ชมรมธรรมะจิตอาสา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก 14 – 17 พฤษภาคม 2557
คุณครูเป็นผู้ประเสริฐ...
(ให้โอวาทคณะคุณครูจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั่วประเทศ)
วันนี้คณะคุณครูจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั่วประเทศจะได้เดินทางกลับบ้าน...
คุณพ่อ คุณแม่ และคุณครูเป็นตำแหน่งที่ประเสริฐ เป็นตำแหน่ง ที่เกิดมาเพื่อตั้งมั่นในความดี เป็นตัวอย่าง เป็นแบบพิมพ์
คนเราถ้ามีคุณพ่อคุณแม่มีคุณครูที่ดี บุคคลผู้นั้นถือว่าเป็นบุคคลที่ประเสริฐ
คุณครูทุกท่านน่ะได้มาอยู่วัด ได้มาปฏิบัติธรรม ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก เป็นสิ่งที่ประเสริฐมาก มาประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างนี้ดีกว่า ไปเที่ยวทัศนาจร เที่ยวเขา ชมทะเล ดูบ้าน ดูเมือง
พ่อแม่คือผู้ประเสริฐ คุณครูเป็นผู้ประเสริฐ เกิดมาเพื่อเป็นผู้เสียสละ เป็นผู้ให้
ในหลวงของเรา พระพุทธเจ้า และพระอริยสงฆ์น่ะท่านพาเราประพฤติปฏิบัติที่ตัวเราเอง เพราะปัญหาต่าง ๆ นั้นมีมากมาย แต่ทุกคนต้องมาแก้ที่ใจของเราให้สงบ ท่านให้เราแก้ที่ภายนอกไป และแก้ที่ใจของเราไปพร้อม ๆ กัน
ปัญหาต่าง ๆ นั้น จะให้หมดนั้นมันไม่หมดหรอก...
ปัญหานี้เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วมันก็ดับไป ปัญหาใหม่ก็มาอีก สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่เรื่องพิเศษ
พระพุทธเจ้าท่านสอนเราให้ถือว่าสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ตั้งอยู่ สิ่งที่ดับไปนั้นเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษ ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ไม่มีอะไรที่จะตั้งอยู่ได้
เรามาอยู่ด้วยกันมาร่วมปฏิบัติธรรม ถึงกาลเวลาเราทุกคนก็จากไป
ทุกท่านทุกคนนั้นต้องพยายามประพฤติปฏิบัติใจของเรา พยายาม มีสติสัมปชัญญะว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมีการเกิดขึ้น มีการตั้งอยู่ มีการดับไปเป็นธรรมดา
เราทำใจให้สบาย ทำใจของเราไม่ให้มีทุกข์ให้ได้ เราจะได้ไปสร้างประโยชน์ตนและประโยชน์บุคคลผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท
อดีต...สิ่งที่ผ่านไปแล้วทุกคนย่อมไม่เอามาคิด ย่อมไม่เอามาปรุงแต่ง เพื่อซ้ำเติมตัวเอง
พยายามแก้ไขใจของตัวเองให้มันสบาย เพื่อใจไม่มีทุกข์ให้ได้
เรื่องทิฏฐิ เรื่องมานะ อัตตาตัวตน ที่เราทุกคนยึดมั่นถือมั่น ว่าเป็นเราเป็นของ ๆ เราน่ะ ทุกคนต้องพยายามมีสติมีสัมปชัญญะ เพื่อที่จะละ จะปล่อย จะวาง เพราะเราถือว่าเป็นผู้มีภาระหนักน่ะ เราได้พากันยึดมั่นถือมั่นมาตั้งหลายภพหลายชาติ
คนเราน่ะเมื่อมันมีลมหายใจมันก็มีร่างกาย เมื่อมันเจอกับสิ่งแวดล้อมเราก็ไปตามสิ่งแวดล้อม ถ้าเราไม่มีสติ ไม่มีสัมปชัญญะ เราก็พากันตกอยู่กับสิ่งแวดล้อม มันไม่มีอะไรมากไปกว่านี้
เรื่องปัญหาหน้าที่การงาน เรื่องปัญหาหน้าที่ในการอยู่ในครอบครัวนั้น คุณครูทุกคนต้องทำใจของเราให้สบายให้ได้ ทำใจของเราไม่ให้ทุกข์ ให้ได้ จึงจำเป็นต้องใช้สมาธิมาก
พยายามทำใจของเราให้มันสงบ ทำใจของเราให้เย็นให้ได้
เวรนี้ย่อมระงับด้วยการไม่ทำกรรมทำเวร
พยายามหยุดตัวเองให้ได้ สงบตัวเองให้ได้
เราไปอยู่ที่ไหน ทำอะไรมันก็ต้องมีสิ่งเหล่านี้อยู่อย่างนั้นแหละ
เราจะเอาแต่คนดี...คนไม่ดีเราจะเอาไปไว้ที่ไหน
เราจะเอาสิ่งที่สบาย...สิ่งที่ไม่สบายเราจะเอาไปไว้ที่ไหน
ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเราต้องฝึกใจของเราให้สงบ ฝึกใจของเรา ไม่ให้มีทุกข์ ให้มีความสุข มีกำลังใจในการทำงาน
การทำงานของเราต้องให้มีความสุข
วันหนึ่งคืนหนึ่งน่ะ เราทำงานเป็นส่วนใหญ่ เราพักผ่อน เพียงเล็กน้อย ถ้าเราไปปฏิฆะกับเพื่อน ปฏิฆะในการทำงานนั้น เราก็เกิดความทุกข์ เกิดความเครียดน่ะ มันไม่เกิดประโยชน์เลยที่เราทุกคนไปมีความเครียด มีความทุกข์
เราทุกคนต้องทำใจของเราให้สงบให้ไม่มีทุกข์ให้ได้
เราถือว่าเราโชคดี เรามีโอกาสได้มาแก้ที่ใจของตัวเราเอง แก้ที่คำพูด แก้ที่การกระทำของตัวเอง
อดเอา ทนเอา เดี๋ยวใจมันก็สงบ...
ทุกคนในโลกนี้ล้วนแต่มีความทุกข์ทั้งทางกาย มีความทุกข์ทั้งทางใจ มีความทุกข์ในหน้าที่การงานด้วยกันทั้งนั้น ผู้ที่ไม่มีความทุกข์นั้นมันไม่มีเลย
พระพุทธเจ้าท่านถึงให้เราเจริญเมตตาเจริญสงสารบุคคลอื่นให้มาก
ทุกคนนั้นย่อมต้องการความรัก ความเมตตา ความอบอุ่นจากเรา สิ่งไหนมันจะทำให้ใจของตัวเองไม่สงบน่ะเราไม่ต้องไปคิดมัน เราจะสมาทานปล่อย สมาทานวาง
สิ่งที่แล้ว ๆ ที่ผ่านมานั้นบางคนก็ทำผิดเป็นส่วนมาก คิดผิดเป็นส่วนมาก พูดผิดเป็นส่วนมาก หรือว่าทำผิด คิดผิด พูดผิด เป็นส่วนน้อยนั้นถือว่าเป็นเรื่องอดีต ต่อไปนี้เราจะสมาทานเอาแต่สิ่งที่ดี ถึงจะยากถึงจะลำบาก เราก็ต้องทำต้องประพฤติปฏิบัติเพื่อตัวเรา เพื่อครอบครัวของเรา เพื่อประเทศชาติบ้านเมือง
การกระทำความดีนั้นเป็นของยาก เปรียบเสมือนเราว่ายน้ำ ทวนกระแส มันต้องได้ฝืน ได้อด ได้ทน
มนุษย์ของเราประเสริฐอยู่ที่ไม่ทำตามความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นผู้ที่ทวนกระแส
คนเราน่ะถ้าต้องการความสุขความดับทุกข์นั้น ต้องอดต้องทน ต้องเพียร ผู้ที่ไม่อดไม่ทนไม่เพียรนั้น อนาคตต้องเป็นผู้ลำบากทั้งกายทั้งใจแน่นอน
เราเป็นผู้เคยชินเป็นผู้ชำนาญในสิ่งที่เก่า ๆ จนคล่องแคล่วจนเป็น “วสี” เราถึงต้องมามีสติสัมปชัญญะ มาประพฤติมาปฏิบัติตัวเอง เราจะได้เป็นคุณพ่อคุณแม่ที่ประเสริฐ เป็นคุณครูที่ประเสริฐ สมกับยศ สมกับตำแหน่งที่พระพุทธเจ้าท่านมอบให้เรา ในหลวงท่านมอบให้เรา ประเทศชาติสังคมมอบให้เราว่า “คุณครูเป็นผู้ประเสริฐ...”
ขออำนวยพรให้คุณครูทุกท่านจงมีสุขภาพกาย สุขภาพใจ และธุรกิจหน้าที่การงาน ตลอดถึงลูกถึงหลาน วงศ์ตระกูล จงได้มีแต่ ความสงบ ความร่มเย็นด้วยกันทุกท่านทุกคน
ด้วยอานุภาพของพระพุทธเจ้า อานุภาพของพระธรรม อานุภาพของพระอริยสงฆ์ สิ่งที่ดี ๆ ทั้งหลายทั้งมวลในโลกนี้ จงให้ทุกท่านทุกคนได้รับความสงบ ความร่มเย็นด้วยกันทุกท่าน ทุกคนเทอญ...
พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่องค์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม เมตตาให้นำมาบรรยาย
ให้แก่คณะคุณครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาทั่วประเทศ
ที่เข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรมสร้างศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งจัดโดยชมรมธรรมะจิตอาสา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก
เช้าวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา