๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘

วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีที่ ๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ของศาสนาพุทธ คริสต์ศักราช ๒๐๒๕ ของศาสนาคริสต์ ฮิจเลาะห์ศักราช ๑๔๔๖ ของศาสนาอิสลาม

เดือนนี้เป็นเดือนวิสาขาบูชาของศาสนาพุทธ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านประสูติ ตรัสรู้ เสด็จดับขันธ์สู่ปรินิพพานวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ ตรงกัน ทั้งวันประสูติ ตรัสรู้ เสด็จดับขันธ์สู่ปรินิพพาน

ศาสนาในโลกมีหลายชื่อ เพราะโลกนี้เป็นวงกลมหมุนรอบตัวเอง หมุนรอบดวงอาทิตย์ แต่ความหมายของพระศาสนาก็คืออย่างเดียวกัน คือสัมมาทิฐิ ความเห็นถูกต้อง ความเข้าใจถูกต้อง ปฏิบัติถูกต้อง เพื่อให้เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ ให้เข้าถึงความพอดี เพื่อเป็นมรรคเป็นอริยมรรค

ทุก ๆ ศาสนานั้นมีความหมายอย่างเดียวกัน เป็นความรู้ความเข้าใจ เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เป็นความพอดี ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป เป็นบารมีเบื้องต้น บารมีส่วนกลาง บารมีสูงสุด

ให้พวกเราทั้งหลายเข้าใจเรื่องพระศาสนา ศาสนาเป็นเพียงสมมติสัจจะ ให้เราทั้งหลายพากันเข้าใจ สมมติสัจจะอยู่ในโลกนี้มีหลายล้านสมมตินะ  ชี้ให้เห็นแง่มุมต่าง ๆ ผิดถูกชั่วดี ไม่ผิดไม่ถูก เพื่อให้หมู่มวลมนุษย์ได้เข้าใจในการดำเนินชีวิต

ชีวิตของมนุษย์... มนุษย์เราถึงต้องมีความรู้ความเข้าใจ มีปัญญาสัมมาทิฐิ เข้าใจในสิ่งต่าง ๆ มนุษย์เราจะได้เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เข้าถึงความพอดีที่เป็นบารมี ที่เป็นบารมีที่ประกอบด้วยปัญญา ที่เป็นปัญญาประกอบด้วยความดี

เดือน ๖  เป็นเดือนวิสาขบูชา ของพระศาสนาพุทธน่ะ

ให้เราพวกทั้งหลายรู้พระศาสนาด้วยปัญญามที่เป็นบริสุทธิคุณ เราทั้งหลายเมื่อเข้าใจแล้ว เราจะไม่ได้เอาพระศาสนามาทะเลาะกัน ว่าศาสนาไหนดีกว่ากัน ศาสนาไหนก็ถูกต้องเหมือนกัน พระศาสนามันเป็นชื่อให้พวกเราเข้าใจ

มนุษย์เราน่ะ ถ้าไม่เอาสมมติสัจจะมาใช้มาทำงาน เราก็แยกแยะผิดถูกดีชั่วไมได้

มนุษย์เราทั้งกายวาจากิริยามารยาททั้งอาชีพถึงต้องเอาปัญญานำชีวิตปัญญาก็ต้องเป็นปัญญาบริสุทธิคุณ เป็นธรรมนูญปฏิบัติตัวเองเรียกว่าธรรมนูญสำหรับนำส่วนรวมนำประเทศนำโลกเรียกว่ารัฐธรรมนูญ มันเป็นความดีมันเป็นบารมี  มันเป็นความพอเพียงเพียงพอ

ทุกคนเกิดมาทุกชาติทุกศาสนาโดยสมมติต้องเอาธรรมนำชีวิต เอาธรรรมนูญนำชีวิต ทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์ อย่าให้ขาดตกบกพร่อง ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ทั้งอรรถะทั้งพยัญชนะ ให้สมบูรณ์ เน้นที่ปัจจุบัน อดีตมันผ่านมาแล้ว มันเกษียณแล้วมันอยู่ที่ปัจจุบัน อนาคตที่จะก้าวไปข้างหน้ามันก็อยู่ที่ปัจจุบัน ปัจจุบันถึงเป็นวาระแห่งชาติของเราทุกคน ปัจจุบันถึงเป็นวาระแห่งชาติทั้งกายทั้งวาจาทั้งกิริยามารยาทอาชีพเป็นวาระแห่งชาติในการประพฤติการปฏิบัติ

ความรู้ความเข้าใจนี้ว่าปัจจุบันเป็นวาระแห่งชาติ ไม่ประมาททั้งทางกายวาจากิริยามารยาททั้งอาชีพเพื่อเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เข้าถึงความพอดีเพื่อเราทุกคนจะได้เอาธรรมนูญนำชีวิต

เราจะเป็นใคร นับถือศาสนาอะไรก็ต้องเอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิต ไม่ลิดรอนสิทธิ เพราะทุกอย่างนั้นเป็นใหญ่เฉพาะตน ทุกอย่างนั้นทำหน้าที่ของตัวเองด้วยความเป็นประภัสสร เหตุอย่างไรผลก็อย่างนั้น ปัญญาสัมมาทิฐิถึงเป็นสิ่งที่สำคัญ อริยมรรคทุก ๆ ข้อในแง่มุมของชีวิตต้องมีปัญญาสัมมาทิฐิ

เราต้องรู้หลักการในการประพฤติการปฏิบัติ พึ่งพาความรู้ความเข้าใจ  เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ

เราทุกคนต้องมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ

มนุษย์เราต้องเข้าถึงความรู้เข้าถึงธรรมเข้าถึงปัจจุบันธรรม เข้าถึงพระนิพพานตั้งแต่ยังไม่ละสังขารตั้งแต่ยังไม่วายชนม์

ความรู้ความเข้าใจนี้มันจะหยุดกายวาจากิริยามารยาทอาชีพ

คำว่าหยุดนั้นคือนิพพาน การยกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้องพระนิพพานในแง่ปัญญาสัมมาทิฐิที่เป็นศีลเป็นสมิเป็นปัญญา ถึงเป็นพระนิพพานในปัจจุบัน ไม่ใช่นิพพานเมื่อตายไปแล้ว

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบำเพ็ญพุทธบารมีหลายล้านชาติหลายอสงไขยด้วยความรู้ความเข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติเพื่อความพอเพียงเพียงพอ เพื่อความดีเพื่อบารมี เป็นความสมบูรณ์ทั้งอรรถะทั้งพยัญชนะ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงตรัสรู้ในวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ เรียกว่าเป็นความสมบูรณ์ การประสูติก็วันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ การตรัสรู้ก็วันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ เสด็จดับขันธ์สู่ปรินิพพานก็วันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ เพราะมันเป็นความพอเพียงเพียงพอเป็นความพอดี       เป็นบารมีเบื้องต้นท่ามกลางที่สุด

เรารู้เราเข้าใจ ความรู้ความเข้าใจนี้ไม่ใช่ความจำ ความรู้ความเข้าใจเป็นปัญญาสัมมาทิฐิ

เราไปเรียนหนังสือ หนังสือเรียนนั้นนะถึงจะมากมายก่ายกอง กองใหญ่เท่าภูเขาหรือยิ่งกว่าภูเขา ความสำคัญของการเรียนหนังสือนั้นอยู่ที่ความรู้ความเข้าใจ ไม่ใช่อยู่ที่ความจำ เพราะความจำนั้นถ้าเอาความจำเป็นนิติบุคคลตัวตน มันก็ได้แต่เพียงหลักเหตุผลหลักวิทยาศาสตร์ มันไม่ถึงปัญญาบริสุทธิคุณ                     

ปัญญาสัมมาทิฐิ มันไม่ใช่ความจำ เป็นปัญญาบริสุทธิคุณ มันเป็นการเรียนหนังสือ เพื่อความรู้ความเข้าใจ เพื่อจะเอาไปใช้เอาไปปฏิบัติ การเรียนหนังสือนั้นถึงไม่มีความทุกข์ เพราะไม่ได้เรียนเพื่อจะเอาเพื่อจะมีเพื่อจะเป็นเพื่อจะเด่นเพื่อจะดัง เพื่อจะเพอร์เฟค ว่าเราดีกว่าเค้าเก่งกว่าเค้าเรารวยกว่าเค้า เรามีอำนาจมีเพาเวอร์มากกว่าเค้า การเรียนหนังสือเพื่อความรู้ความเข้าใจ

 

การเรียนหนังสือหมู่มวลมนุษย์เราถึงต้องมีความสุข มีปิติมีความสุขมีเอกัคคตา ในการเรียนหนังสือ เป็นการเรียนรู้เข้าใจ เป็นสัมมาทิฐิ เป็นความรู้ความเข้าใจ ไม่ใช่ความจำ บริโภคปัญญาบริสุทธิคุณ ไม่บริโภคความหลง อย่างนี้ถึงเรียกว่าปัญญาบริสุทธิคุณ

บารมีนั้นมีทั้งหมด ๑๐ ทัศ อย่างต้น อย่างกลาง อย่างสูงสุด เพื่อโฟกัสเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ เพื่อสมบูรณ์ทั้งอรรถะทั้งพยัญชนะ เน้นที่ตัวของเรา ด้วยความตั้งใจด้วยเจตนา ศีลนี้นะเป็นปัญญาสัมมาทิฐิ มีความตั้งใจตั้งเจตนาเพราะศีลนี้คืออุปกรณ์ อุปกรณ์ที่จะมายกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้องน่ะ เพื่อจะมาหยุดสัญชาตญาณที่มันเป็นนิติบุคคลตัวตน

ศีลนี้เป็นสัมมาทิฐิ ถึงเป็นพระนิพพานถึงเป็นความดับไม่เหลือทั้งทางกายวาจาใจกิริยามารยาททั้งอาชีพ ศีลนี้ถึงเป็นพระนิพพานบ้านของเรานะ เป็นความตั้งใจตั้งเจตนา เป็นบารมีเป็นความดีที่ประกอบด้วยปัญญา เป็นปัญญาที่ประกอบด้วยความดี

การปฏิบัติของศีลน่ะที่ติดต่อต่อเนื่องด้วยปัญญาสัมมาทิฐิ หมู่มวลมนุษย์ทั้งหลายถึงจะเป็นผู้ที่มีศีลมีสมาธิมีปัญญา ไม่ไปตามความหลง ไม่ไปตามผัสสะ

มนุษย์เราต้องมีผัสสะทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ เราต้องมีหลักการอุดมการณ์อุดมธรรม เราไม่ไปตามผัสสะ ไม่ไปตามสิ่งแวดล้อม ศีลนี้ถึงเป็นปัญญาสัมมาทิฐิ ที่จะมาหยุดมายกเลิกมาแคนเซิล

สิ่งต่าง ๆ นั้นก็จะมีอยู่อย่างนี้แหละ รูปก็เป็นสิ่งที่มีอยู่ เสียงก็เป็นสิ่งที่มีอยู่ กลิ่น รส โผฏฐัพพะธรรมารมณ์ ใจจิตก็เป็นสิ่งที่มีอยู่

เรารู้เข้าใจ เราจะหยุดได้ด้วยปัญญาสัมมาทิฐิ ด้วยไม่ไปตามสิ่งแวดล้อม เข้าถึงบารมีเข้าถึงความพอดี เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอมีความสงบมีปัญญา ชีวิตของเราก็จะเป็นศีล เป็นศีลโดยธรรมชาติด้วยปัญญาสัมมาทิฐิ ด้วยความตั้งอกตั้งใจตั้งเจตนา มีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ

ถ้าเรามีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ มนุษย์เราก็จะไม่มีความทุกข์

ถ้าเราไม่มีปิติไม่มีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ มนุษย์เราก็จะมีความทุกข์

ความทุกข์กับโรคซึมเศร้ามันก็คืออันเดียวกัน แพทย์ปัจจุบันนี้เค้าเรียกว่าโรคซึมเศร้า จะหยุดได้ด้วยความรู้ความเข้าใจ

เราทั้งหลายต้องเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ อยากให้มันเร็วมันก็ไม่เร็ว อยากให้มันช้ามันก็ไม่ช้า เพราะทุกอย่างมันเป็นประภัสสรของทุกอย่าง

เราทั้งหลายเข้าถึงความพอดีเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ พากันมีปิติมีความสุข มีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อบารมีของเราจะได้สมบูรณ์

เราทั้งหลายไม่ต้องอาศัยใคร อาศัยความรู้ความเข้าใจ พากันมีปิติมีความสุข มีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ การปฏิบัติติดต่อต่อเนื่องอย่างนี้มันจะเป็นสัมมาสมาธิ มันจะเป็นสมาธิธรรมชาติ เราจะได้หยุดวัฏฏสงสารด้วยความรู้ ความเข้าใจ

เราจะไม่ได้ไปตามสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมเค้าก็จะมีอยู่ จะมีอยู่เก้อ ๆ ของเค้า รูปมีอยู่ เสียงมีอยู่ ทุกอย่างมีอยู่ไม่ใช่ไม่มี เป็นความว่างจากสิ่งที่มีอยู่

รู้ด้วยความรู้ความเข้าใจแล้วมีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ เมื่อมันผ่านไปแล้วมันเกษียณไปแล้วก็ให้พวกเราปล่อยให้พวกเราวาง ถ้าเราไม่ปล่อยไม่วางมันก็ไม่ได้ เพราะเราไปลิดรอนสิทธิของธรรมชาติ การลิดรอนสิทธิของธรรมชาติมันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพราะมันเป็นไปไม่ได้

มนุษย์เราต้องเข้าใจว่าความแก่ความเจ็บความตายความพลัดพราก มันเป็นการหมุนเวียนตาหูจมูกลิ้นกายใจ มันเป็นความหมุนเวียนของเหตุของปัจจัย

มนุษย์เราทั้งหลายต้องมีปัญญาสัมมาทิฐิ รู้แจ้งโลกรู้แจ้งธรรม ว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมันคือเหตุคือปัจจัย ให้เราทั้งหลายถือโอกาสถือเวลาในการประพฤติการปฏิบัติ ว่าสิ่งเหล่านี้แหละมันเป็นข้อสอบหรือว่าเป็นโจทย์ เราก็ตอบด้วยความรู้ความเข้าใจ

มันจะยากอะไร เราก็มีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ ต้องเข้าใจง่าย ๆ อย่างนี้ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันเข้าใจไม่ได้ มันเข้าใจยาก เอาตัวตนเป็นที่ตั้งคือมันไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ทางไม่มีทางมันเป็นทางตันเค้าเรียกตัณหา ผู้หาเรื่องหาราวให้ตัวเอง ผู้หาเรื่องหาราวให้คนอื่น ศัพท์นี้มีความหมายกินใจลึกซึ้ง

ให้พวกเราเข้าใจนะ พวกเราอย่าหาเรื่องหาราวให้ตนเอง อย่าหาเรื่องหาราวให้คนอื่น เราต้องรู้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้พากันมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ

เราทั้งหลาย ถือว่าเราโชคดี ที่เราได้มีโอกาสมีเวลาในสร้างความดีเพื่อเข้าถึง ความดีเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เพื่อเป็นบารมีเบื้องต้นท่ามกลางที่สุด

ให้รู้เข้าใจ อาศัยความรู้ที่มีอยู่นี้แหละ ความรู้จากการเรียนการศึกษาจากหนังสือ ความรู้จากทางวิทยาศาสตร์ความรู้จากการฟังการบรรยาย แล้วพากันเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ

ปริยัติ ความรู้ถึงเป็นคู่กับการประพฤติการปฏิบัติมันแยกกันไม่ได้ ความรู้ต้องคู่กับการประพฤติการปฏิบัติ มันแยกกันไม่ได้ ถ้าแยกกันแล้วมันจะไม่ทันเวลา มันจะเข้าถึงความพอดีไม่เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ มันจะไม่เป็นบารมี ไม่เป็นความดีที่ประกอบด้วยปัญญา

การประพฤติการปฏิบัติมันเป็นเรื่องกายวาจาใจกิริยามารยาทอาชีพที่มันเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม เราทั้งหลายถึงเอาความหลงนำชีวิตไม่ได้เอาความไม่รู้ไม่เข้าใจนำชีวิตไม่ได้ เพราะตัวตนนั้นเรียกว่าความไม่ถูกต้อง ตัวตนนั้นคือทุจริต ใครมีตัวมีตนบุคคลนั้นทุจริตทั้งหมด

ผู้ที่ไม่ทุจริตที่เรามองเห็นด้วยความรู้ความเข้าใจของเราก็คือพระพุทธเจ้ากับพระอรหันต์

พระอรหันต์ก็มีได้ทุก ๆ ศาสนานะ ไม่ใช่ศาสนาใดศาสนาหนึ่งนะ ให้เข้าใจอย่างนี้

เราอย่าไปเข้าใจให้เป็นนิติบุคคลตัวตน เดี๋ยวจะสำคัญมั่นหมายว่าเราเป็นผู้หญิงผู้ชายหนุ่มสาวคนแก่เฒ่าชราเป็นคนพลัดพราก เป็นคนดี เป็นคนเก่ง เป็นคนฉลาด มีเพาเวอร์มากกว่าเค้า มีเขามีเราอย่างนี้ไม่ใช่

เราต้องรู้เข้าใจ เราจะได้รู้จักความดีที่เป็นปัญญาบริสุทธิคุณ เราทั้งหลายจะได้บำเพ็ญบารมี ๑๐ ทัศ ๒๐ ทัศ ๓๐ ทัศ ด้วยความรู้ความเข้าใจ

เราทั้งหลายจะไม่ได้หลงไหล เอาความไม่ถูกต้องนำชีวิต เอาโลกธรรมนำชีวิตเรียกว่าเอาตัวตนนำชีวิต ทางวิทยาศาสตร์กับเรื่องจิตเรี่องใจถึงไปพร้อมกันมันถึงจะเป็นความพอเพียงเพียงพอ ทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์

มนุษย์เราน่ะต้องเอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิตไม่อาศัยใคร อาศัยการประพฤติการปฏิบัติด้วยปลีแข้งของตัวเอง

เราทั้งหลายน่ะต้องเข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติเราไม่ต้องอาศัยใคร

อย่างเราเกิดมาอย่างนี้แหละเราก็อาศัยพ่ออาศัยแม่ตั้งแต่ในท้องถึง ๖,๗ ขวบ ๖,๗ ปีอย่างนี้ อาศัยพ่ออาศัยแม่ เมื่อรู้เข้าใจแล้วเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ               

เรามองเห็นเด็กเล็ก ๆ สมัยครั้งพุทธกาลเมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ ๆ อายุเพียง ๖,๗ ขวบ รู้เข้าใจแล้วเอาธรรมนำชีวิตได้บรรลุธรรมเป็นพระอริยเจ้า เป็นพระอรหันต์ด้วยความรู้ความเข้าใจเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ เพราะความรู้ความเข้าใจ มันต้องเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ ถ้าไม่รู้ไม่เข้าใจมันก็จะไปอย่างความไม่รู้ไม่เข้าใจ

ท่านจึงตรัสว่าทุกคนมีกรรมเป็นของของตน มีกรรมเป็นที่พึ่ง มีกรรมเป็นแดนเกิด ใครทำกรรมใดไว้ก็จะได้รับผลของกรรมนั้น ๆ สืบไป มันจะดีจะชั่วมันก็คือกรรมคือผลของกรรม

กรรมนี้เรียกว่าเป็นอุปกรณ์ของดีของชั่วเรื่องผิดเรื่องถูก

มนุษย์เราต้องมีปัญญาสัมมาทิฐิ ต้องรู้จักกรรม รู้จักคำว่ากรรมกร กรรมกรกับปัญญานี้ต้องมาทำงานร่วมกัน ต้องมีปัญญาสัมมาทิฐิเพื่อเอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนูญนำชีวิต พระธรรมพระวินัยสิกขาบทน้อยใหญ่ของศาสนาพุทธมีหลายล้านสมมติหลายล้านสัจจะ แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์

เราต้องรู้เข้าใจเรื่องพระธรรมพระวินัย เรื่องสมมติสัจจะมันเป็นการหยุดกรรมยกเลิกกรรมที่ไม่ดี ทำแต่กรรมที่ประกอบด้วยสัมมาทิฐิประกอบด้วยปัญญา

เราต้องเข้าใจความหมายในเรื่องศีล ศีลคือมายกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ด้วยการประพฤติการปฏิบัติไม่อาศัยใคร อาศัยความตั้งใจเจตนาปฏิบัติติดต่อต่อเนื่องมันก็เป็นสัมมาสมาธิโดยธรรมชาติ

ศาสนาถึงเป็นเรื่องสมมติสัจด้วยความรู้ด้วยปัญญา ศาสนาถึงเป็นสมถะเป็นวิปัสสนาเป็นความรู้คู่กับการประพฤติการปฏิบัติ เป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญาไปพร้อม ๆ กัน ถึงจะเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรมเป็นความดีเป็นบารมี ให้ทุกคนเข้าใจ

เราทั้งหลายน่ะอายุ ๖ ขวบ ๗ ขวบผ่านมาแล้วต้องบรรลุนิติภาวะ เอาความหลงเป็นที่ตั้งเอาตัวตนเป็นที่ตั้งเรียกว่าบุคคลนั้นไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่รู้จักรับผิดชอบผิดถูกดีชั่ว

เราต้องรู้เข้าใจ เพราะการดำเนินชีวิตของเรามันเป็นกรรมเป็นกฎแห่งกรรมเป็นผลของกรรม มันเป็นรายรับรายจ่ายนะ

เรามีตามันก็มีรูปนี้ก็มองเห็นว่าเป็นรายรับ เราก็จ่ายด้วยความรู้ความเข้าใจ เราก็ไม่ไปตามสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมก็มีอยู่เก้อ ๆ ขอสิ่งแวดล้อมนั้น เราต้องรู้เข้าใจว่ามันเป็นรายรับรายจ่ายมันจะเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอมันจะเป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญา มันจะว่างจากสิ่งที่มีอยู่ ไม่ใช่ว่างจากสิ่งที่ไม่มีอยู่

เราไม่รู้ไม่เข้าใจเราแสวงหาความหลง แสวงหาทำอะไรตามใจ

เมื่อก่อนเราไม่รู้ไม่เข้าใจ เราก็จะเอาแต่ความว่างจากสิ่งที่ไม่มีอยู่ อันนั้นมันว่างจากสิ่งที่ไม่มี เราต้องรู้เข้าใจ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่ามันต้องว่างจากสิ่งที่มีอยู่นี้แหละ มีธาตุขันธ์อายตนะ มีธาตุทั้ง ๔ ขันธ์ทั้ง ๕ อายตนะภายใน ๖ ภายนอก ๖ รวมกันเป็น ๑๒ เรารู้อย่างนี้ต้องเข้าใจ เราจะได้ว่าจากสิ่งที่มีอยู่

เราจะไม่ได้คิดเหมือนแต่ก่อน จะเอาไปความสงบจากสิ่งที่ไม่มีอยู่ มันจะมีประโยขน์อะไร มีประโยชน์ก็มีน้อย เราต้องรู้เข้าใจ จะมีประโยชน์อะไรว่างจากสิ่งที่ไม่มีอยู่ เหมือนคนที่ตายแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร

คนไม่มีตาก็ไม่มีรูปอยู่แล้ว คนไม่มีจมูกก็ไม่มีกลิ่น คนไม่มีลิ้นก็ไม่มีรส คนไม่มีกายก็ไม่มีสัมผัส คนไม่มีใจก็ไม่มีจิต เราคิดดูดี ๆ นะมันจะมีประโยชน์อะไร มันก็ไม่เป็นความดีไม่เป็นปัญญาบริสุทธิคุณ

เราทั้งหลายต้องเข้าใจนะ แต่ก่อนเราไม่รู้ไม่เข้าใจ จะไปแสวงหาทำอะไร ตามอกตามใจจะไปว่างจากสิ่งที่ไม่มี ไปหาความสงบจากทุ่งใหญ่นเรศวรโน่น ไปหาความสงบที่ห้วยขาแข้งโน่นแหละ ไปหาความสงบจากเขาใหญ่ภูสอยเดือนสอยดาวสอยดวงอาทิตย์อะไรต่าง ๆ อันนั้นมันเป็นความว่างจริงอยู่ แต่ว่างจากสิ่งที่  ไม่มี เราต้องรู้เข้าใจ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่าเราต้องรู้เข้าใจเราต้องเข้าถึงความว่างจากสิ่งที่มีอยู่ เราทั้งหลายถึงจะเป็นปัญญาสัมมาทิฐิ

อยู่ในกรุงเทพมหานครปริมณฑลเมืองหลวงก็ให้ว่างจากสิ่งที่มีอยู่ อยู่ในต่างจังหวัด อยู่ในป่าเขาลำเนาไพรก็ให้ว่างจากสิ่งที่มีอยู่

ให้รู้เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่มีการประพฤติการปฏิบัติ

เราคิดดูสิ ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจก็ไม่รู้จักการประพฤติการปฏิบัติมันก็ไปอย่างเก่า มันไม่ใช่ความดีที่ประกอบด้วยปัญญา เหมือนไก่มันก็คือไก่ ไม่เข้าใจ วัวก็คือวัว ควายก็คือควาย คนก็คือคน มันก็จะไปของมันอย่างนี้แหละ

ปัญญาสัมมาทิฐิเราต้องรู้เข้าใจ เราทั้งหลายต้องพากันว่างจากสิ่งที่มีอยู่ ถึงจะเป็นบารมีเป็นความดีที่ประกอบด้วยปัญญา ไม่อย่างนั้นน่ะ พวกเราทั้งหลายจะพากันเป็นมนุษย์ไม่ได้ จะเป็นได้แต่เพียงความหลงเป็นได้แต่เพียงคน ย่ำต๊อกอยู่ในนิติบุคคลตัวตน

คำว่าคนแปลว่าความหลง หลงอยู่ในภพภูมิ ๓๑ ภพภูมิ ภพภูมิต่ำ ตรงกลาง สูง จะมีอยู่ ๓๑ ภพภูมิ ถ้าจะพูดไปมันก็ยาวให้ไปอ่านเอาในหนังสือ

ภพภูมิทั้งหมด ๓๑ ภพภูมิ ให้เข้าใจ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันวกวนอยู่ในภพภูมิต่าง ๆ ด้วยไม่รู้ไม่เข้าใจ

เราต้องรู้เข้าใจ เราจะได้เข้าใจในเรื่องพระนิพพาน พระนิพพานก็เป็นความว่างจากสิ่งที่มีอยู่ ให้รู้เข้าใจพระนิพพานถึงเป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญา

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านถึงตรัสว่าสมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ นี้มันมีอยู่กับทุก ๆ คนที่รู้เข้าใจแล้วเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ พากันมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ

เราทั้งหลายต้องพากันประพฤติพากันปฏิบัติเอาเอง พวกเราทั้งหลายจะได้เป็นมนุษย์ ไม่เป็นได้แต่เพียงคน ไม่เป็นได้แต่เพียงความหลง ย่ำต๊อกในความหลง ความหลงคือความไม่ถูกต้อง ความหลงมันจะพังทลาย พังทลายเหมือนตึก สตง.นี้นะ

ตึกสตง.ของเมืองไทยอยู่ที่กรุงเทพมหานคร อยู่ที่เมืองหลวง ศูนย์กลางส่วนรวมเหมือนศูนย์กลางของสมองนี้แหละเพื่อดูแลสรีระร่างกาย ศูนย์กลางของหัวใจส่งเลือดไปเลี้ยงสรีระ กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางของเมืองหลวงที่นั่นมีตึก สตง. เพื่อตรวจสอบเรื่องโกงกินคอร์รัปชั่น เพราะความเสียหายของมนุษย์นี้มันเสียหายจากความไม่รู้ความไม่เข้าใจ เอาความไม่รู้ไม่เข้าใจนำชีวิตมันเลยทุจริต ด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ มันไปเอาความสุขจากความหลง มันไปเอาความสุขจากคนอื่นสัตว์อื่น

การบริหารประเทศมันต้องเป็นบริสุทธิคุณ ไม่เอาความสุขจากความหลง ไม่เอาความสุขจากคนอื่น มันต้องมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติไม่เอาความสุขจากความหลง ไม่เอาความสุขจากคนอื่น

เราทั้งหลายต้องเป็นผู้ให้เป็นผู้เสียสละเน้นมาที่ตัวเราให้มันเป็นความดีเป็นบารมีอยู่ที่ตัวเรา เรามีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติเน้นที่ตัวเรา ถ้าเราไปเอาความสุขจากความหลงไปเอาความสุขจากคนอื่น ชีวิตของเรามันก็จะพังทลายด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ มันจะพังทลายเหมือนตึก สตง.นี้นะ

เราก็พูดในสิ่งที่มองเห็นนี้แหละ แผ่นดินไหวอยู่ไกลนะ อยู่เมืองมัณฑะเลย์ อยู่ประเทศพม่าห่างไกลจากกรุงเทพมหานครร่วม ๆ พันกิโลเมตร ตึกอื่นมีเยอะแยะปัจจุบันนี้เกือบจะเป็นร้อยตึกที่สูงใหญ่กว่าตึก สตง.แต่ก็ไม่พังทลาย

ตึก สตง.น่ะ เล็กกว่าเตี้ยกว่ากลับพังทลายเพราะเอาความหลงนำชีวิต เอาความไม่ถูกต้องนำชีวิตมันก็ต้องพังทลายเหมือนตึกสตง.

เราให้คิดดูดี ๆ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งคนจนก็มีทุกข์เพราะไม่มี คนรวยก็เป็นทุกข์เพราะไม่รู้จักพอ สองคนนี้แหละมันก็ทุกข์พอ ๆ กัน ชีวิตของคนไม่รู้ไม่เข้าใจมันจะเข้าถึงความพอเพียงเพียงพอไม่ได้ มันจะพังทลายเหมือนตึก สตง.นี้นะ

ไม่ใช่ตึกต่าง ๆ นั้นเค้าไม่โกงกินคอร์รัปชั่น เค้าคอร์รัปชั่นน้อยกว่า พอที่จะรับแรงแผ่นดินไหวจากมัณฑะเลย์ประเทศพม่านี้ได้

เราต้องรู้เข้าใจเราจะได้พากันเน้นที่เรานี้แหละอย่างพระพุทธเจ้าก็เน้นที่ตัวของพระพุทธเจ้า พระเยซูก็เน้นที่ตัวของพระเยซู พระนบีมูฮัมหมัดก็เน้นที่ตัวของพระนบีมูฮัมหมัด ท่านก็เน้นที่ท่านทุกคนก็เน้นที่ตัวเรา เพื่อเข้าถึงความพอดี เข้าถึงความพอเพียงเพียงพอ เข้าถึงบารมีเข้าถึงปัญญา เข้าถึงความสงบ

เพราะเราต้องเข้าถึงความถูกต้องเข้าถึงบริสุทธิคุณทั้งกายวาจากิริยามารยาทอาชีพยกเลิกทุจริต ถ้าเราไม่ยกเลิกมันก็พังทลายเหมือนตึก สตง. มัวแต่ไปแก้ไขคนอื่น มัวแต่ไปแก้ไขลูกหลาน แก้ไขใครต่อใคร แต่ไม่ได้แก้ไขตัวเอง มันเป็นไปในทางนิติบุคคลตัวตน เป็นทางวัตถุทางวิทยาศาสตร์ ไม่ได้เอาเรื่องจิตเรื่องใจไปพร้อมกันเป็นทางสายกลาง มันเอาแต่ตัวแต่ตน เอาความไม่ถูกต้องนำชีวิตเรียกว่าเอาโลกธรรมนำชีวิต ไม่ได้เอาธรรมนูญ รัฐธรรมนูญนำชีวิต ชีวิตของเรามันเลยตกต่ำ มันเลยพังทลายด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ มันตกต่ำไปสู่อบายมุข ตกอยู่ในภพภูมิ ๓๑                   ภพภูมิ

ให้รู้เข้าใจ ความไม่รู้ไม่เข้าใจมันจะทำลายตัวเองไปด้วยเรีกยว่าทำลายความถูกต้อง ระเบิดความถูกต้อง กายวาจามันจะทำลายความถูกต้อง มันจะระเบิดตัวของเราเอง เรียกว่าระเบิดเวลาตลอดกาลตลอดเวลา เรียกว่าหัวใจแห่งอวิชชาแห่งความหลง

จะพูดมองให้เห็นในแง่มุม มันเป็นหัวใจบ่อนความหลง หรือหัวใจบ่อนคาสิโน              

เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ให้ผู้มีปัญญาผู้แก่เรียนทั้งหลายผู้บริหารตัวเองบริหารคนอื่นให้เข้าใจ อย่าพากันแก้แต่ภายนอกอย่างเดียว เราไปแก้ภายนอก ไม่ได้แก้ตัวเอง ลูกหลานมันก็มาเถียงเราว่า ทำไมเราไม่เอาธรรมนำชีวิตไม่เอาธรรมนูญนำชีวิต                    

เราเป็นข้าราชการนักการเมือง เป็นนักบวช ประชากรของโลกเค้าก็ออกมาเดินขบวนว่าไม่ถูกต้องนะ การเดินขบยนใครเค้าอยากจะเดินขบวน เพราะการเดินขบวนมันไม่มีงบประมาณ มันลำบากเหลือเกิน

พวกเราทั้งหลายเป็นมนุษย์เป็นผู้ประเสริฐให้เข้าใจ เราทั้งหลายจะได้พากันมีปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการประพฤติการปฏิบัติ พากันสร้างความดีสร้างบารมี เข้าถึงความพอเพียเงพียงพอ มันจะมีประโยชน์อะไรถึงจะมีชีวิตอยู่เป็นหลายพันปีหมื่นปี เอาความไม่ถูกต้องนำชีวิตมันจะมีประโยชน์อะไร เราจะไปเอาความหลงนำชีวิต

อย่าไปคิดในแง่เดียวมุมเดียวคิดว่าการตั้งบ่อนคาสิโนดีมาก เพราะคนเรามันห้ามยาก ทำอย่างไรบอกอย่างไรก็ไม่หยุด

ทุกคนก็ไม่ต้องไปห้ามคนอื่นห้ามตัวเองนี้แหละ ทั้งกายทั้งวาจากิริยามารยาททั้งอาชีพต้องมีปัญญาสัมมาทิฐิ เน้นมาที่ตัวเรา ต้องรู้เข้าใจเราไม่ต้องไปห้ามใคร เราต้องยกเลิกอบายมุขอบายภูมิ ยกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้องในตัวของเรานี้แหละ

เราอย่าให้เอาสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้ถูกต้องตามกฎหมายเพราะเหตุผลว่ามันไปไม่ได้มันไม่มีทางไม่ใช่ทางมันเป็นทางตัน มันเป็นการหาเรื่องหาราวให้กับตัวเอง หาเรื่อง หาราวให้กับคนอื่น อย่างนี้มันมีแต่ทุกข์เกิดขึ้น ทุกข์ตั้งอยู่ ทุกข์ดับไป นอกจากทุกข์ไม่มีหรอก

ให้เรารู้เข้าใจ มันไม่ใช่ความดี ไม่ใช่ปัญญา มันเป็นอวิชชาเป็นความหลง

เราอย่าไปคิดว่าประเทศสิงคโปร์ ประเทศเค้าเล็กนิดเดียวเค้ารวยมากของเอเชีย มาเก๊าอยู่ส่วนหนึ่งของประเทศจีนเค้ารวยเพราะเค้าตั้งบ่อนคาสิโน ทำไมเค้ารวยแท้ เมื่อเราห้ามเขาไม่ได้ เราก็ตั้งบ่อนคาสิโนให้ถูกต้องตามกฎหมายเราจะได้รวย

เราคิดอย่างนี้เรียกว่าเอาความหลงนำชีวิต เอาความไม่ถูกต้องนำชีวิต

ทุกศาสนามายกเลิกบ่อนคาสิโน ยกเลิกอบายมุขอบายภูมิ เราอย่าเอาความหลงนำชีวิต

ถ้าทุกคนเน้นมาที่ตัวของเราเอง ลูกมันก็ไม่เถียงเราเพราะเราเอาความดีที่ประกอบด้วยปัญญา เพราะเราเป็นพ่อเป็นแม่เป็นข้าราชการนักการเมือง เราต้องเอาแบบเอาพิมพ์ เอาความถูกต้อง เอาธรรมนำชีวิต เพื่อให้เป็นภาพรวมของรัฐธรรมนูญ อย่าไปคิดว่าสร้างบ่อนคาสิโน มันรวยนะ

เราคิดดูดี ๆ สิประเทศสิงคโปร์ มาเก๊าเล็กนิดเดียวเท่ากับอำเภอหนึ่งของเมืองไทยไม่ได้

เค้าคิดว่าคนในโลกนี้คนฉลาดมีปัญญาเอาธรรมเอาความถูกต้องนำชีวิตมันมีน้อย ถ้าตั้งบ่อนคาสิโนหาเงินหาสตางค์กับพวกเอาความหลงนำชีวิตมันรวยได้ ด้วยเหตุด้วยปัจจัยนี้เค้าถึงตั้งบ่อนคาสิโน

เราอยู่เมืองไทยประเทศเราไม่ต้องไปสร้างบ่อนคาสิโน ไม่ต้องเอาความหลงนำชีวิต ไม่ต้องเอาธรรมนำชีวิต ปิติมีความสุขมีเอกัคคตาในการดำเนินชีวิต เราทั้งหลายต้องรู้เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ คนเราถ้ารู้เข้าใจมันก็เป็นความดีเป็นบารมีอยู่ในตัวอยู่แล้ว เราต้องเข้าสู่ธรรมสู่ปัจจุบันธรรม

เราทั้งหลายต้องเข้าใจนะ เราทั้งหลายจะได้เอาความถูกต้องกลับคืนมาเอาพระนิพพานกลับคืนมา เอาบริสุทธิคุณกลับคืนมา ให้ถือว่าพระนิพพานคือบ้านของเรา ศีลสมาธิปัญญาที่เป็นบริสุทธิคุณคือบ้านของเรา ทำความดีเพื่อความดีที่เป็นบารมีเบื้องต้นท่ามกลางที่สุด เรียกว่าเป็นบารมี ๓๐ ทัศ

เดือนวิสาขาเป็นเดือนแห่งการระลึกถึงความถูกต้องระลึงถึงความดีด้วยเหตุด้วยปัจจัย ทุกศาสนาต้องก้าวไปด้วยความรู้ความเข้าใจ ให้ท่านทั้งหลายรู้เข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ ไม่เอาความรู้สึกนำชีวิต ไม่เอานิติบุคคลนำชีวิตเอาธรรมนูญ รัฐธรรมนูญนำชีวิต เอาพระศาสนานำชีวิต ด้วยความรู้ความเข้าใจ มีความสุขมีปิติในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อหยุดสัญชาตญาณด้วยความรู้ความเข้าใจเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ เพื่อให้สมบูรณ์ด้วยอรรถะทั้งพยัญชนะ

                                                          

สมบูรณ์... เป็นความสมบูรณ์แห่งวิสาขบูชาในพระจันทร์วันเพ็ญ ด้วยความเพียงพอพอเพียง มีทั้งความสงบมีทั้งปัญญาไปพร้อม ๆ กัน       เป็นทางสายกลาง เป็นธรรมเป็นธรรมนูญเป็นรัฐธรรมนูญ สมบูรณ์ด้วยทั้งอรรถะทั้งพยัญชนะ ด้วยความสมบูรณ์ เป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม

การบรรยายพระธรรมคำสั่งสอนของพระศาสนาที่ให้ความรู้ความเข้าใจ เพื่อเราทั้งหลายจะได้เข้าสู่บารมีเป็นบารมีที่ประกอบด้วยปัญญาบริสุทธิคุณ มีปิติมีสุขมีเอกัคคตาในวันนี้เป็นปัจจุบันธรรม มันเป็นความดีที่ประกอบด้วยปัญญาที่บริสุทธิคุณ เป็นบารมีเพื่อยกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้ความถูกต้องนั้นมาทดแทน หรือว่าทดแทนคุณแผ่นดิน ทดแทนคุณแห่งชาติ ทดแทนคุณพระศาสนา เพื่อเป็นบารมีของเราเอง อุทิศบุญกุศลให้ผู้วายชนม์จากไป

ขออนุโมทนากับท่านทั้งหลายนะ ท่านทั้งหลายเป็นผู้ประเสริฐมีลมปราณ มีโอกาสมีเวลาให้พากันเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ มีปิติมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ ทุกท่านทุกคนก็จะเข้าถึงพระนิพพานบ้านของเรา ถึงบริสุทธิคุณ ด้วยความรู้ความเข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติ

----------------------------------------

โอวาทขององค์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม

เมตตาให้ไว้ในเช้าวันพฤหัสบดีที่ ๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘

ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

Visitors: 94,980