป็นมหาโจร เรามองดูคนอื่นก็เห็นกับเป็นโจรเป็นมหาโจรเท่ากับโจรมันลอยมาเลยนะ เรามองเห็นหน้าข้าราชการนักการเมืองนักบวชก็เหมือนกับมองเห็นหน้าโจรมหาโจรลอยมาเลยเป็นอัตโนมัติเลยนะ เห็นหน้าข้าราชการก็เท่ากับเห็นหน้าโจร เห็นหน้านักการเมืองก็เท่ากับเห็นหน้ามหาโจร เห็นหน้านักบวชก็เท่ากับเห็นหน้าโจรหน้ามหาโจร ต้องรู้ว่าตัวตนมันคือโจรคือมหาโจร มีแต่ทุกข์ทุกข์ตั้งอยู่ทุกข์ดับไป นอกจากทุกข์ไม่มี เราทั้งหลายต้องมาสมัครสมานสามัคคีเอาความดีกับปัญญา มาเน้นที่เรา ไม่ต้องไปแก้ไขที่คนอื่น เราเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นคุณครูเป็นข้าราชการเป็นนักบวช

 

เราทั้งหลายต้องมาเน้นที่ตัวเรามีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เพราะปัจจุบันเราเข้าถึงความเป็นมนุษย์ผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสารเป็นเทวดาผู้มีทิพย์วิมานสะดวกสบายที่เห็นภัยในวัฏฏสงสารเป็นพระพรหมผู้สงบมีปัญญาเห็นภัยในวัฏฏสงสาร เป็นพระอริยเจ้าผู้รู้ทุกข์รู้เหตุเกิดทุกข์รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ การบริหารประเทศเค้าบริหารด้วยความสามัคคีด้วยความ

 

 มนุษย์เราต้องเอาความสงบและปัญญานำชีวิต มนุษย์เราต้องรู้เข้าใจต้องพากันมาเสียสละถ้าเราไม่เสียละเราก็เป็นคนไม่มีศีลไม่มีสมาธิไม่มีปัญญา มนุษย์เราถึงต้องเดินทางสายกลางด้วยความรู้ความเข้าใจ รู้อริยสัจสี่รู้ทุกข์ รู้เหตุเกิดทุกข์ ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ พากันมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ ให้เข้าถึงความดับทุกข์ไม่มีทุกข์ตั้งแต่ในปัจจุบันให้เข้าถึงมนุษย์สมบัติสวรรค์สมบัตินิพพานสมบัติตั้งแต่ยังไม่ตายในปัจจุบันด้วยความรู้ความเข้าใจนี้เป็นทางสายกลางของมนุษย์

 

ขออนุโมทนากับท่านทั้งหลายนะ ท่านทั้งหลายเป็นมนุษย์เป็นผู้ที่ประเสริฐที่มีลมปราณมีอายุขัย ถ้าเอาธรรมนำชีวิตพัฒนาใจพัฒนาวัตถุให้มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาอายุขัยของเราก็จะอยู่ได้อย่างน้อย ๑๐๐ ปี ด้วยปิติสุขเอกัคคตาให้เรารู้เข้าใจ จะได้เอาปัจจุบันนี้มาใช้มาปฏิบัติ ทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์มหาชนถึงพร้อมด้วยปิติสุขเอกัคคตาด้วยความไม่ประมาท เราทั้งหลายเป็นผู้ประเสริฐมาระลึกถึงปัจฉิมโอวาทของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนที่ท่านจะเสด็จดับขันธ์สู่ปรินิพพาน

 

“วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ” แปลว่า “สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจง (ยังประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่น) ให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด”

 

โอวาทของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ความไม่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และแน่นอนนะ

ความยิ่งใหญ่ คือความไม่ยั่งยืนนะ

ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ คือชีวิตที่อยู่ด้วยทาน ศีล เมตตา และกตัญญู

ชีวิตที่มีความดี อาจมิใช่ความยิ่งใหญ่ แต่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ต้องอาศัยคุณธรรมความดีเป็นปัญญาบริสุทธิคุณเท่านั้น การระงับสังขารทั้งหลายด้วยความรู้ความเข้าใจเป็นความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัตินั่นแหละคืออริยมรรค เป็นหนทางที่ประเสริฐมีพระนิพพานตั้งแต่ในปัจจุบัน ไม่ต้องรอพระนิพพานเมื่อตายแล้ว ปัจจุบันไม่มีพระนิพพาน อนาคตจะมีพระนิพพานได้อย่างไร

 

ให้เรารู้เข้าใจเรื่องพระธรรมพระวินัย พระธรรมพระวินัยที่เป็นสัมมาทิฐิ เพื่อหยุดวัฏฏสงสารนั่นแหละคือพระนิพพาน ให้พวกเรารู้เข้าใจในเรื่องพระนิพพาน ให้พวกเรารู้เข้าใจในเรื่องพระนิพพาน ให้เข้าใจนะว่าสิ่งเดิมนั้นคือความว่างเปล่า สิ่งที่สัญจรไปมาเป็นเพียงอาคันตุกะ เราจะได้เอาหลักการอุดการณ์ที่เป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญาเป็นมรรคเป็นอริยมรรคที่ตรงกันข้ามกับโลกธรรม ให้รู้เข้าใจ เพราะไม่มีใครอยู่เหนือกรรมเหนือกฎแห่งกรรมเหนือผลของกรรม พระนิพพานความรู้ความเข้าใจในเรื่องปฏิจจสมุปบาทจะเป็นความสงบเป็นปัญญา เป็นพระนิพพานบ้านของเรา ไม่ใช่อวิชชาความหลงเป็นบ้านของเรานะ พระนิพพานคือบ้านของเรา ความสงบและปัญญาถึงเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม เราจะหยุดวัฏฏสงสารได้ด้วยความสงบและปัญญา ธรรมะนั้นถึงหยุดความปรุงแต่งได้ด้วยปัญญาสัมมาทิฏฐิคู่กับการประพฤติการปฏิบัติ

 

-------------------------------------

โอวาทขององค์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม

เมตตาให้ไว้ในเช้าวันที่ ๒๑ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘

ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

Visitors: 101,695