๒๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘

ประกาศให้ประชาชนทุก ๆ คนเพื่อจะได้รู้จักมูลนิธิกาญจนบารมีในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิกาญจนบารมีได้จัดตั้งเมื่อปี พุทธศักราช ๒๕๔๐ คริสต์ศักราช ๑๙๙๗ ฮิจเราะห์ศักราช ๑๔๑๘

ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๕ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ที่สถานพักฟื้นผู้ป่วยโรคมะเร็งอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พระองค์ทรงทราบถึงปัญหา ความเดือดร้อนของพสกนิกรชาวไทยที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งต้องได้รับการรักษา ผู้ที่ยังไม่ป่วยเป็นมะเร็งต้องได้รับการตรวจคัดกรอง พระองค์จึงทรงพระราชดำริให้จัดสร้างศูนย์บำบัดคัดกรองรักษาโรคมะเร็งขึ้นที่อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วยในจังหวัดปทุมธานี 

พระองค์ทรงทราบถึงปัญหา ความเดือดร้อนของเหล่าพสกนิกรชาวไทยที่เป็นภัยเงียบ ๆ มาจากโรคมะเร็ง พสกนิกรชาวไทยสมควรที่จะต้องคัดกรองตรวจสุขภาพทุก ๆ คน ทุก ๆ ปี ว่ามีใครบ้างมีแนวโน้มที่จะป่วยเป็นโรคมะเร็ง ด้วยเหตุผลนี้พระองค์ทรงให้จัดตั้งมูลนิธิกาญจบารมี เพื่อให้พสกนิกรได้พากันตรวจทุก ๆ คน ทุก ๆ หมู่บ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ให้แพทย์ให้พยาบาล ไปตรวจไปคัดกรองยังท้องถิ่น ทุก ๆ หมู่บ้าน ทุก ๆ อำเภอ ทุก ๆ จังหวัด ไปทุกภาคของประเทศไทย เป็นโรงพยาบาลเคลื่อนที่ ด้วยมูลนิธิกาญจนบารมีในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกไปทำงานออกไปตรวจคัดกรอง ออกไปทำงานทุก ๆ วันในวันทำงานของราชการ ไป ๔ ภาคของประเทศไทย ไปพร้อม ๆ กันทั้ง ๔ ภาค เป็นรถบัสขนาดใหญ่จัดทำพิเศษในการทำงาน มีอุปกรณ์ตรวจคัดกรองเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยจากนายแพทย์ผู้ชำนาญ

พสกนิกรชาวไทยส่วนใหญ่อยู่ห่างไกลจากแพทย์พยาบาลไม่มีโอกาสไม่มีเวลาเข้าถึงแพทย์ถึงพยาบาล ด้วเหตุผลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๑๐ เมื่อยังทรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ท่านจึงทรงมีเมตตาให้จัดตั้งมูลนิธิกาญจนบารมีขึ้นในพระบรมราชูปถัมภ์

พสกนิกรชาวไทยนั้นได้อยู่ทั่ว ๆ ประเทศ ไม่สามารถที่จะเข้ามาตรวจคัดกรองที่ศูนย์มะเร็ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงทรงให้จัดตั้งมูลนิธิฯ เพื่อไปคัดกรองโรคมะเร็ง ไปทุกถิ่นทุกหนทุกแห่งของเมืองไทยประเทศไทย

 ราษฎรทุกคนจะได้ตรวจ จะได้คัดกรอง และเมื่อตรวจเจอว่าใครมีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็ง จะได้หาวิธีแก้ไขเพื่อปลอดภัยจากการเป็นโรคมะเร็ง ผู้ที่ตรวจเจอว่าเป็นโรคมะเร็ง จะได้ส่งไปหาแพทย์พยาบาลผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะให้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

ผู้ป่วยที่มีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็ง จะได้มีหลักการในการประพฤติการปฏิบัติตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดโรคมะเร็ง เพื่อความรู้ความเข้าใจเพื่อปลอดภัยจากการเป็นโรคมะเร็ง ผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งอยู่แล้วจะได้รับการรักษาที่ติดต่อต่อเนื่องจากแพทย์พยาบาลผู้ชำนาญอย่างเอาใจใส่ โรคมะเร็งต้องรักษาให้รวดเร็วทันใจ ว่องไว รักษาทันที เป็นมะเร็งขั้นที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ต้น ๆ นั้นรักษาได้ รักษาหาย ถ้าไม่ได้รักษาขั้นที่ ๓ ปลาย ๆ ขั้นที่ ๔ แล้วยากที่จะรักษาให้หายขาดได้

ศูนย์โรคมะเร็งอยู่ส่วนกลาง ได้แก่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล อยู่ห่างไกลจากญาติพสกนิกรผู้ที่อยู่ต่างจังหวัด อยู่ไกลจากผู้ที่อยู่อำเภอ อยู่หมู่บ้าน ด้วยเหตุผลนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงทรงมีความดำริให้แพทย์พยาบาลออกไปหาชาวบ้าน ออกไปหาประชาชน เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ประชาชนส่วนใหญ่ยากจน ไม่ไม่มีเงิน ไม่สามารถที่จะเดินทางไปหาแพทย์หาพยาบาลได้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านจึงทรงให้แพทย์ให้พยาบาลไปหาพสกนิกรชาวไทยที่บ้าน

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเมตตาเสียสละรับเป็นองค์ประธานเพื่อให้การทำงานได้ติดต่อต่อเนื่อง ให้เป็นโครงการที่ถาวร ที่จะต้องอยู่คู่กับเมืองไทยประเทศไทย ด้วยความรู้ความเข้าใจด้วยความสมัครสมานสามัคคี จึงได้กราบเรียนให้พสกนิกรชาวไทยรับทราบเพื่อรับผิดชอบโครงการเป็นเจ้าภาพร่วมรวมกันทุก ๆ คน โครงการนี้เป็นโครงการที่บริสุทธิคุณ บริสุทธิยุติธรรมผู้บริหารทุก ๆ คนทุก ๆ ท่านไม่มีผลประโยชน์ตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น

ผู้บริหารมูลนิธิกาญจนบารมีได้คัดกรองคณะกรรมการผู้บริหาร ได้คัดกรองเอาเฉพาะท่านผู้ที่เสียสละไม่หวังผลอะไรตอบแทน เอาบุคคลที่เสียสละ เอาตระกูลที่เสียสละ ทำความดีเพื่อความดี เอาผู้เสียสละที่ยกเลิกตัวตน ไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นความดีเป็นบารมีที่บริสุทธิคุณ ไม่มาเอาค่าใช้จ่ายจากการทำงาน  ค่ากิน ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ไม่เอาค่าต่างจากการจัดซื้อจัดจ้างซื้ออุปกรณ์และยา หรือว่ากิจการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิกาญจนบารมีนี้ โครงการนี้จึงเป็นโครงการสีขาว เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาจากการเสียสละสนับสนุนจากพสกนิกรชาวไทยที่เป็นเจ้าภาพร่วมกัน จะเอาไปใช้จ่ายเฉพาะเท่าที่จำเป็น เช่น เงินเดือนแพทย์พยาบาล ค่าน้ำมันในการเดินทางไปทำงาน ปัจจุบันนี้ทางมูลนิธิกาญจนบารมีมีค่าใช้จ่ายในการทำงานเดือนละ ๔ ล้านกว่าบาท ทางมูลนิธิกาญจนบารมีใช้อย่างประหยัดอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาเป็นเวลา ๒๘ ปี ทางมูลนิธิยังไม่ได้บอกข่าวแจ้งข่าว ให้กับประชาชนทุกคนทั้งคนไทยและต่างประเทศ

เพื่อให้การทำงานตรวจคัดกรองเป็นโครงการถาวร ทางมูลนิธิจึงได้แจ้งให้ประชาชนให้มหาชนเป็นเจ้าภาพร่วมกันรับผิดชอบร่วมกัน เสียสละบริจาคเงินคนละ ๑ บาทต่อปีให้กับมูลนิธิกาญจนบารมี มูลนิธิก็จะอยู่ได้ด้วยเงิน ๑ บาทของเราทุก ๆ คน เงิน ๑ บาทนั้นคงจะไม่ทำให้คนใดคนหนึ่งเกิดความยากจน ถ้าใครมีเงินมากมีกำลังทรัพย์มาก ก็สามารถให้การสนับสนุนมากกว่า ๑ บาทได้ และบริจาคได้ทุก ๆ เมื่อ ทุก ๆ วันทุกเวลา

ปัจจุบันนี้การโอนเงินนั้นก็ง่ายมากสะดวกสบาย ใช้การโอนเงินทางโทรศัพท์มือถือ ไม่ต้องไปธนาคาร ใครอยู่ที่ไหนถ้ามีโทรศัพท์มือถือก็โอนได้อยู่ทุกหนทุกแห่ง เลขที่บัญชี ๓๔๐-๒๑๑๓๑๒-๒ บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขางามวงศ์วาน ชื่อบัญชี มูลนิธิกาญจนบารมี ผู้ที่มีความสงสัย ยังไม่เข้าใจ ให้โทรไปติดต่อสอบถามได้ที่มูลนิธิกาญจนบารมี เบอร์โทรศัพท์ติดต่อสอบถามได้ในเวลาราชการ ๐๒-๕๙๐๔๙๗๔ และ ๐๖๕-๘๒๓๑๔๔๗  

มูลนิธิกาญจนบารมี จะมั่นคงถาวรอยู่ได้เพราะเราทุก ๆ คนร่วมกันรับผิดชอบในมูลนิธิกาญจบารมีในพระบรมราชูปถัมภ์

เป็นเงิน ๑ บาทที่เราจะต้องเสียสละและรับผิดชอบ เป็นเจ้าภาพร่วมกัน เราต้องรับผิดชอบร่วม ๆ กันที่ติดต่อต่อเนื่อง จะได้เป็นพื้นเป็นฐานเป็นขบวนการที่ถาวรยั่งยืน เป็นความดีและปัญญาติดต่อต่อเนื่อง เป็นการเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ  

ประวัติที่เป็นเหตุเป็นปัจจัย ที่ได้จัดสร้างศูนย์บำบัดคัดกรองเพื่อไม่ให้เกิดโรคมะเร็ง ภายใต้ในการใช้ชื่อ “โครงการกาญจนบารมีเฉลิมฉลองพระราชพิธีกาญจนาภิเษก ปีพุทธศักราช ๒๕๓๙” โดยมีส่วนร่วมราชการ รัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมทูลเกล้าถวายเงินในการสร้างศูนย์บำบัดคัดกรองดังกล่าว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวโรกาสมหามงคลเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นปีที่ ๕๐ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จึงได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตใช้พระนามของพระองค์เป็นชื่อศูนย์บำบัดรักษาโรคมะเร็งว่า “ศูนย์มหาวชิราลงกรณ ธัญบุรี” ภายหลัง จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี”เพื่อให้โรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี ได้ดำเนินติดต่อต่อเนื่องไปอย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ ตามเป้าหมายทุก ๆ ประการ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้คณะกรรมการของโครงการกาญจนบารมี ดำเนินการจัดตั้ง “มูลนิธิกาญจนบารมี” ขึ้นโดยได้รับการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๐ เป็นเวลายาวนานผ่านมาแล้ว ๒๘ ปี

โครงการบำบัดคัดกรองโรคมะเร็งเบื้องต้นนี้เป็นโครงการที่ดีมาก มีประโยชน์ต่อส่วนร่วมมีประโยชน์ต่อประชาชนต่อมหาชน ดีจริง ๆ มีประโยชน์ต่อส่วนรวม มีประโยชน์ต่อมหาชน เพื่อโครงการนี้จะก้าวไปได้ด้วยความมั่นคงของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จึงได้ประกาศประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนให้มหาชนรับทราบทั่วกัน เพื่อความสมัครสมานสามัคคี เพื่อให้เป็นความดีที่ประกอบด้วยปัญญา เป็นปัญญาประกอบด้วยความดี

ปัจจุบันประเทศไทยเราปี ๒๕๖๘ มีประชากรในทะเบียน ๖๕,๙๓๒,๑๐๕ คน ถ้าประชาชนทุก ๆ คนมีความเห็นไปในทางเดียวกัน มีความสมัครสมานสามัคคี เพื่อเอาความดีและปัญญา ก้าวไปด้วยศีลด้วยสมาธิด้วยปัญญา เสียสละบริจาคทาน เงินคนละ ๑ บาท เพื่อสนับสนุนมูลนิธิกาญจนบารมี เพื่อให้แพทย์พยาบาล ไปทำงานไปคัดกรองมะเร็งเต้านมของสุภาพสตรี มะเร็งทรวงอกของสุภาพสตรี ระยะต้นระยะกลาง เพื่อไม่ให้สายเกินแก้ สายเกินไป โครงการที่นี้ดีมาก ๆ ดีจริง ๆ เป็นความมั่นคงของชาติ ศาสน์ กษัตริย์

ทางมูลนิธิกาญจนบารมีก็จะมีเงินในการบริหารการทำงานจากความสมัครสมานสามัคคี จำนวนหกสิบห้าล้านเก้าแสนสามหมื่นสองพันหนึ่งร้อยห้าบาท คิดจากประชากรของประเทศ เพียงแต่บริจาคคนละ ๑ บาท สามารถทำงานบริหารได้เป็นเวลา ๑ ปี ขณะนี้เวลานี้ ทางมูลนิธิได้ใช้เงินบริหารเดือนละ ๔ ล้านกว่าบาท ใช้เงินกันอย่างประหยัดไม่ให้ฟุ่มเฟือย ผู้บริหารมูลนิธิกาญจนบารมีทุกคนไม่เอาค่าเงินเดือนในการบริหาร ค่าที่อยู่ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง เงินส่วนนี้เอาไปใช้เฉพาะเงินเดือนแพทย์พยาบาลเจ้าหน้าที่พนักงานค่าน้ำมันรถ ให้ผู้ที่เสียสละเป็นเจ้าภาพร่วมกันทุกท่านทุกคนได้พากันเข้าใจตามนี้ ที่ผ่านมาเป็นเวลาหลายปี ทางมูลนิธิไม่ได้บอกข่าวไม่ได้แจ้งข่าว เพื่อความมั่นคงในการทำงาน หรือความมั่นคงของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จึงได้บอกข่าวแจ้งข่าวให้พี่น้องประชาชนทุกคนได้รับทราบทั่ว ๆ กัน ให้ทุกคนเข้าใจไปในแนวทางเดียวกัน จะได้รับผิดชอบไปพร้อม ๆ กัน

ทุก ๆ วันหน่วยแพทย์พยาบาลคัดกรองมะเร็งจะออกทุก ๔ ภาคของประเทศไทย มีรถใหญ่รถบัส เป็นกองคาราวาน เสริมด้วยรถคันเล็กไปตั้งตรวจคัดกรองทุก ๆ อำเภอของประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนทุก ๆ คนอยู่ในท้องที่ท้องถิ่น ได้รับการตรวจคัดกรอง เพื่อเข้าหาประชาชนทุก ๆ คน  เพื่อให้แพทย์พยาบาลได้ทำงานในการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งช่องอกหรือส่วนต่าง ๆ ของสุภาพสตรี

การทำงานของมูลนิธิกาญจนบารมี เงินส่วนนี้ได้มาจากผู้มีศรัทธาผู้มีกำลังทรัพย์ได้เสียสละบริจาค แต่ก็รู้กันเป็นส่วนน้อยอยู่ในวงน้อย ๆ อยู่ในวงแคบ ๆ ประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นประชาชนมหาชนยังไม่รู้ว่ามูลนิธิกาญจนบารมีนี้ทำงานปฏิบัติคัดกรอง เงินเหล่านี้ได้มาจากการบริจาคของประชาชน ไม่ได้รับงบประมาณจากงบประมาณของแผ่นดินที่มาจากภาษีอากรของประชาชน เงินส่วนนี้มาจากศรัทธาในการบริจาค เพื่อให้แพทย์พยาบาลทำงาน บริหารงานจากเงินบริจาค ที่ผ่านมาทางมูลนิธิทำงานมาด้วยความยากความลำบากเพราะขาดแคลนในการสนับสนุน เพราะประชาชนมหาชนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจ ด้วยเหตุผลนี้จึงได้บอกให้ประชาชนมหาชนให้รู้ให้เข้าใจ เพื่อจะมีแนวคิดไปในทางเดียวกัน มีความคิดความดำริในไปทางเดียวกัน

 เรามาคิดดูดี ๆ นะ เรามาเป็นเจ้าภาพร่วมกันทุก ๆ คนนะ ทางมูลนิธิกาญจนบารมีก็จะได้ทำงานกันอย่างสบาย ๆ จากทุกคนเสียสละคนละ ๑ บาทร่วม ๆ กัน จึงเป็นการบริจาคเป็นเจ้าภาพร่วมกัน คนหนึ่งปีละ ๑ บาท เงิน ๑ บาทนี้ถือว่าไม่มากนะ สามารถบริจาคได้ทุก ๆ คน ปัจจุบันนี้ประเทศไทยของเรามีประชากรที่ได้ลงทะเบียน จำนวน ๖๕,๙๓๒,๑๐๕ คน ถ้าทุกคนบริจาคเพียงคนละ ๑ บาท ก็จะได้เงินมาบริหารในการทำงานจำนวนหกสิบห้าล้านเก้าแสนสามหมื่นสองพันหนึ่งร้อยห้าบาท คิดจากประชากรของประเทศ เพียงแต่บริจาคคนละ ๑ บาท สามารถทำงานบริหารได้เป็นเวลา ๑ ปี 

มะเร็งเต้านมเป็นเร็งที่พบมากที่สุดในสตรีทั่วโลก จากข้อมูลองค์การอนามัยโลก พบว่าในปี ๒๕๖๓ ผู้ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมรายใหม่ทั่วโลก ๒.๓ ล้านคนต่อปี เสียชีวิต ๖๘๕,๐๐๐ คน และมีผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านมมีชีวิตอยู่ถึง ๗.๘ ล้านคน

มะเร็งเต้านมก็เป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในสตรีไทยสตรีต่างประเทศ โดยพบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่ ๒๒,๑๕๘ คนต่อปี เสียชีวิต ๘,๒๖๖ คนต่อปี หรือทุก ๑ ชั่วโมง จะมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งเต้านม ๑ ราย

การป้องกันที่ดีที่สุดคือการตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกด้วยการตรวจเต้านมตัวเอง จะสามารถพบก้อนขนาด ๒ เซนติเมตรขึ้นไป จะมีโอกาสรักษาหายขาดได้ร้อยละ ๗๐ หากพบขนาด ๕ เซนติเมตรขึ้นไป มีโอกาสรักษาหายร้อยละ ๓๐ แต่มีอีกวิธีคือ การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเมมโมแกรม ซึ่งสามารถค้นพบก้อนตั้งแต่ขนาด ๒-๓ มิลลิเมตร ก็สามารถจะรักษาให้หายขาดได้เกือบทั้งหมด แต่การเอกซเรย์เต้านมด้วยเครื่องเมมโมแกรมไม่อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่สามารถจะเข้าถึงการบริการได้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิกาญจนบารมี จัดทำโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ที่ใช้รถบัสคันใหญ่ จำนวนไม่น้อยกว่า ๕ คันต่อหน่วยไปตรวจคัดกรองทุก ๆ อำเภอ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการคัดกรองเพื่อป้องกันโรคมะเร็งเต้านม อาจจะเกิดกับทุก ๆ สุภาพสตรีได้ในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาสทั่วทุก ๆ อำเภอทุก ๆ ภาคของประเทศไทย ไม่มีโอกาสได้ไปพบแพทย์พบหมอ ทางมูลนิธิกาญจนบารมีจึงได้จัดแพทย์และหมอไปตรวจคัดกรองประชาชนทุก ๆ อำเภอของประเทศไทย ได้ทำงานติดต่อต่อเนื่อง ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๕๗ จนถึงปัจจุบัน ได้ตรวจคัดกรองผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งไปแล้วประมาณหนึ่งล้านคน พบที่เป็นมะเร็งต้านมในระยะเริ่มแรกมากกว่า ๖,๙๐๐ คน ทั้งหมดได้รับการส่งต่อไปรักษาจนหายขาดเกือบทั้งสิ้น

ปัจจุบันมูลนิธิกาญจนบารมีมีหน่วยคัดกรองมะเร็งเต้านมจำนวน ๔ หน่วย ๑ หน่วยประจำ ๑ ภาค คือ เหนือ กลาง ตะวันออกเฉียงเหลือและใต้ โดยทั้ง ๔ หน่วยให้บริการพร้อมกันวันละ ๑ อำเภอทุกวันเวลาราชการ

เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการคัดกรองมะเร็งเต้านม มูลนิธิกาญจนบารมี มองด้วยเหตุผลเห็นความจำเป็นจึงได้แจ้งข่าวบอกข่าวไปยังพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุก ๆ คนของประเทศไทย ความสมัครสมานสามัคคีที่จะต้องพร้อมเพรียง เสียสละ บริจาคเงินคนละ ๑ บาท เพื่อสนับสนุนให้มูลนิธิกาญจนบารมี เพื่อจะได้ทำงาน เพื่อความสมัครสมานสามัคคี

โครงการนี้เป็นโครงการที่ถาวร เป็นโครงการที่อยู่คู่กับเมืองไทยประเทศไทย ขอให้ทุกท่านทุกคนโอนเงินไปยังมูลนิธิกาญจนบารมีได้ทุก ๆ วัน ไม่มีวันไหนไม่ได้ โครงการนี้เป็นโครงการที่ถาวร เป็นโครงการที่อยู่คู่กับเมืองไทยประเทศไทย ขอให้ทุกท่านทุกคนโอนเงินไปยังมูลนิธิกาญจนบารมีได้ทุก ๆ วัน  

วันเสาร์ที่ ๒๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เวลา ๑๓.๓๐ น. ทางมูลนิธิกาญจนบารมีในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้เชิญชวนข้าราชการนักการเมืองพ่อค้าประชาชนทั้งที่อยู่ในเมืองกรุง ปริมณฑล ต่างจังหวัด รวมพลังสมัครสมานสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไปเป็นเจ้าภาพในการทอดผ้าป่า เป็นเจ้าภาพร่วมกันทุก ๆ คนไปรวมกันที่สนามหลวง กรุงเทพมหานคร เพื่อแสดงถึงความสมัครสมานสามัคคี จัดทอดผ้าป่าเพื่อสมทบทุนมูลนิธิกาญจนบารมีเพื่อให้เป็นพลังสมัครสมานสามัคคีที่สนามหลวง สนามหลวงเป็นสถานที่ส่วนกลางของเมืองหลวง ขอเชิญทุกท่านทุกคนไปรวมกันที่สนามหลวงเพื่อไปทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อมอบเงินให้มูลนิธิกาญจนบารมีในพระบรมราชูปถัมภ์

ท่านผู้ที่อยู่ไกล อยู่ต่างจังหวัด ก็ให้ส่งซองผ้าป่าทอดผ้าป่ามูลนิธิกาญจนบารมีรวมที่ผู้ว่าราชการจังหวัดของจังหวัดนั้น ๆ ผู้ว่าราชการจังหวัด ก็จะได้รวบรวมโอนเงินไปยังมูลนิธิกาญจนบารมี วิธีง่าย ๆ ก็ใช้วิธีโอนเงินทางโทรศัพท์มือถือ หมายเลขบัญชี ๓๔๐-๒๑๑๓๑๒-๒ บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขางามวงศ์วาน ชื่อบัญชี มูลนิธิกาญจนบารมี ผู้ที่มีความสงสัย ยังไม่เข้าใจ ให้โทรไปติดต่อสอบถามได้ที่มูลนิธิกาญจนบารมี เบอร์โทรศัพท์ติดต่อสอบถามได้ในเวลาราชการ ๐๒-๕๙๐๔๙๗๔ และ ๐๖๕-๘๒๓๑๔๔๗  

จัดงานทอดผ้าป่าที่สนามหลวง ในวันที่ ๒๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เวลา ๑๓.๐๐ น. มูลนิธิกาญจนบารมี ได้รับความเมตตาจาก เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน) กรรมการมหาเถรสมาคม วัดราชพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร มาเป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ และได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม มาเป็นประธานร่วมฝ่ายสงฆ์ร่วมกับท่านสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ และได้รับเกียรติสูงสุดจาก องคมนตรี ท่านพลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

มูลนิธิได้รับความเมตตาจากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ให้ใช้สนามหลวงส่วนกลางเป็นสถานที่จัดงานในงานทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ ในเวลา ๑๓.๐๐ น. ของวันที่ ๒๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘

ทางมูลนิธิกาญจนบารมีในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้ขอเชิญชวนให้ทุกท่านทุกคนได้มาร่วมรวมกันสมัครสมานสามัคคีไปรวมกันที่สนามหลวง เพื่อความมั่นคงของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม นามธรรม ในการบริหารในการทำงาน

การประชาสัมพันธ์ขอจบลงเพียงเท่านี้

ขออำนวยอวยชัยเอาคุณพระศรีรัตนตรัย ที่เป็นทั้งความสงบและปัญญา เป็นปัญญาและความสงบ เป็นการเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เข้าถึงเศรษฐกิจพอเพียงเพียงพอ จงอำนวยอวยชัยให้ท่านทั้งหลายเข้าถึงความสงบและปัญญาในปัจจุบัน เพราะเหตุผลว่า อดีตก็มารวมกันที่ปัจจุบันแล้ว อนาคตที่จะไปข้างหน้าก็มารวมที่ปัจจุบันแล้ว ปัจจุบันถึงเป็นวาระแห่งชาติทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพมารวมลงที่ความสงบและปัญญา มารวมลงที่ความพอดี ความพอเพียงเพียงพอ เป็นการเข้าถึงเศรษฐกิจพอเพียงเพียงพอ เป็นประภัสสรด้วยความรู้ความเข้าใจ เรารู้เราเข้าใจเราจะได้เข้าถึงความสงบและปัญญา

เราคิดดูดี ๆ นะ เราอยากได้มากมันก็ไม่มากมันก็เท่าเก่า เราอยากได้น้อยมันก็ไม่น้อยมันก็เท่าเก่า ความรู้ความเข้าใจนั้นเป็นความรู้ รู้วัตถุรู้ทั้งใจไปพร้อม ๆ เราทั้งหลายจะได้เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เข้าถึงเศรษฐกิจพอเพียงเพียงพอ ดังโอวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดช ท่านทรงตรัสกับพสกนิกรชาวไทยและชาวโลกว่า เราทั้งหลายต้องเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ ผู้มีปัญญามากก็ต้องมีความสงบมาก ผู้มีความสงบมากก็ต้องเสียสละมาก เพราะสภาวธรรมที่เป็นความสงบและปัญญาจะเป็นหนึ่งจะเป็นความพอเพียงเพียงพอ เป็นประภัสสรไม่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพด้วยความรู้ความเข้าใจ เราทั้งหลายจะได้เข้าถึงธรรมถึงปัจจุบันธรรม จะได้เข้าถึงธรรมนูญ รัฐธรรมนูญ เข้าถึงความสงบ เข้าถึงปัญญา เข้าถึงพระนิพพานคือบ้านของเรา ไม่ใช่อวิชชาความหลงเป็นบ้านของเรา

เราทั้งหลายทุกคนจะได้แก้ไขที่เราด้วยความรู้ความเข้าใจ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจ ชีวิตนี้ก็ย่อมพังทลายเช่นเดียวอย่างเดียวกับตึกสตง. ตึกที่ไหนก็ไม่พัง พังตึกเดียวคือตึก สตง. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ตึกอื่นมีหลายสิบตึกทั่วฟ้าของเมืองไทย ความรู้ความเข้าใจนี้เราทั้งหลายถึงเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ

เราคิดดูดี ๆ นะ เราอยากได้มากมันก็ไม่มากมันก็เท่าเก่า เราอยากได้น้อยมันก็ไม่น้อยมันก็เท่าเก่า เราต้องรู้เข้าใจ เราจะไม่ได้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของธรรมสภาวธรรม เราต้องรู้เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงอาคันตุกะสัญจรไปมาชั่วครู่ชั่วยาม สิ่งที่เดิมแท้ให้เรารู้เข้าใจจะได้เข้าถึงความสงบถึงปัญญา เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ ยกเลิกตัวตน เราจะได้เดินทางสายกลางระหว่างวิทยาศาสตร์กับจิตใจไปพร้อม ๆ กัน ที่เป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม เราจะได้คืนอธิปไตยให้กับธรรมชาติ เพราะเราต้องรู้เข้าใจ ความเป็นนิติบุคคลตัวตนมันจะเป็นรัฐประหารมันจะประหารตัวของมันเอง มันจะพังทลายอย่างเดียวเช่นเดียวกับตึกสตง.สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินของเมืองไทยประเทศไทย เราต้องรู้เข้าใจว่า เราเป็นใครก็ต้องแก้ที่คนนั้น เดี๋ยวนี้แหละด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ เราทั้งหลายก็จะไปแก้ที่คนอื่น เป็นข้าราชการก็เป็นแก้ที่คนอื่น เป็นนักการเมืองก็ไปแก้ที่คนอื่น เป็นนักบวชก็จะไปแก้ที่คนอื่น ไปแก้คนอื่นไม่ได้

เราดูตัวอย่างองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็แก้ที่ท่าน พระเยซูท่านก็แก้ที่พระเยซู พระนบีมูฮัมหมัดท่านก็แก้ที่ท่าน เราต้องรู้เข้าใจ เมื่อเรารู้เข้าใจแล้วเราก็จะได้แก้ที่เราทุกคน เราทุกคนถึงจะเป็นผู้ที่มีศีลมีสมาธิมีปัญญา จะได้เข้าถึงปัญญาเข้าถึงสภาวธรรม ความเป็นประภัสสร เราต้องยกเลิกตัวตน ยกเลิกความไม่ถูกต้อง เพื่อจะไม่ได้เอาความผิดนำชีวิต เพื่อจะไม่ได้เอาทุจริตนำชีวิต เพื่อจะไม่ได้พังทลายอย่างเดียวเช่นเดียวกับตึก สตง.

-----------------------------------------

โอวาทขององค์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม

เมตตาให้ไว้ในเช้าวันเสาร์ที่ ๒๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘

ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา